เหน็บก.ก.เงื่อนไขมากไป
พท.ยืนกราน
ต้องยึดเก้าอี้ประธานสภา
‘พิธา’ชู‘ปดิพัทธ์’ทันควัน
ลากยาวการเจรจาถึง3ก.ค.
กกต.จี้สส.แจงเงินหาเสียง
ขู่แจ้งเท็จมีโอกาสถึงติดคุก
ยังไม่ลงตัวในเก้าอี้ประธานสภา “พิธา”ดอดปราศรัยที่พิษณุโลก ชิงชู “ปดิพัทธ์”เหมาะสมที่สุด ในขณะที่ฝ่ายเพื่อไทยไม่ยอม ลากยาวการเจรจาไปถึง 3 กรกฎาคม ด้านกกต.เตือนสส.พรรคการเมืองแจงบัญชีรายจ่ายการหาเสียง ขู่แจ้งเท็จมีโอกาสติดคุก โหรฟันธง ‘พิธา’ตายหยังเขียด
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกับพรรคก้าวไกลแล้ว โดยระบุพรรคเพื่อไทยยอมถอยให้และมีเงื่อนไขหาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไม่สามารถ ผ่านการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีได้พรรคเพื่อไทยจะขอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเอง พร้อมกับได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ2คนว่าไม่ทราบที่มาที่ไปข่าวดังกล่าวซึ่งเมื่อวันที่29มิ.ย.ยังพูดคุยกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคและนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคถึงแนวทาง ที่จะไปเจรจากับพรรคก้าวไกล รวมถึงกระบวนการเพื่อขอมติพรรควันที่ 3 กรกฎาคม ก่อนลงมติเลือกประธานสภาฯในวันที่ 4 กรกฎาคม
โต้ข่าวปล่อยพท.พลิกตั้งรบ.
“ผมก็แปลกใจกับข่าวที่ออกมาน่าจะเป็นการปล่อยข่าวมากกว่า ยิ่งปล่อยข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ผมก็พูดมาตลอดว่าเพื่อไทยไม่มีแผน 2 แผน 3เพราะเราเคารพพรรคแกนนำเรามีแผนเดียวคือสนับสนุนพรรคแกนนำและสนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายกฯเท่านั้น เพราะหากเราไปพูดถึงแผน 2แผน 3 มันคือการสมมุติ หากใช้คำว่า“ถ้า” มันก็จะถูกตีความเยอะ เพราะฉะนั้นจะมาบอกว่าเราไปขอเป็นแกนนำอะไรต่างๆ ยืนยันมันไม่มีในสิ่งที่พูดคุยกันและในสิ่งที่ผมสื่อสารออกไป”นพ.ชลน่าน ระบุ
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่าตนคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก บางคนไปตีความสิ่งที่ตนสื่อสารออกไปผิดที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่าเปรียบประชาชนเป็นพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ให้เขามาอย่างไรเราก็ต้องทำ แม้เราไม่เห็นด้วยในเรื่องนั้น ตนก็เลยเปรียบเทียบให้ฟังแต่กลับไปตีความผิด กลายเป็นว่า ไม่รักกัน มันไม่ใช่ไม่รักกัน การคลุมถุงชน มันไม่ใช่ว่ารักหรือไม่รักจริงอยู่ส่วนหนึ่งที่อาจมีไม่รัก แต่ถูกจับมาแต่ง บางครอบครัวเขาไม่เคยเจอกันเลย แต่ถูกจับมาแต่งเขาก็รักกันเป็นคู่ชีวิตที่ยั่งยืน
“อย่างคนจีนที่มีครอบครัวเข้มแข็ง ความหมายของผมเพียงแค่ต้องการให้เห็นความสำคัญของประชาชนว่า เขามอบอำนาจมาให้เราเหมือนพ่อเหมือนแม่ ดังนั้นเราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปคิดอย่างอื่น ต้องการเปรียบเทียบเท่านี้ แต่อาจจะสื่อสารไขว้เขวก็ต้องขออภัย พรรคพท.จะไม่เป็นเงื่อนไขทำให้การตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จจุดมุ่งหมายคือทำให้ นายพิธาเป็นนายกฯและให้ก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นี่คือสูตรเดียวของเพื่อไทย”นพ.ชลน่าน ย้ำ
โอดข่าวปล่อยทำพท.จำเลยสังคม
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ2 คน และเป็นเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาลแทนหากก้าวไกลทำไม่สำเร็จ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นการปล่อยข่าว ระดับแกนนำเองก็ยังงง ว่ามาอย่างไร เพราะไม่ใช่ผลดีกับพรรคแน่นอนและคนที่ปล่อยข่าวมาอ้างตัวว่าเป็นแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยซึ่งส่งผลไม่ดี เพราะทำให้เราตกเป็นจำเลยเข้าไปอีก ขอย้ำอีกครั้งว่าพรรคเพื่อไทยยึดมั่นในฉันทามติของประชาชนสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯและพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลโดยที่พรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นเงื่อนไขในการที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ
‘ภูมิธรรม’ชี้รอกก.บหเคาะ3ก.ค.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความชัดเจนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า จนถึงขณะนี้ทีมเจรจายังไม่ได้พบกับทางพรรคก้าวไกล จึงยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ออกมาจากการเจรจาของ 2 พรรค โดยประเด็นนี้ พท.จะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อให้ได้ข้อยุติในเรื่องนี้เวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ค.และจะนำผลการประชุมของกก.บห.บริหารไปหารือกับที่ประชุม สส.พรรคเวลา 10.00 น. คาดว่าจะได้มติที่ ชัดเจนแล้วจะแถลงข่าวต่อสาธารณชน
เมื่อถามว่าการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลวันที่ 2 ก.ค. จะหยิบยกเรื่องประธานสภาฯมาหารือหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า การประชุม 8 พรรค เป็นการหารือเกี่ยวกับการทำงานและดำเนินการร่วมกันของคณะเปลี่ยนผ่านทั้ง 8 พรรค คงไม่มีเรื่องประธานสภาฯที่เป็นเรื่องระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรค พท. ดังนั้นประเด็นประธานสภาฯในส่วนของพรรคพท. รอมติของกก.บห.และที่ประชุมสส. และจะชัดเจนวันที่ 3 ก.ค.นี้
‘พิเชษฐ์’ขู่ทีมเจรจาอย่าล้ำเส้น
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.)กล่าวถึงกระแสข่าวพรรค พท.ยอมยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกล แลกกับให้พรรคก้าวไกลอยู่ช่วยสนับสนุนพรรค พท.เป็นายกรัฐมนตรี หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พลาดตำแหน่งนายกฯ ว่าขอฟังคำชี้แจงจากคณะเจรจาก่อนว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ แต่โดยหลักแล้วคณะเจรจาต้องไปพูดคุยตามมติที่พรรค พท. เห็นพ้องกันคือ ตำแหน่งประธานสภาฯต้องเป็นของพรรค พท.ซึ่งคณะเจรจาเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ไม่ใช่คนตัดสินใจ จะไปตกลงอะไรนอกกรอบจากที่ตกลงกันในพรรคไม่ได้ดังนั้น พรรค พท.ต้องได้ประธานสภาฯจะไปยกให้ใครไม่ได้
เมื่อถามว่า หากสุดท้ายแล้ว พรรค พท.มีมติยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกลจริงๆ สส.จะโหวตตามมติพรรคหรือไม่นายพิเชษฐ กล่าวว่า ยังบอกอะไรไม่ได้มาก ขอฟังคำชี้แจงจากคณะเจรจา
ก่อน แล้วค่อยมาว่ากันอีกที
อัดก้าวไกลเงื่อนไขมากไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ประเด็นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรค พท. ที่ยังไม่มีความชัดเจนอย่างเป็นทางการออกมา ทำให้บรรดาส.ส. พรรคพท.ได้หารือกันว่า ที่ผ่านมาพรรค พท.ยอมพรรคก้าวไกลทุกอย่าง เรื่องนายกรัฐมนตรีที่ส่วนใหญ่พรรคอันดับสองจะตั้งรัฐบาลแข่ง พรรค พท. ก็ไม่คิดแข่งแต่พยายามทำให้พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งดังกล่าว แต่เรื่องประธานสภาฯที่จะเลือกกันแล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
แต่ถึงอย่างไร ส.ส.พรรค พท. ก็จะยังรอคำตอบจากคณะเจรจาต่อไป ถ้าไม่มีคำตอบที่ดีพอ ส.ส.ส่วนใหญ่ อาจเลือกโหวตคนของพรรค พท.เพราะเรายอมให้ฝ่ายบริหารกับพรรคก้าวไกลไปแล้ว แต่พรรคก้าวไกลก็เหมือนมีเงื่อนไขใหม่ๆ มาตลอด ก็ไม่เข้าใจว่าเจตนาคืออะไร และการประชุมส.ส.ของพรรค พท. วันที่ 3 ก.ค. จะหยิบยกเรื่องนี้มาคุยกัน ถ้าให้เลือกคนของพรรค พท. เป็นประธานสภาฯ เสียงไปทิศทางเดียวกันแน่นอน
‘ชัยธวัช’ย้ำก.ก.-พท.ต้องตั้งรบ.ให้ได้
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) ยอมยกเก้าอี้ประธานสภาฯให้พรรคก.ก.ว่าขณะนี้พรรครอนัดหมายพูดคุยกับพรรค พท.เป็นทางการอีกครั้ง ต้องรอกำหนดการอีกที ซึ่งจะมีการพูดคุยกันก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม โดยทั้ง2 พรรค หวังว่าจะพยายามให้ได้ข้อยุติร่วมกันก่อนจะมีการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ตัวเลขสมการการจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนเป็นสูตรต่างๆ นั้น ยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่กระแสข่าวที่ออกมาเท่านั้น
ลั่นทำให้ดีที่สุดปัดข่าวพท.พลิกตั้งรบ.
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า พรรคพท.และพรรค ก.ก.จะพยายามให้ได้ข้อยุติร่วมกันก่อนจะมีการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกัน ที่ผ่านมาเป็นเพียงกระแสข่าวที่ออกมาเท่านั้น ต้องรอการพูดคุยอย่างเป็นทางการ จะได้มีความชัดเจน ยืนยันว่าทั้งสองพรรคจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้ประชาชนผิดหวัง
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคก.ก.ได้ตำแหน่งประธานสภาโดยมีเงื่อนไขว่าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค ก.ก.ติดอุปสรรคทางการเมืองไม่สามารถขึ้นเป็นนายกฯ
ได้ และพรรค พท.จะขึ้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน นายชัยธวัชตอบว่าตนก็ไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน เราเชื่อว่าพรรคพท.คงไม่พูดอะไรแบบนั้น เรื่องนี้คงไม่ต้องมาสอนหนังสือสังฆราชกันเพราะผลการเลือกตั้งชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือก ก.ก.และพท.มีความต้องการที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่กลับมาฟื้นฟูประชาธิปไตยและแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เราต้องช่วยกัน ไม่ทำให้ความผิดปกติที่อยู่รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาเป็นเรื่องปกติ ตนยังเชื่อมั่นทั้งสส.และสว.จะช่วยกันคืนความปกติให้ระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้งให้พรรคที่ได้รับชัยชนะอันดับ1เป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล
ตัดสินใจยึดผลประโยชน์ปชช.
เมื่อถามว่า นายชัยธวัชกล่าวว่าหาก 8 พรรคการเมืองผนึกกันแน่นก็ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความต้องการส่วนตัวของพรรคใดพรรคหนึ่ง เรื่องนี้เป็นหลักการที่เป็นปกติในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภายังยืนยันว่ารอผลสรุปจากการพูดคุยอย่างเป็นทางการระหว่าง 2 พรรค ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะจบออกมาด้วยดี เพราะทั้ง 2 พรรคทำงานและตัดสินใจภายใต้ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของประชาชนอยู่แล้ว ยืนยันว่าจะจับมือไปด้วยกัน ขอให้เชื่อมั่นทั้งแกนนำพรรคและสมาชิกทั้ง 8 พรรค
เมื่อถามว่า ได้มีการวางแผนไว้หรือไม่หากนายพิธา ไม่ได้ตำแหน่งนายกฯ เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลสามารถเดินหน้าต่อได้ นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงสถานการณ์ตอนนั้น เมื่อผ่านการเลือก
ประธานสภาฯไปแล้ว ทุกอย่างจะมีความชัดเจนขึ้น และเรายังเชื่อมั่นอย่างที่เน้นย้ำไปข้างต้นว่าทั้งสส.และสว.จะช่วยคืนความปกติให้กับการเมืองไทย เช่นเดียวกับในปี 2562 ที่สว.ให้เหตุผลในการโหวตเลือกนายกฯ ว่า ต้องรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ในสภาได้ สว.ก็โหวตให้อย่างเป็นเอกภาพ
ยังไม่แบ่งโควตารัฐมนตรี
เมื่อถามว่าเรื่องมาตรา112ที่สว.อาจนำมาเป็นเหตุผลในการไม่โหวตให้นายพิธา นายชัยธวัชกล่าวว่าก็ไม่เกี่ยวกับการโหวตนายกฯกระบวนการไม่ว่าจะแก้กฎหมายฉบับใดหรือเสนอกฎหมายฉบับใหม่ ต้องมีกระบวนการนิติบัญญัติปกติอยู่แล้วที่จะตรวจสอบถ่วงดุลและใช้เสียงส่วนใหญ่ในการหาข้อยุติในสภา และมีการตรวจสอบว่า หากกฎหมายฉบับใดที่ผ่านสภาไปแล้วจะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรื่องเหล่านี้อย่าเพิ่งกังวลไปเรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับการโหวตนายกฯอยู่แล้ว หลักการสำคัญในการโหวตนายกฯ คือ การอิงกับผลการเลือกตั้ง ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคก.ก.ได้ตำแหน่งประธานสภาฯนั้นมาจากการแลกรมว.คลังกับพรรค พท.นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นเพียงข่าวลือ ต้องรอการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ซึ่งในวันที่ 2กรกฎาคม เป็นการพูดคุยเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประชุมสภาและการโหวตประธานสภาฯ โดยยังไม่มีการพูดคุยเรื่องแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี กระบวนการเรื่องการแบ่งงานกันทำในรัฐบาลชุดใหม่ ก็ดำเนินการตลอดอยู่แล้ว
ไม่กลัวแทงข้างหลัง-ถ้า8พรรคแน่น
เมื่อถามว่ามีความกังวลว่าจะเกิดการแทงข้างหลังกันหรือไม่เพราะการโหวตเลือกประธานสภาฯนั้นจะเป็นการลงคะแนนลับนายชัยธวัชกล่าวว่าไม่กังวลขณะนี้ระหว่างขั้วเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย
ห่างกันเยอะ ถ้า8พรรคผนึกำลังแน่น เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการพลิกขั้วเดินหน้าตั้งรบ.ร่วมกันคือหนทางดีที่สุด เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าพท.รอนั่งตำแหน่งนายกฯต่อจากพรรคก.ก.สะท้อนถึงสถานการณ์การเมืองใน8พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่าอย่าไปมองแบบนั้นยังเชื่อมั่นว่าเราทำงานร่วมกันด้วยความจริงใจและเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง สำหรับพท.เองสิ่งที่สัมผัสได้อย่างจริงใจคือทั้ง8พรรคเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ
เมื่อถามว่าจากกรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท.ให้สัมภาษณ์ว่า“เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน อยากออกก็ออกไม่ได้” นั้นสื่อถึงอะไรในพรรคร่วมรัฐบาลนายชัยธวัชกล่าวว่า คงต้องถามนพ.ชลน่าน แต่เท่าที่เคยร่วมงานกัน เราจริงใจที่จะเห็นว่า สมการในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันดีที่สุด
‘พิธา’เยือนเมืองสองแควแห่รับพรึบ
วันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก เพื่อทั กทา ย และขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ลงคะแนนเลือก สส.จากพรรค ก.ก. โดยนายพิธาเดินทางไปสักการะพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองพร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก เขต 1 และแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ สส.พิษณุโลกเขต 5 โดยมีประชาชนแต่งกายเสื้อสีส้มรอต้อนรับจำนวนมากพร้อมส่งเสียงเชียร์“นายกฯสู้ๆ”ด้วย
เชื่อเก้าอี้ประธานสภาฯจบลงด้วยดี
นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่เดินทางมา จ.พิษณุโลก ในวันนี้เนื่องจากเป็นเขตยุทธศาสตร์ของพรรคและต้องรักษาแชมป์ การเลือกตั้งที่ผ่านมาได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นถึง 80%จากการเลือกตั้งปี 2562 ดังนั้น การมาจ.พิษณุโลกครั้งเป็นการแสดงความยินดีกับ สส.เขตที่ชนะเลือกตั้ง ในส่วนของกรณีประธานสภาฯเชื่อว่าจะจบได้ด้วยดี เมื่อถามว่า การเดินทางมาจ.พิษณุโลก เป็นการเล่นเกมมวลชนหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เป็นเวลาที่เหมาะสม
“ถ้าไม่มาช่วงนี้ มีประชุมสภาแล้วจะเดินทางได้ยาก ตอนนี้ผ่านมา1 เดือนแล้ว ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนก็รู้สึกว่าไปจังหวัดอื่น พี่น้องพิษณุโลกพี่น้องขอนแก่นก็เลือกตั้งเยอะ ต้องใช้โอกาสนี้ ขอโทษพี่น้องประชาชน ถ้าไปดู สส.บัญชีรายชื่อ ก็มีทั้ง 50 กว่า จังหวัดจาก 77 จังหวัด พยายามไปให้ครบทุกจังหวัดพื้นที่ จะได้รับฟังปัญหาไปด้วย เห็นภาพจริงๆ รับฟังปัญหาจริงๆ” นายพิธา กล่าว
จากนั้นนายพิธา เดินทางไปเซ็นทรัลพิษณุโลกเพื่อร่วมในงานสำคัญส่งท้ายเดือนไพรด์ คือการประกวดแมวภายใต้ธีม Happy Cat Happy Prideโดยมีทั้งแมวไทยและแมวต่างประเทศเข้าร่วมประกวดเพื่อส่งเสริมความหลากหลาย จากนั้นเวลา17.00น.นายพิธาขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชน เส้นทางเริ่มต้นจากเซ็นทรัลพิษณุโลกไปบนถนนสิงหวัฒน์ ถนนเอกาทศรถ วงเวียนรถไฟ ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกับสส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ที่ลานแอโรบิก สวนชมน่าน
‘พิธา’ลั่นชู‘ปดิพัทธ์’เหมาะปธ.สภาฯ
ช่วงคำวันเดียวกันที่เวทีปราศรัยใหญ่ มีชาวพิษณุโลกต้อนรับอย่างอบอุ่นและเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อพบกับนายพิธาและนายปดิพัทธ์ อย่างเนืองแน่น ทำให้เกิดการค้าขายอย่างคึกคัก
โดยนายพิธาได้ประกาศกลางเวทีปราศรัยว่า“หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา”สส.พิษณุโลก เขต1มีความเหมาะสมในฐานะแคนดิเดตประธานสภาฯของพรรคก้าวไกลเพราะเป็นคนที่มีผลงานดีเด่น มีบทบาทและประสบการณ์ในการเป็นประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯได้รับเสียงชื่นชมมากมายในการจัดการการประชุมและการประสานความร่วมมือกับองค์กรประชาชนที่มีเป้าหมายทำให้เกิดการพัฒนาการเมืองไทยในทุกมิติ และตนเชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนพิษณุโลกและคนทั้งประเทศ อยากให้โอกาสปดิพัทธ์ ให้เข้าไปทำหน้าที่ประธานสภาฯที่จะเปลี่ยนสภาไทยไปตลอดกาล
‘ปดิพัทธ์’พร้อมเป็นปธ.สภาฯ
นายปดิพัทธ์ ในฐานะแคนดิเดตประธานสภาฯกล่าวว่านี่เป็นครั้งแรกของการเมืองไทยที่เราจะเห็นสภาเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกิดมา หลายคนมักมองสภาเป็นโรงละครที่ทุกคนไปแสดงละคร กฎหมายผ่านหรือไม่ไม่รู้ ประชาชนเดือดร้อนไม่สนแต่ไปแสดงละครเพื่อ จะกลับมาเลือกตั้งใหม่ทุกท่านทราบ หรือไม่ว่างบประมาณสภาฯ1 ปี มากกว่า 5,000 ล้านบาท แต่การประชุม กลับไม่มีประสิทธิภาพอยากจะทำให้การทำงานของสภาฯ มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า สส.ที่ท่านเสียภาษีให้เขาเข้าไปกินข้าวในสภาฯมาประชุมกี่ครั้งมาสายกี่ครั้ง ลงมติอะไรบ้าง เมื่อผมเป็นประธานสภาฯข้อมูลการเข้าประชุมขาด ลา มาสายของ สส. 500 คน และสว.จะถูกแสดงให้เห็นในเว็บไซต์ทันที
“หากวันที่ 4 ก.ค. เสียงในสภาฯส่งให้ผมเป็นประธานสภาฯ ก็พร้อมทำงานเป็นประธานสภาฯของทุกคนและจะพิสูจน์ผ่านการทำงานให้เห็นว่าคนอายุ 42 ปี สามารถเป็นประธานสภาฯที่ทุกคนภูมิใจได้ จะเปลี่ยนสภาที่มีแต่ผู้ทรงเกียรติ ให้เป็นสภาของประชาชน พร้อมขอคำสัญญาจากชาวสองแควว่า ไม่ต้องเรียกตนว่าท่าน แต่ให้เรียกหมออ๋องพี่อ๋องน้องอ๋อง เหมือนเดิม
‘พีระพันธุ์’สละสส.-เลื่อน‘อนุชา’แทน
ต่อมา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้า พรรคโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จะอยู่ทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีทำงานจนนาทีสุดท้ายกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯว่ามีสื่อมวลชนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามกันมากถึงเรื่องดังกล่าว เพื่อป้องกันความสับสน ขอยืนยันว่านายพีระพันธุ์ได้สละตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อที่จะปฏิบัติงานในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจนหมดวาระรัฐบาลรักษาการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ไม่รับตำแหน่ง ส.ส. ซึ่งก็จะส่งผลให้ นายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 14 ของพรรคเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน.
เตือนสส.แจงเงินหาเสียง
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้จัดทำอินโฟกราฟฟิกเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรค การเมืองผู้ใดไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อ กกต.ในระยะเวลาที่กำหนดจะมีผลอย่างไร?
โดยเนื้อหาระบุว่าหากไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี ซึ่งผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมือง สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากมาตรา 155 ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
มาตรา 155ผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมืองใด ไม่ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายต่อคณะกรรมการภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วน ตามมาตรา 67 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด5ปี ถ้าบัญชีรายรับและรายจ่ายที่ยื่นตามมาตรา 67 เป็นเท็จ ผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-5ปี และปรับตั้งแต่20,000-100,000บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำาหนด10ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการทำอินโฟกราฟิกดังกล่าวนี้มีขึ้นภายหลังจากสำนักงาน กกต.จัดประชุมคณะกรรมการตรวจสอบค่าใช้จ่ายเลือกตั้งส.ส. รุ่นที่1 เมื่อวันที่29มิถุนายนที่ผ่านมา ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย คณะกรรม การตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.ประจำศูนย์ปฏิบัติงานการตรวจสอบแบบแบ่งเขตเลือกตั้งประจำจังหวัด และกรุงเทพ มหานคร จำนวน 38 จังหวัด ทั้งตัวแทนของส่วนราชการที่มีความรู้ทางด้านการเงินและบัญชีหรือผู้ที่มีความรู้ด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งส.ส. ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สำนักงบประมาณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้บริหาร และพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
โหรฟันธงพิธาตายหยังเขียด
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกส.ว. ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง จากพิธา… สู่นิพพิทา ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีข้อความระบุว่าจากพิธา... สู่นิพพิทา พิธาแปลว่า ผู้มีความเจริญรุ่งเรืองนิพพิทาแปลว่า ไม่มีพิธา หรือผู้เบื่อหน่ายในกองทุกข์ ก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง ตลอดจนการจัดตั้งรัฐบาล 312 มีว่าที่นายกพิธา ที่ปรากฏมานั้นเป็นมายาคติ เป็นภาพลวงตา ไม่ใช่โลกของความเป็นจริง เป็นโลกทิพย์ รัฐบาลทิพย์ นายกทิพย์ และเป็นเรื่องเล่าแค่เช้านี้
นับแต่ 4 ก.ค.เป็นต้นไปในสภาจะเป็นโลกของความเป็นจริงของพิธาและก้าวไกล นอกสภามีแต่พิธาๆๆ แต่ในสภาจะเป็นนิพพิธาๆๆ... ผมยังยืนยันในหลักการเดิม...แต่รู้และเห็นเป็นประจักษ์แล้วว่าก้าวไกล ก้าวไปไม่ถึง... พิธาก็เป็นนิพพิธา ไม่มีใครช่วยอะไรได้ นอกจากจะต้องสวดมนต์เจริญจิตภาวนาที่วัดไก่เตี้ยสถานเดียว...จากนิพพิทาจะก้าวไกลไปสู่นิพพาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี