ถอดสลักติดขัด!‘สุทิน’ยัน‘ประธานสภาฯ’เป็นของ‘ก้าวไกล’ เปิดทาง‘จัดตั้งรัฐบาล’เดินหน้า ไม่หวั่น 20 ส.ส.ถูกร้อง พร้อมแจง-ข้อกล่าวหาเล็กน้อย ชี้ตำแหน่ง ‘ประมุขนิติบัญญัติ’ ไม่ใช่ตัวคุมเกมเบ็ดเสร็จต้องถูกถ่วงดุลจากส.ส.
เมื่อเวลา 09.45 น.วันที่ 20 มิถุนายน 2566 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้ไปรับเอกสารรับรองสมาชิกภาพส.ส. จากกกต.ในวันนี้ เนื่องจากพรรคจะมอบหมายให้ผู้แทนไปรับในวันที่ 21 มิ.ย. และมารายงานตัวพร้อมกันในวันที่ 22 มิ.ย. แต่ดีใจที่ กกต. รับรองเร็วขึ้น เพราะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าเร็วขึ้น และเชื่อว่าประชาชนรออยู่ แต่การประกาศเร็วก็ต้องมีความรอบคอบด้วย ก่อนหน้านี้มีเรื่องร้องเรียนว่าที่ส.ส. จำนวน 82 คน ซึ่งกกต.กำลังสอบสวนอยู่ และไม่แปลก ในส่วนของว่าที่ส.ส.ของพรรคประมาณ20คนที่ถูกร้อง เราพร้อมเข้าสู่กระบวนการชี้แจง แต่ไม่หนักใจเพราะส่วนใหญ่เป็นข้อกล่าวหาเล็กๆน้อยๆ ไม่ได้ถึงขั้นใบแดง เช่น การติดป้ายผิดที่ ติดป้ายใกล้หน่วยเลือกตั้ง การปราศรัย เป็นต้น
นายสุทิน กล่าวถึงความชัดเจนต่อการแบ่งโควต้าประธานสภาฯว่า เป็นการพูดคุยในระดับว่า ประธานสภาฯ จะเป็นของพรรคก้าวไกล และตามที่ข่าวระบุว่า พรรคเพื่อไทยยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกลนั้น เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้า ดังนั้นพรรคเพื่อไทยพร้อมถอดสลักเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าได้ ไม่ต้องติดขัด ไม่เช่นนั้นจะติดขัดเดินหน้าไปไม่ได้
เมื่อถามว่าประเด็นของพรรคก้าวไกลต่อความพยายามผลักดันร่างกฎหมายที่สังคมมองว่ามีปัญหา ดังนั้นหากประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกลจะทำให้เกิดชนวนเป็นความวุ่นวายทางการเมืองหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ประธานสภาฯ ไม่สามารถผลักดันอะไรได้ด้วยตนเอง ทั้งการบรรจุวาระ ต้องคำนึงถึงข้อบังคับและฟังเสียงของส.ส. ประธานสภาฯต้องถูกกำกับและถ่วงดุลโดยส.ส.
เมื่อถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยมองว่าแม้ยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกล ก็ไม่ใช่คนคุมเกมเบ็ดเสร็จหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “เรามองอย่างนั้น และยังมองว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่สามารถคิดตามใจตนเองได้ ต้องยึดกรอบของข้อบังคับ”
เมื่อถามถึงการแบ่งโควต้าของรองประธานสภาฯ นายสุทินว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลต้องคุยกัน ไม่มีพรรคการเมืองอื่น ทั้งนี้ในการคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งของพรรคเพื่อไทย เท่าที่พูดคุยมีตัวเลือกที่มาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ตามกลไกของพรรคจะหาข้อสรุปได้ไม่ยาก
“สเปคของรองประธานสภาฯ ที่พรรคเพื่อไทยจะคัดเลือก เท่าที่คุย คือ ประสบการณ์ ต้องเป็นส.ส.และอยู่ในสภา พอสมควร และมีวุฒิภาวะ เพราะคนที่เป็นประธานรองประธานหากวุฒิภาวะไม่ได้จะยุ่ง ผมมองว่า2ข้อนั้นสำคัญ ส่วนที่มีคนระบุว่าให้คัดเลือกบุคคลที่ได้มาตรฐานอย่างนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ นั้น ผมมองว่าต้องยึดมาตรฐานดังกล่าว แต่บุคลิกอาจไม่เท่า เพราะคนหนุ่มที่แม่นข้อบังคับสามารถทำได้” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีชื่อเป็นแคนดิเดตประธานสภาฯด้วย นายสุทิน กล่าวยอมรับว่า “คิดๆ กันไว้ หากนพ.ชลน่าน ได้เป็นประธานสภาฯ ต้องพิจารณาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะต้องเป็นกลาง แต่ไม่เรื่องยาก กลไกของพรรคเพื่อไทยทำได้ และมีตัวเลือกเยอะ”
นอกจากนี้ นายสุทิน ยังเปิดเผยว่า สมาชิกพรรคหลายคนไม่เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยจะยกตำแหน่งประธานสภาฯให้แก่พรรคก้าวไกล ซึ่งในวันที่ 21 มิ.ย. พรรคจะจัดกิจกรรมปฐมนิเทศส.ส. ซึ่งเราจะถือโอกาสนี้รับฟังเสียงของสมาชิกในเรื่องนี้ด้วย
นายสุทิน ยังแสดงความเป็นห่วงกรณี กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง100เปอร์เซ็นต์แล้วค่อยมาตรวจสอบส.ส.ภายหลัง เพราะจะสร้างปัญหาให้เกิดความวุ่นวายยุ่งยาก โดยเฉพาะจำนวนโควต้ารัฐมนตรี กรรมาธิการชุดต่างๆ จึงไม่เข้าเจตนาของกกต. ซึ่งอาจเป็นเพราะต้องการลดแรงกดดันของสังคมที่ต้องการให้ประกาศรับรองผลโดยเร็ว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี