วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ได้คะแนนเห็นชอบแค่324/ไม่ถึง376  ‘พิธา’วืดนายกฯ  ไม่เห็นชอบ182/งดโหวต199

ได้คะแนนเห็นชอบแค่324/ไม่ถึง376 ‘พิธา’วืดนายกฯ ไม่เห็นชอบ182/งดโหวต199

วันศุกร์ ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : ก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เลือกตั้ง โหวตนายก
  •  

ได้คะแนนเห็นชอบแค่324/ไม่ถึง376

‘พิธา’วืดนายกฯ

ไม่เห็นชอบ182/งดโหวต199

ถูกสส.-สว.อภิปรายถล่มม.112

‘พิธา’ประกาศลั่นไม่ยอมแพ้

รอลุ้นโหวตใหม่ในครั้งต่อไป

รัฐสภาถกวาระเลือกนายกฯ“วันนอร์” ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง “ชลน่าน” เสนอ“พิธา”ไร้ชงชื่อแข่ง ก่อน“สส.ซีกรัฐบาลเดิม-สว.เรียงหน้าถล่ม” “พิธา-ก้าวไกล”ปมแก้ม.112-จ้องล้มสถาบัน-แบ่งแยกดินแดน“ชาดา” ซัดเดือดชี้ไม่ยุ่ง 112 จะโหวตให้ ยันยอมเป็นโจรปกป้องสถาบัน ทำวุ่นเมื่อไหร่เจอกัน“สว.ประพันธุ์”ฟันเปรี้ยง“พิธา”ขาดคุณสมบัติ ใครโหวตระวังผิดรธน.-จริยธรรมด้าน“พิธา”ลุกโต้ย้อนเกล็ดภูมิใจไทย‘พูดแล้วทำ’ยันเดินหน้าแก้ม.112ตามสัญญาปชช.ต้องทำย้ำมีคุณสมบัติครบพร้อมเป็นนายกฯ ลูกพรรคลุกโต้พัลวัน ก่อนที่ประชุมเริ่มโหวต4โมงเย็น

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 13 กรกฎาคม ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระสำคัญให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา272โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม


โดยประธานรัฐสภาแจ้งต่อที่ประชุมว่าตนได้มาทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมรัฐสภาป็นครั้งแรก จะทำหน้าที่ในฐานะประธานรัฐสภาและประธานที่ประชุมอย่างเป็นกลางและจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชน ประเทศชาติ เกียรติและศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติและรัฐสภาของเรา

ซึ่งการประชุมจะมีประสิทธิภาพตามที่ประชาชนคาดหวังไว้ได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายของรัฐสภาและแจ้งถึงกรอบข้อตกลงร่วมกันว่าจะเปิดโอกาสให้อภิปรายประเด็นเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อนายกฯได้อย่างทั่วถึงแต่ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจบุคคล

สว.เรณูไขก๊อก-ยอดสว.249คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจำนวนสมาชิกรัฐสภามี 749 เสียง เนื่องจากมีส.ว.ลาออก 1 คน ดังนั้น จำนวนเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี ต้องได้ 376 เสียง ทั้งนี้ มีรายงานว่า น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ได้มีหนังสือถึงประธานวุฒิสภา แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 เป็นค้นไป ทำให้ปัจจุบันมีสมาชิกวุฒิสภาคงเหลือ 249คน

ชลน่าน ลุกเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ

ต่อมา เวลา10.00น.ได้เริ่มเข้าสู่วาระการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯตามมาตรา272 โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเป็นตัวแทน8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้รับรองถูกต้องซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ ได้เปิดให้สมาชิกแสดงตนผ่านการเสียบบัตร โดยมีผู้แสดงตนรับรองทั้งสิ้น 302 คน ถือว่า มีเสียงรับรองครบ ก่อนเปิดให้ที่ประชุมได้อภิปราย

‘ชาดา’เปิดหัวภท.ไม่เอา‘พิธา’แก้112

จากนั้นได้เริ่มการอภิปรายโดยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรกได้อ่านแถลงการณ์จุดยืนพรรคภูมิใจไทยเมื่อวันที่17พ.ค.สรุปว่าพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนนายกฯที่มาจากพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่แสดงเจตจำนงตั้งรัฐบาลแสดงจุดยืนทางการเมืองของตนต่อกรณีแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา112 พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างมีคุณภาพ และจะคัดค้านการแก้ไขมาตรา112อย่างเต็มที่และพรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยกับพวกท่านเพราะเราเคารพมติประชาชนและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนอกจาก7พรรคร่วมฯที่ประกาศไม่เห็นด้วยกับแก้ไขม.112 และไม่นำไปบรรจุในเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาล แต่นายพิธาที่เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯเป็นคนเดียวที่ยืนยันว่าจะแก้ไขมาตรา112 โดยให้ส.ส.ของพรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอร่างกฎหมายเอง นอกจากนี้นายพิธา ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อทั้งในและต่างประเทศว่าพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงจากประชาชน14ล้านคน เราชัดเจนโปร่งใสว่านี่เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เราต้องการผลักดัน

“นายพิธา อ้างว่าต้องทำเพื่อรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยเจตนาดี ผมและพรรคภูมิใจไทยไม่เชื่อ เพราะพฤติกรรมต่างๆที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นชัดเจน ผมอยากถามว่าอีก7พรรคร่วมจะว่าไง ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ในข้อตกลงร่วมเอ็มโอยูไม่มีก็จริง ท่านอ้าง14ล้านเสียงที่เห็นด้วยกับท่านที่จะให้แก้ไขมาตรา112 แต่ผมเชื่อว่าคนที่ลงให้ท่าน14ล้านเสียงไม่คิดว่าท่านกำลังแก้กฎหมายให้สถาบันฯไม่เป็นสถาบันหลัก ไม่ใช่ความมั่นคงของชาติอีกต่อไป ถ้าท่านอ้าง14ล้านเสียง หลายคนก็พูดถึงอีก25ล้านเสียงที่ไม่ได้เลือกท่านเช่นกัน”นายชาดา กล่าว

ซัดเดือดไม่เชื่อทำเพื่อปกป้องสถาบันฯ

นายชาดาได้เริ่มกล่าวอย่างมีอารมณ์ดุเดือดว่าท่านต้องเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่14ล้านคน ไม่ใช่เป็นนายกฯ หรือเป็นรัฐบาลของพรรคใดพรรคหนึ่ง อย่าหลงระเริงคำว่า14ล้านเสียง เพรามันไม่ถึง20เปอร์เซ็นต์ มันไม่ใช่เรื่องชี้ขาดของประเทศนี้ ปัญหาคือความมั่นคงของชาติ ถ้าจะอ้างแบบนี้มันก็ลำบาก ที่นายพิธา บอกว่าแค่แก้ไขไม่ใช่ยกเลิก แต่ถ้าแก้ไม่ได้ก็ต้องยกเลิก แต่ตนจะบอกว่าสิ่งที่ท่านนำเสนอไม่ใช่การแก้ไข เป็นการยกเลิกมาตรา112

“สิ่งที่ท่านทำและแสดงอาการต่อสาธารณชนมาตลอดคือจุดยืนสำคัญของพรรคก้าวไกลคือการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการละเมิดพระมหากษัตริย์พระราชินีและรัชทายาท ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายท่านเคยถูกดำเนินคดีมาตรา112ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายท่านใช้ตำแหน่งประกันผู้ที่ถูกคดีมาตรา112 ผู้ที่หมิ่นหรือถูกดำเนินคดีในคดีนี้จะได้รับการสนับสนุนและอุ้มชูจากพรรคก้าวไกลแต่ก็เป็นสิทธิ์ของท่านเพราะสิ่งที่ท่านเสนอมาตั้งแต่สภาฯชุดที่แล้วคือการยกเลิก ผมและพรรคภูมิใจไทยไม่เชื่อว่าท่านจะปกป้องสถาบันฯไม่ให้ถูกละเมิดในเมื่อลดการคุ้มครองพระมหากษัตริย์และลดโทษผู้ที่ละเมิดสถาบันฯ รวมถึงไม่เอาผิดไม่ลงโทษผู้ละเมิดฯ ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน”

แฉจะลงสัตยาบันฯคนนอกฟ้องประมุข

นายชาดายังระบุว่าที่เจ็บปวดและรับไม่ได้กว่านั้นคือมีคำพูดของผู้นำทางจิตวิญญาณพรรคก้าวไกลบอกว่าถ้านายพิธา เป็นนายกฯจะรีบให้ไปลงสัตยาบันในกฎหมายกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ สาระสำคัญคือสามารถฟ้องผู้เป็นประมุขของรัฐ หมายถึงคนนอกประเทศฟ้องสถาบันฯได้ ตนคงทำใจไม่ได้ ลองหลับตานึกดูพระมหากษัตริย์ไปถูกฝรั่งสอบสวน เป็นเรื่องน่ากลัวและอันตราย ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้นพวกท่านคิดหรือไม่ว่าการแก้ไขมาตรา112บ้านเมืองนี้จะสงบ จะเจริญ วันนี้ท่านได้รับเลือกตั้งมาแล้ว ท่านเก็บเรื่องนี้ไว้ในกระเป๋าไม่ได้หรือ ประเทศนี้ถ้าแก้ไขมาตรา12 ไม่ได้ แล้วจะล่มจมตนไม่ว่าเลย ท่านเสนอนโยบาย200-300ข้อ เป็นความหวังของประชาชนที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมือง ท่านละไว้เพียงเรื่องเดียว ท่านไม่ต้องด่าส.ว.ด่าฝ่ายตรงข้าม ท่านได้เป็นนายกฯ แน่ถ้าไม่มีมาตรา 112 แต่ท่านยังไม่ยอมเลย อยากถามว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล เกิดมาเพื่อแก้ไขมาตรา 112 อย่างเดียวหรือ ถ้าไม่แก้แล้วประเทศมันจะล่มจมหรือมันไม่ใช่

“แต่นี่ทำให้ผมเข้าใจว่าก้าวไกลเกิดมาเพื่อล้มล้างหรือท่านไม่ยอมอะไรเลย กูจะต้องถือ112 ไว้ในกระเป๋า กูต้องทำลาย ท่านไม่ต้องชี้ที่ส.ว.ไม่ต้องชี้ฝั่งนี้ ชี้ที่ตัวท่านเอง ถ้าท่านหลุดคำนี้คำเดียวว่า จะไม่ยุ่งมาตรา 112 พรรคภูมิใจไทยจะโหวตให้ท่าน และไม่ร่วมรัฐบาลด้วย แต่ถ้าการแก้มาตรา112 ยังเป็นพันธกิจของท่าน ผมและพรรคภูมิใจไทยก็จะมีพันธกิจของเราเหมือนกันที่จะต้องคัดค้านท่านทุกวินาที ทุกทาง ทุกอย่างตราบที่ยังมีชีวิต สังคมกำลังมอง ทำไมท่านไม่ดูตัวเองบาง ทำไมไม่หยุด ไม่ลดลง” นายชาดา กล่าว

ประกาศขอเป็นโจรปกป้องสถาบัน

นายชาดาอภิปรายอีกว่าตนก็เลือกตั้งมาเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่ฝั่งประชาธิปไตย แล้วเป็นฝั่งไหน ฝั่งโจรหรือ เป็นโจรก็ยอม แต่เป็นโจรที่รักชาติ รักสถาบัน เป็นโจรที่ปกป้องสถาบันแล้วปกป้องบ้านเมืองนี้ด้วย

หัวใจด้วยเลือดเนื้อของบรรพบุรุษตนเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร วันนี้มาเป็นผู้แทนอยู่ดีกินดีกว่าคนไทยเป็น ล้านคน แล้วถ้าผมไม่สำนึกกตัญญูรู้คุณต่อแผ่นดินนี้ผมก็ไม่สมควรจะเป็นคน บ้านเรามีเจ้าของสิ่งที่บรรพบุรุษผ่านมามากมายเหลือเกิน อย่าลืมว่าเรามาอาศัยเขาอยู่ มาขอเขาอยู่ แต่อยู่ไปอยู่มาลูกหลานกลับจะมาไล่เจ้าของบ้าน ประเทศนี้ถ้าไม่มีสถาบันฯลุงตู่กับลุงป้อมไม่กลับบ้านง่ายๆแน่ มีแต่จะลากเอ็ม16มาเล่นกับพวกคุณซึ่งไปแล้วก็ถือว่าโชคดี

ใครก็รักพ่อรักแม่ตัวเอง-ลั่นทำวุ่นเจอกัน

“วันนี้ท่านมีส่วนที่นำปมความขัดแย้งมาสู่บ้านเมืองนี้วันนี้ใครที่เห็นตรงข้ามโดนหมด ส.ว.โดนหนักกว่าเขาหน่อย ถามว่าใครก็รักพ่อรักแม่ตัวเอง ถ้าท่านปล่อยให้คนด่า แล้วไม่มีกฎหมายคุ้มครองสถาบันฯยิงกันระเบิดแน่เมืองนี้ประเทศไทยจะยิงกันฉิบหายวายป่วง แล้วผมจะขอออกกฎหมายใหม่ยิงคนที่หมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุกดีมั้ย วันนี้เราอยู่ได้ด้วยสถาบันฯปกปักรักษาเรามา อย่าให้ผมไปคิดเลยว่าพรรคก้าวไกล เกิดมาเพื่อล้มล้างทำไมไม่ยอมถอย วันนี้ยืนเด่น ชนทุกคนที่ขวาง มันไม่ใช่บุคลิกของผู้นำประเทศหรือผู้นำผู้บริหารประเทศ ผมก็อยากให้ตั้งรัฐบาลไวๆจะดูซิว่าทำงานได้มั้ยเราต้องให้โอกาสกันทุกคนแต่ท่านอย่าไปจุดชนวนให้กับบ้านเมืองนี้ขอด้วยความเคารพเรื่องม.112 ถ้าท่านทำอะไรวุ่นวายเมื่อไหร่ก็ถือว่าเป็นภารกิจของผมและพรรคภูมิใจไทยที่จะต้องให้ระบบสถาบันฯอยู่คู่กับสังคมไทยไปตลอด”นายชาดาย้ำ

ส.ว.ประพันธ์’ฟัน‘พิธา’ขาดคุณสมบัติ

เวลา 10.38น.นายประพันธ์ คูณมี สว.อภิปรายคัดค้านการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกฯระบุว่านายพิธาเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา159และมาตรา160ประกอบกับมาตรา98(3)การเสนอชื่อถือว่าขัดกับข้อบังคับข้อ136กรณีของนายพิธาถูกกกต.ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยประเด็นสมาชิกภาพของนายพิธาได้สิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ศาลรัฐธรรมนูญลงรับในทางธุรการและเตรียมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาสัปดาห์ต่อไป เป็นข้อเท็จจริงที่ปราศจากข้อสงสัยว่านายพิธามีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

“การพิจารณาของสภาฯมีหน้าที่พิจารณาว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายพิธานั้น เป็นการเสนอชื่อบุคคลที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและข้อบังคับหรือไม่และมีปัญหาคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ แม้มีคนแย้งว่าคำชี้ขาดของศาลไม่เป็นที่สุดจะพิจารณาแบบนั้นไม่ได้ ผมมองว่าปัญหานี้ไม่จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัย เพราะปัญหาคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส.เป็นคุณสมบัติเดียวกันกับคนที่เป็นนายกฯเป็นเรื่องที่วิญญูชน บุคคลทั่วไปวินิจฉัยได้ ไม่จำเป็นต้องถามศาลเพราะมีวิจารณญาณพิจารณาได้เอง”นายประพันธุ์ ย้ำ

ขู่คนโหวตจ่อทำผิดรธน.-จริยธรรม

นายประพันธุ์ย้ำว่ารัฐสภาไม่อาจรับชื่อนายพิธาไว้พิจารณาลงคะแนนเสียงได้เพราะคุณสมบัติขัดต่อกฎหมายมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ หากรัฐภาลงมติพิจารณาย่อมขัดกับรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาเพราะคนที่พิจารณาย่อมถือว่ารู้อยู่แล้วว่าและจงใจทำผิดและฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและข้อบังคับของการประชุมรัฐสภาหากดึงดันอาจจะถูกร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 231(1)จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ส่วนกรณีที่ ส.ว.จะลงมติอาจจะมีปัญหาต่อการทำผิดประมวลจริยธรรมเช่นเดียว

พิธา’ย้อนเกล็ดภท.พูดแล้วทำ-ลุยแก้112

กระทั่งเวลา10.50น.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกชี้แจงที่ถูกพาดพิงการแก้ไขมาตรา112 ว่าตนพยายามพัฒนาภาวะผู้นำให้เป็นคนรักษาคำพูดเหมือนสโลแกนของพรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ เมื่อสัญญาอะไรที่ให้ไว้กับประชาชนก็คงทำตามอย่างนั้น ถึงจะไม่เห็นด้วยกับทุกเรื่องที่นายชาดาพูดแต่ตนกับนายชาดามีชุดความคิดคนละแบบนี่คือเหตุผลที่ตนต้องการแก้ข้อขัดแย้งผ่านการแก้กฎหมายในสภาตั้งแต่สภาชุดที่แล้วทั้งการลดโทษและความคุ้มครองแต่เวทีนี้เป็นเวทีเลือกนายก ไม่ใช่เวทีของการแก้กฎหมายใดๆผู้นำที่ดีต้องมีความอดกลั้นรับฟังข้อกล่าวหาทั้งจริงและไม่จริง

“ประเด็นมาตรา112ไม่อยู่ในเอ็มโอยูของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเพราะการแก้ไขกฎหมายอยู่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะพิจารณา ทั้งนี้การยื่นร่างกฎหมายแล้วจะไม่มีการผูกขาดชุดความคิด ซึ่งเป็นหน้าที่ของส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง พูดกันแบบมีวุฒิภาวะ ไม่หยาบคาย ใช้เหตุผล คือทางออกของประเทศในชุดความคิดที่ขัดแย้งที่เกิดขึ้นผมไม่เห็นด้วยที่บอกว่า ใครหมิ่นสถาบันให้เอาปืนไปยิงเลย เท่ากับไม่รู้ถึงวัฒนธรรมรับผิดรับชอบ”นายพิธาชี้แจงและว่าในประเด็นของกฎไอซีซี ที่มีหลักการว่า อาชญากรรรมทางสงคราม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะนี้มีประเทศที่ปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขรวม27ประเทศซึ่งมีบางประเทศลงนามรับรองแล้วทั้งนี้องค์พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมืองใช้อำนาจผ่านครม.

ยันคุณสมบัติสมบูรณ์เป็นนายกฯ

นายพิธายังยืนยันกับสมาชิกรัฐสภา750 คนว่าตนมีคุณสมบัติที่สมบูรณ์แบบ และมีความชอบธรรม แม้กระบวนการที่กล่าวหาตน ทั้งที่ตนไม่รู้ว่าข้อกล่าวหานั้นคืออะไร เห็นแค่มติผ่านสื่อมวลชน ดังนั้นตามสมมติฐานของทนายหรือนักกฎหมายต้องสมมติฐานว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อนอย่าให้มีศาลเตี้ยในรัฐสภา ในปี2562ที่มีประเด็นเดียวกันขั้นตอนการเลือกนายกฯยังไม่กระทบหากจำไม่ผิดมีคนบอกว่าจะเลือกรัฐบาลเสียงข้างมากแบบไม่แตกแถวซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้ว

“ไม่ต้องกังวล ผมยืนยันว่ามีความรัดกุมเกี่ยวกับคุณสมบัติ ทุกครั้งที่เป็นส.ส.ตั้งแต่ครั้งแรกและต่อไป ผมยอมรับการตรวจสอบ ยังดีกว่าบางคนที่ไม่อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ทั้งป.ป.ช.และกกต.”นายพิธา ย้ำทิ้งท้าย

‘ชัยธวัช’โต้พัลวันก.ก.ปัดจ้องล้มสถาบัน

เวลา11.10 น.นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล อภิปรายว่าหลายคนอาจกังวลใจในความเป็นเปลี่ยนแปลง ที่ไม่คุ้นเคย หรือไม่รู้จักและมีความกังวลว่า พวกเราจะพยายามเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ เราพยายามทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เป็นสถาบันหลักของชาติ โดยเจตนาที่เราเสนอให้มีการแก้ไขมาตรา112 เป็นแนวคิดที่อยู่บนฐานความคิดว่าสถาบันหลักของชาติ จะดำรงได้ด้วยความยินยอมของประชาชน ไม่มีสถาบันใดที่จะดำรงอยู่ได้ด้วยความกดปราบซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะเตือนให้ส.ส.ตั้งสติและมองการณ์ไกลในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง

“เราไม่เชื่อว่าสิ่งใดจะดำรงอยู่ในด้วยสถิตเหมือนเดิมทุกประการจะมั่นคง โดยมีการกล่าวว่าการเลือกนายพิธาเป็นนายกฯจะเป็นการล้มล้างสถาบัน เป็นอีกตัวอย่างที่ตนพยายามอธิบายว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในระบอบนี้เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นประมุขต้องอยู่เหนือการเมืองซึ่งอันตรายมากที่ต่างฝ่ายต่างดึงเรื่องนี้เข้ามาพัวพันในความขัดแย้งทางการเมือง เราพยายามเสนอว่า ต้องช่วยกันนำสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากความขัดแย้งทางการเมือง”นายชัยธวัช ย้ำ

พท.กัดฟันหนุน‘พิธา’เป็นนายกฯ

เวลา11.30น.นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.)ลุกขึ้นอภิปรายว่าต้องยอมรับว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนได้คะแนนเกินครึ่ง มีเพียงพรรคก้าวไกลที่ได้มากกว่าใคร151เสียงและพรรค พท.141เสียง เปรียบเสมือนไข่เป็ดและไข่ไก่ และเป็นข้าวต้มมัดที่ด้วยตอกเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล

พรรค พท. เคารพกติกาและสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกฯ และพรรคก้าวไกลก็รวมเสียงจนได้ 312 เสียง ถ้าเราเคารพเจตนารมณ์ประชาชน เพราะประชาธิปไตยเป็นเรื่องง่ายไม่ใช่เรื่องยากซึ่งการเลือกตั้งจบลงแล้วแต่ไม่ใช่จนกลายเป็นการลากแล้วตั้งดึงขากันคนที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง ประชาชนอยากเห็นรัฐบาลและเห็นนายกฯจากพรรคที่มี 151 เสียงและพท.จริงใจรู้กติกา มีบทเรียนเคยได้คะแนนเด็ดขาด

“เที่ยวนี้พรรคก้าวไกลเขาเป็นส้มตำที่เผ็ดจี๊ดจ๊าดเขาใส่พริกมากกว่าเราต้องเปิดโอกาสให้นายพิธาเป็นนายกฯโดยไมมีเงื่อนไขและยืนยันว่าเพื่อไทยยินดีสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯคนที่ 30ท้ายนี้ขอเรียกร้องไปยังส.ว.เป็นบทกลอนว่า ขอสัญญาจะเลือกพิธาขอส.ว.ยกมือสนับสนุน ประชาชนเขาเลือกมานั้นเป็นคุณ พิธาจะทำงานแทนคุณประเทศเอย”นายอดิศร กล่าว

ปชป.เปิดศึกค้าน‘พิธา’ดันแก้112

เวลา12.45 น. นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯว่าพรรคประชาธิปัตย์ เรามีจุดยืนทางการเมืองและอุดมการณ์ชัดเจนตลอด77ปี เราชัดเจนไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่ผลักดันให้แก้ไขม.112 เด็ดขาดซึ่งแคนดิเดตนายกฯประกาศว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ แต่สมาชิกบางท่านที่สังกัดอยู่กับประกาศเปลี่ยนวันชาติ บางคนผลักดันเดินหน้าแก้ไข ม.112ขอถามวันนี้ ประเทศชาติเจอวิกฤตเรื่องนี้หรือเรื่องอะไรกันแน่ เคยคิดทบทวนหรือไม่ว่า ถ้าได้เป็นนายกฯแล้วจะแก้ไขปัญหาสิ่งใดให้ประเทศชาติ เคยทราบหรือไม่ประชาชนต้องเจอกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ปัญหายาเสพติดที่เพิ่มขึ้นรุนแรงทุกวัน ท่านไม่คิดแก้ไขปัญหานี้แต่คิดจะไปลดโทษกฎหมายกับบุคคลที่ไม่จงรักภักดีต่อชาติสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างนั้นหรือนี่หรือคนที่จะประกาศเป็นนายกฯคนที่30วันดีคืนดีก็มีคนในพรรคบอกว่า จะสนับสนุนให้มีการแบ่งแยกดินแดน

ลั่นใครจาบจ้วงสถาบันจะต่อสู้ถึงที่สุด

นายชัยชนะกล่าวย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์ยึดหลักประชาธิปไตยมาโดยตลอดเรามีเอกภาพในการตัดสินใจมาตลอดการที่เราได้รับฟังเหตุผลตลอดระยะเวลาก่อนมาถึงวันนี้เราทราบดีว่าท่านมีจุดยืนอย่างไรเราจึงไม่สามารถสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯได้เพราะมีจุดยืนต่างกับเรา เรามีความรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ใครก็ตามที่คิดจะจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้ง25 ท่านเราจะออกไปต่อสู้และต่อต้านเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์แห่งนี้ให้ถึงที่สุด

สส.-สว.เรียงหน้าสับ‘พิธา-ก้าวไกล’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมหลังจากที่ประชุมเปิดโอกาสให้ส.ส.และส.ว.สลับกันขึ้นมาอภิปรายเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯคือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลโดยสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)และส.ส.ฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลเดิมส่วนใหญ่ต่างอภิปรายแสดงความกังวลและตั้งคำถามแสดงความไม่สบายใจเรื่องการแก้ไขมาตรา112 ของพรรคก้าวไกล ตลอดจนแนวคิดการเปลี่ยนวันชาติ การแบ่งแยกดินแดนทำให้ไม่สามารถสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯได้

กระทั่งเวลา12.00น.นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. อภิปรายว่ารับไม่ได้ต่อแนวทางพรรคก้าวไกลที่ละเมิดต่อรัฐ ความมั่นคง โดยเฉพาะการลงโทษอย่างมีเงื่อนไขกรณีการหมิ่นสถาบันให้มีบทยกเว้นไม่ต้องรับโทษจากการแก้ไขกฎหมายมาตรา112อาจทำให้เกิดการใส่ร้าย วิจารณ์ไม่เป็นธรรมบนโซเชียลมีเดีย สังคมใหม่ที่จะสร้างขึ้น คิดดีแล้วหรือ จึงยอมรับไม่ได้กับการสนับสนุนแก้ไขมาตรา112

สว.เสรีรับกลัวด้อมส้ม-แต่ขอป้องสถาบัน

เวลา13.45 น.นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.อภิปรายว่าตนไม่ได้อคติต่อนายพิธาและพรรคก้าวไกล แต่นายพิธาไม่สมควรได้รับตำแหน่งนายกฯโดยมีเหตุผลสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่จะต้องไม่มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม ในการประชุมวันนี้มีกระบวนการที่ให้ประชาชนออกมา แสดงเจตจำนงค์หลายจังหวัดทั่วประเทศ มีสื่อถามว่าไม่กลัวเสียงประชาชนที่สนับสนุนนายพิธานอกสภาหรือก็ต้องตอบว่ากลัวมาก กลัวว่าจะเข้าใจผิดว่าส.ว.ไม่ให้ความเคารพเกรงใจเสียงประชาชนแต่ด้วยความเกรงกลัวเหล่านั้นเราก็คำนึงถึงการทำหน้าที่เพื่อรักษาปกป้องประเทศ สถาบันพระมหากษัตริย์ ความกลัวที่เกิดขึ้นทั้งประชาชนเสียงข่มขู่ให้ร้าย พูดจาด่าทอเสียดสีสารพัดแต่กลัวน้อยกว่าความรู้สึกสำคัญที่จะต้องออกมาปกป้องประเทศ และเป็นคนละส่วนของการทำหน้าที่ในสภาฯ รวมถึงการเลือกตั้งที่ผ่านมา

‘สมชาย’ปูดวิชามารกองทัพอวตารเต็มโซเชียลฯ

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.อภิปรายว่าขณะนี้มีกองทัพอวตารแก้ว3ประการในโซเชียลพยายามมากดดัน บูลลี่ ส.ว.ให้เลือกตามมติเสียงข้างมาก แม้จะมีส.ว.บางส่วนขอปิดสวิตช์ตัวเองแต่ก็ยังการขู่ บูลลี่ไม่ให้ปิดสวิตช์ ยืนยันส.ว.ทั้งหมด มีสิทธิทำหน้าที่เท่าเทียมส.ส.ทุกประการ ทุกคนทำหน้าที่อย่างสุจริต ไม่มีอคติ อามิสสินจ้าง แต่ตนจะทำหน้าที่ด้วยความไม่เกรงกลัวใดๆและ เชื่อมั่นว่า ส.ว.ทุกคนเคารพเสียงเลือกตั้งที่เห็นด้วยกับทุกพรรคการเมือง ขอร้องหลังจากเลือกเสร็จแล้วไม่ว่านายพิธาจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ ขอให้เลิกอ้างเสียงข้างมากมากดดันเพราะผิดหลักประชาธิปไตย เป็นอนาธิปไตย ต้องเลิกอ้างเสียงข้างมาก 14 ล้านเสียง แล้วบังคับคนทั้งประเทศว่าต้องเห็นด้วย แบบนั้นแต่เป็นเผด็จการ เรากำลังเข้าสู่การเมืองที่อยากเห็นประชาธิปไตยรุ่นใหม่ เราอยากเห็นความสงบ เดินเข้าสู่ครรลองประชาธิปไตยแล้ว อย่าใช้สังคมกดทับ อย่าใช้ประชาธิปไตยแบบฟุ่มเฟือย หรือ เลือกพวกข้าเท่านั้นที่ถูก เลือกพวกเอ็งผิด แบบนั้น ถ้าเลือกทางเดินแบบสุดโต่ง สร้างลัทธิสุดโต่งครอบงำเยาวชน ตนเห็นว่านายพิธายังไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ

‘พิธา’ก้นร้อนลุกแจง3ประเดินร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังถูกส.ส.และส.ว.หลายคนลุกอภิปรายโจมตีพรรคก้าวไกลอย่างหนักทำให้ส.ส.พรรคก้าวไกลอาทินายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อทักท้วงนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภาที่ทำหน้าที่ประธานว่าปล่อยให้สมาชิกรัฐสภาพาดพิงพรรคก้าวไกลอยู่เป็นระยะๆควรให้โอกาสพรรคได้ชี้แจงบ้างนายพรเพชรจึงให้พรรคก้าวไกลได้ใช้สิทธิ์พาดพิง

โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกชี้แจง3 เรื่องคือ 1. เรื่องต่างประเทศ ยืนยันว่านโยบายต่างประเทศของตนจะหาจุดสมดุลระหว่างมหา อำนาจ ไม่ใช่เงียบทุกเรื่องทำไห้ประเทศไทยไม่มีน้ำหนักในเวทีการเมือง 2.เรื่องการแบ่งแยกดินแดน ขอให้คำยืนยันรัฐไทยภายใต้การนำของตน ประเทศไทยจะเป็นรัฐเดี่ยว จะทำทุกวิถีทาง ผ่านการทูต พลเรือน ให้รัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยว มีความก้าวหน้า จะลดความมั่นคงทางทหาร เพิ่มความมั่นคั่งทางอาหาร เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ใช้สภาเป็นพื้นที่พูดคุยป้องกันการแบ่งแยกดินแดน 3.ปัญหายาเสพติด จะนำเทคโนโลยีมาช่วย และพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เราจะใส่ใจแน่นอน รับประกันได้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'อนุทิน\' ยกคณะลุยอุบลฯ ปัดอุ่นเครื่องรอเลือกตั้ง ยันทำในฐานะพรรคร่วม-รมต. 'อนุทิน' ยกคณะลุยอุบลฯ ปัดอุ่นเครื่องรอเลือกตั้ง ยันทำในฐานะพรรคร่วม-รมต.
  • แนวหน้าวิเคราะห์ : จับตารุมทึ้ง‘งบปี69กับงบ1.57แสนล้าน’ หวั่นซ้ำซ้อน เอื้อการเมือง ปูทางเลือกตั้ง แนวหน้าวิเคราะห์ : จับตารุมทึ้ง‘งบปี69กับงบ1.57แสนล้าน’ หวั่นซ้ำซ้อน เอื้อการเมือง ปูทางเลือกตั้ง
  • \'กล้าธรรม\'ขนทัพใหญ่บุก\'สงขลา\'ตั้งตัวแทนพรรค 14 มิ.ย. ยันจุดยืนช่วยเหลือเกษตรกร 'กล้าธรรม'ขนทัพใหญ่บุก'สงขลา'ตั้งตัวแทนพรรค 14 มิ.ย. ยันจุดยืนช่วยเหลือเกษตรกร
  • สส.ใต้\'กล้าธรรม\'ผนึกกำลังพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจปักธงหลายจังหวัดภาคใต้ สส.ใต้'กล้าธรรม'ผนึกกำลังพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจปักธงหลายจังหวัดภาคใต้
  • เตือนรัฐก่อนเป็น\'กบต้ม\' เร่งแก้\'ผูกขาด-คอรัปชั่น-นิติรัฐ\' เตือนรัฐก่อนเป็น'กบต้ม' เร่งแก้'ผูกขาด-คอรัปชั่น-นิติรัฐ'
  • เขย่าภูมิใจไทย! ‘ทักษิณ’ปรามาสไม่ถอนตัวรัฐบาล เลิกกั๊กจ้องฮุบ‘มหาดไทย’ เขย่าภูมิใจไทย! ‘ทักษิณ’ปรามาสไม่ถอนตัวรัฐบาล เลิกกั๊กจ้องฮุบ‘มหาดไทย’
  •  

Breaking News

มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 13-19 มิ.ย.68

'ทูตประศาสน์'พร้อมคณะฝ่ายไทย เดินทางถึงกัมพูชา เตรียมเข้าร่วมประชุม JBC พรุ่งนี้

ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัดแรก! 'ผบ.เรือนจำ'ยอมรับส่งตัว 'ทักษิณ' ไป รพ.ตร.ไม่ผ่านรพ.ราชทัณฑ์

จุดเริ่มต้นที่ดี! 'ภูมิธรรม' หวังเวที JBC พรุ่งนี้ราบรื่น ขอปชช. 2 ประเทศไม่บิดเบือนข้อมูล

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved