‘นายกฯ’เปิดแอพฯ ‘ไทยดี’ หวังปชช.เข้าถึงบริการภาครัฐสะดวก ชี้รัฐบาลยุคใหม่ต้องทำงานด้วยระบบดิจิทัล
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่ลาน Promotion ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด “การใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ” โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นวันที่น่ายินดีในการเปิดตัวการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการ และถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนภาคธุรกิจซึ่งเป็นห่วงตลอดเวลาที่ผ่านมาในช่วงโควิด 19 วันนี้ทราบว่าหลายๆอย่างดีขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้รัฐบาลมุ่งมั่นนำพาประเทศไทยไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ตามนโยบาย 4.0 โดยนำเทคโนโลยีมาประกอบในการเพิ่มศักยภาพในภาครัฐ ตอบสนองความต้องการประชาชนได้อย่างทั่วถึงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้ทุกคนเข้าถึงงานบริการภาครัฐได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และมีความปลอดภัย ถือเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีภาครัฐเพื่อพี่น้องประชาชน ขอชื่นชมกระทรวงมหาดไทยกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ผนึกกำลังร่วมกันดำเนินโครงการจนสำเร็จเปิดได้ในครั้งนี้ ถือเป็นการนำมาใช้สร้างศักยภาพเศรษฐกิจสังคม ของประเทศ รวมถึงพัฒนาสารสนเทศของภาครัฐเท่าเทียมมาตรฐานสากล หวังว่าหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนการทำงานตรงนี้ไม่ใช่ทำวันนี้พรุ่งนี้เสร็จ เราทำงานมาตั้งแต่ปี 2562 เดินหน้ามาเรื่อยๆและมีการปรับปรุงกฎหมายหลักกฎหมายรองต่างๆจนกระทั่งวันนี้เดินหน้ามาสู่ความสำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาต่อไปที่จะนำมาใช้ให้มากขึ้นนอกจากภาครัฐภาค เอกชน ภาคธุรกิจต่างๆก็สามารถที่จะนำมาใช้งานได้ตรงนี้ คงจะต้องมีการพัฒนาต่อไป ประเด็นสำคัญเราต้องการอำนวยความสะดวกประชาชน ลดภาระค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางมาติดต่อหน้าสำนักงาน ซึ่งได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับตรงนี้ มีคนใช้งานกว่า 60 ล้านคน จะทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วขึ้น ข้อสำคัญคือความปลอดภัยในการใช้งาน รู้เท่าทันการใช้เทคโนโลยีระบบออนไลน์หรือโทรศัพท์ต่างๆให้เกิดความปลอดภัย การใช้ทุกคนจะต้องมีภูมิคุ้มกันพอสมควร เพราะบางอย่างมีการบิดเบือน ซึ่งมีทั้งคุณและโทษ ก็ต้องทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดคุณประโยชน์อย่างแท้จริง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีหัวหน้ารัฐบาล พยายามทำทุกมิติโดยร่วมมือกันทำงานตรงนี้ทุกด้าน ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจสังคม อะไรต่างๆก็แล้วแต่ นั่นคือหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกัน สุดท้ายนี้ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันขับเคลื่อนโครงการดีๆเหล่านี้และต่อยอดไปสู่การพัฒนาระบบการให้บริการภาครัฐที่ครอบคลุมทุกหน่วยงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับระบบราชการไทย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า โดยใช้งานผ่านแอพพลิเคชันไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ ว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลริเริ่มมาหลายปี และเป็นไปตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ ซึ่งวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ การอำนวยความสะดวกดังกล่าวจะเป็นการลดอุปสรรคและปัญหา แต่จะต้องมีระบบความปลอดภัยด้วย จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมพร้อมกับการให้บริการพร้อมกับการให้บริการ ดังนั้นอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาใช้บริการ ซึ่งมีทั้งส่วนราชการและเอกชนหากเชื่อมโยงกันได้ก็จะเป็นการลดภาระและทำให้การเข้าถึงบริการเร็วขึ้น ทั้งนี้ วันนี้ถือเป็นการเปิดอย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทดลองใช้มาแล้ว และหลายอย่างต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ทั้งกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ทุกอย่างจะทำอะไรต้องใช้กฎหมายทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต้องมีการประชาสัมพันธ์ต่อไปและมีการติดตามประเมินผลด้วย แต่ปัญหาคือการสร้างการรับรู้ต้องฝากสื่อมวลชนให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงไม่เช่นนั้นก็จะไปสนใจเรื่องอื่นกันมากกว่า เพราะนี่คือการแก้ไขปัญหาการให้บริการของภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลยุคใหม่จะต้องทำงานด้วยระบบดิจิทัลต่างๆ เพราะงานเยอะและซับซ้อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี