วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
มติสภาเสนอชื่อซ้ำไม่ได้/วืดโหวตรอบ2  ปิดฉาก‘พิธา’  หลังถกดุเดือดนานกว่า8ชั่วโมง

มติสภาเสนอชื่อซ้ำไม่ได้/วืดโหวตรอบ2 ปิดฉาก‘พิธา’ หลังถกดุเดือดนานกว่า8ชั่วโมง

วันพฤหัสบดี ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : พิธา มติสภา ศาลรธน. หุ้นITV
  •  

มติสภาเสนอชื่อซ้ำไม่ได้/วืดโหวตรอบ2

ปิดฉาก‘พิธา’

หลังถกดุเดือดนานกว่า8ชั่วโมง

จับตา‘เพื่อไทย’ลุยจัดตั้งรัฐบาล

ศาลรธน.สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่สส.

มติ7ต่อ2รับคำร้องคดีถือหุ้นITV

ศาลรธน.มีมติรับคำร้องที่กกต.ขอให้วินิจฉัยสถานภาพสส.“พิธา”ปมถือหุ้นไอทีวี42,000 หุ้น และมีมติ 7 ต่อ 2 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย พร้อมสั่งให้“พิธา”ชี้แจงภายใน 15 วัน โดยเบื้องหลังลงมติ 2 เสียงข้างน้อย ติดใจปมเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่-กระบวนการควรชัดเจนกว่านี้ “ชลน่าน”ยัน“พท.”ไม่มีแผนชง“เศรษฐา”วันไหน “อนุทิน”ลั่นอุ้ม“ก.ก.”ภท.ไม่ร่วมด้วย

’วิทยา’ยันญัตติตกแล้ว-พท.มีโอกาสเสนอชื่อ3ครั้ง ด้าน’สว.กิตติศักดิ์’ยันไม่โหวต‘พิธา’พท.แกนนำตั้งรบ.ถ้ามี’ก้าวไกล’ไม่โหวต เริ่มประชุมรัฐสภาโหวตนายกฯรอบ2 ‘พท.’ลุกชง’พิธา’ซ้ำ เจองัดข้อบังคับ41ค้าน ด้านก.ก.โวยกลับ เรื่องนอกวาระ จะหารือไม่ได้ จี้เร่งให้โหวตนายกฯเดือดพลั่ก! ‘สว.ตัวตึง’ลุกขึ้นแจ้งข่าวศาลมีมติสั่ง‘พิธา’หยุดปฏิบัติหน้าที่กลางสภาฯ ทำ‘องครักษ์วิโรจน์’ ฉุนจัดซัดกลับรอต้องกระเหี้ยนกระหือรือขนาดนั้นเลย เหน็บอยากเข้าวัดที่พิจิตรมากหรือ ให้รอเอกสารทางการ’พิธา’รู้ชะตากรรม โบกมือลา-ชูบัตร ส.ส.หลังศาล รธน.สั่งหยุดทำหน้าที่


เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 กรกฎาคม คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประชุมประจำสัปดาห์ มีวาระพิจารณาคำร้องกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่นั้น รวมทั้งคำขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาลรธน.รับคำร้องปมพิธาถือหุ้นไอทีวี

หลังประชุมนาน 2ชั่วโมง ศาลรัฐธรรมนูญออกเอกสารข่าวเผยแพร่ผลการประชุม ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่กกต. ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา สุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน 42,000 หุ้น โดยเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ ประกอบวรรคหนึ่ง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 75 โดยให้นายพิธาผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้เข้ากล่าวหาต่อศาลฯภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 54

มติ7ต่อ2สั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่

สำหรับคำขอของ กกต.ที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธาผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา82 วรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธาอาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายและการคัดค้านโต้แย้ง เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมรัฐสภาและที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ จึงมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

เปิดชื่อ2เสียงข้างน้อยติดใจผจก.มรดก

แหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า มติ7ต่อ2เสียง ที่มีคำสั่งให้นายพิธาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าวันที่ศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดนั้น เสียงข้างมาก 7เสียง เห็นว่าตัวบทกฎหมายระบุไว้ชัดว่ามีเหตุอันควรสงสัย ตามคำร้องจึงเห็นควรสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ไว้ก่อน ส่วนเสียงข้างน้อย 2เสียงที่เห็นต่างในคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นั้น ตุลาการคนหนึ่งยังติดใจเรื่องการถือหุ้นดังกล่าวตามเอกสาร บมจ.5 หรือสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ระบุในฐานะผู้จัดการมรดกหรือไม่ ขณะที่ตุลาการอีกคนหนึ่ง ติดใจว่ากระบวนการควรจะชัดเจนกว่านี้ พร้อมระบุว่า ศาลฯส่งเอกสารคำสั่งของศาลไปที่รัฐสภาแล้ว เพื่อแจ้งประธานรัฐสภารับทราบแล้ว ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ศาลฯจะรอเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากนายพิธาภายใน 15วัน ตามกรอบที่แจ้งไว้และอาจเรียก นายพิธา เข้ามาชี้แจงและเข้ากระบวนการไต่สวน คาดว่าจะใช้เวลาไต่สวน 3-4เดือน

มีรายงานว่า สำหรับตุลาการเสียงข้างน้อย 2เสียงที่ไม่เห็นด้วยกับคำขอให้ นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ประกอบด้วย นายนภดล เทพพิทักษ์และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์

“พิธา”เดินออกจากห้องประชุมทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ซึ่งอยู่ระหว่างประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) มีระเบียบวาระประชุมเรื่องที่เสนอใหม่ พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หลังทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญได้ลาเพื่อนส.ส.พรรคก้าวไกล และเดินออกจากห้องประชุมทันที

‘เรืองไกร’ชี้ปมพิธาต่างจากธนาธร

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้ยื่นคำร้องต่อกกต.ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ประเด็นเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไอทีวี จำกัด(มหาชน) ให้สัมภาษณ์หลังทราบมติศาลรัฐธรรมนูญว่า กรณีนายพิธา ตนยืนยันในคำร้องและข้อเท็จจริงมาตลอด เมื่อกกต. มีคำร้องไปศาลก็ต้องรับ ส่วนที่ศาลสั่งเป็นดุลพินิจ ซึ่งศาลเห็นข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับ กกต. ส่วนความแตกต่างระหว่างคดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในอดีตนั้น กรณีนายธนาธรเป็นบริษัทครอบครัว พยานหลักฐานยังอาจชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ แต่กรณีนายพิธาเป็นกรณีบริษัทมหาชน

นายเรืองไกรยังระบุด้วยว่า การเสนอชื่อนายพิธา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯต้องตกไป และยืนยันว่า ถ้ามีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯเป็นชื่ออื่น ตนก็ต้องเข้าไปตรวจสอบ และความจริงวันนี้น่าจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย 3 คน ส่วนนายพิธา ควรแสดงความรับผิดชอบ เมื่อโหวตไม่ได้แล้วก็ไปสู้คดี ไม่ใช่แถลงว่าขอโอกาสอีกครั้ง โหวตแล้วจะโหวตอีก เป็นเรื่องวุฒิภาวะของผู้นำประเทศ

‘ชลน่าน’ยันชงชื่อ’พิธา’นั่งนายกฯอีก

เวลา 09.10น.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จะถือเป็นญัตติซ้ำหรือไม่ ว่า หากมีการเสนอสอบถามว่า เป็นญัตติซ้ำหรือไม่ 8 พรรคร่วมเห็นว่า ไม่ได้เป็นข้อบังคับที่41 เป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ สามารถเสนอชื่ออีกครั้งได้

เมื่อถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องของนายพิธา กรณีหุ้นสื่อ พรรค พท. กังวลในเรื่องนี้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีสมาชิกพรรคสอบถามเรื่องนี้ในที่ประชุมพรรค พท.ว่า กรณีหากมีคำวินิจฉัยศาลออกมาจะมีผลกับการโหวตวันนี้หรือไม่ ซึ่งตนตอบไปชัดว่า หากเป็นแค่รับคำร้อง ยังไม่ได้วินิจฉัยถึงที่สุด เราจะถือว่า นายพิธา มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม สามารถเสนอชื่อและให้ความเห็นชอบได้

พท.ไม่มีแผนเสนอชื่อ’เศรษฐา’นายกฯ

เมื่อถามว่า สว.หลายคนมั่นใจว่า ชื่อ นายพิธา ไม่สามารถโหวตวันนี้ได้ 8พรรคจะโต้แย้งหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่โต้แย้งเป็นความเห็นของแต่ละท่าน ถ้าประธานในที่ประชุม อนุญาตให้ญัตติตีความข้อบังคับเข้าเราก็ยึดตามนั้นและถ้าเสียงข้างมากบอกว่าเป็นญัตติซ้ำก็ไม่ได้รับการโหวตนายกฯก็ต้องยอมรับ

เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วบอกเป็นญัตติซ้ำ พท.พร้อมเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกฯพรรค พท.หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีแผนการนี้ เมื่อถามถึงกรณีที่สว.ออกมาระบุหากพรรค พท.เป็นแกนนำแล้วมีพรรคก้าวไกลร่วมด้วย จะไม่เห็นชอบว่า นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่อยากคิดล่วงหน้า เป็นเพียงความเห็น สว.บางคน จะเป็นทั้งหมดหรือไม่ ตนไม่รู้ ทำได้เพียงแต่รับฟัง เมื่อถามย้ำว่าพรรค พท.เป็นแกนนำแล้วสามารถดึงเสียงสว.ได้ใช่หรือไม่ แม้จะมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นกระบวนการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ต้องรอข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นในวันนี้และความเห็นพ้องของ 8พรรคร่วมโดยเฉพาะพรรคก้าวไกลมีความเห็นอย่างไร ถ้าทำตามที่นายพิธาแถลงไว้มันถึงจะไปตรงนั้นได้และจะตอบได้ว่าพรรค พท.พร้อมไม่พร้อมในการหาเสียงสว.

เมื่อถามว่าการจะหาเสียงสส.พรรคที่ 9 หรือ10 เข้ามาเพิ่มเติม พรรค พท.ต้องชัดเจนก่อนใช่หรือไม่ว่า ได้เสียงสว.เท่าไร นพ.ชบน่าน กล่าวว่า ด้วยความเคารพ เรื่องพรรคที่9 ที่10 เป็นการตอบคำถามที่สื่อถามว่า หากพรรค พท.เป็นแกนนำจัดตั้งแล้วต้องทำตามเอ็มโอยูเดิม ที่จะให้พรรคอันดับสองเป็นแกนนำ เขาก็ถามว่าจะเปลี่ยนเอ็มโอยูหรือไม่ ตนก็ตอบไปว่า หาก พท.เป็นแกนนำเอ็มโอยูเดิมเขียนทุกอย่างขึ้นต้นว่าก้าวไกลก็ต้องเปลี่ยนแปลงและสิทธิของพรรคแกนนำจะต้องหารือกับ 8พรรคร่วมว่า พรรคแกนนำมีสิทธิหาเสียงเพิ่มได้ขนาดไหน ถ้ามีสิทธิกาเสียงเพิ่มได้ เช่น ดึงพรรคอื่นเข้ามา ก็ต้องเปลี่ยนเอ็มโอยู ตนตอบทำนองนี้ ไม่ได้ไปรื้อหรือไปปรับอะไร เมื่อถามว่าจะเกิดรัฐบาลข้ามขั้วหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ขอตอบประเด็นนั้น ส่วนจะมีโอกาสหรือไม่มีโอกาส ขอให้ประเด็นวันนี้เป็นที่ปรากฎก่อนและคำแถลงของ8พรรคร่วมปรากฎก่อน ตนไม่ทราบอะไรทั้งนั้น

‘อนุทิน’ลั่นอุ้ม’ก.ก.’-’ภท.’ไม่ร่วมด้วย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ว่า ของพรรคภูมิใจไทยยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเหมือนเดิม คือไม่แก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเมื่อถามว่า มีการมองว่าหากพรรคลำดับที่2 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้และเป็นพรรคลำดับที่ 3 มองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า รอให้เกิดขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้มันยังไม่เกิด ตอนนี้ยังอยู่ในกระบวนการที่พรรคอันดับ1 ยังจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ยังมาไม่ถึงพรรคลำดับที่2เลย เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังจับมือกับพรรคก้าวไกลอยู่ พรรคภูมิใจไทยจะร่วมด้วยได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็พูดไปแล้ว คือไม่เอา ซึ่งตนก็ยังอยู่ในแนวทางไม่แตะมาตรา112และไม่เอาเสียงข้างน้อย เมื่อถามย้ำว่า หากไม่มีพรรคก้าวไกลจะพิจารณารับข้อเสนอใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า“อย่าเพิ่งแต่ อย่าเพิ่งถ้า”

‘วิทยา’ยันญัตติตก-พท. มีโอกาส3ครั้ง

นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหากการโหวตในวันนี้ เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล แล้วไม่ผ่าน ทิศทางของพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นอย่างไร ว่า จากที่หารือกันพรรครวมไทยสร้างชาติก็เตรียมตัวเป็นฝ่ายค้านทั้งหมด ส่วนการพูดคุยหารือกับพรรคซีกรัฐบาลเดิมและประธานสภา ก็มีความเห็นไม่ตรงกัน ฝ่ายของเราเห็นว่า การเสนอชื่อ นายพิธา คราวก่อนเป็นญัติ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับและมีผู้รับรองถูกต้อง ดังนั้นญัตติที่ผ่านการพิจารณา และตกไปแล้ว โดยธรรมชาติไม่สามารถนำเข้ามาในที่ประชุมในสมัยนี้ได้ ต้องรอดูว่า การเสนอวันนี้จะเป็นเรื่องเก่าหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องเก่าก็ถือว่าจบไปแล้ว เว้นแต่มีเรื่องใหม่หรือข้อคิดเห็นของประธานสภา หรือมีผู้เสนอแนบมาว่า มีพฤติกรรมอะไรใหม่ที่ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ใช่เรื่องเดียวกัน

เมื่อถามว่า หากการโหวตรอบที่3-4ไปต่อไม่ได้ จะเป็นโอกาสของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่ครั้งต่อไปอยู่ที่ว่า เขาจะสละให้กับเพื่อไทยหรือไม่ เมื่อเพื่อไทยเสนอเข้ามาก็ต้องดูก่อน เพราะมีแคนดิเดตเสนอถึง3ชื่อ เพราะอาจจะเริ่มต้นแล้วเวียนไปเรื่อยๆ จนกว่า เพื่อไทยจะได้เสียงในสภา ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคพท.ไม่ได้จะเป็นโอกาสของรวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยัง เพราะพท.มีโอกาสเสนอได้ 3รอบ ส่วนพรรคก.ก.เสนอคนเดียวก็จบ

‘กิตติศักดิ์’ยืนยันไม่โหวตให้‘พิธา’

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว.ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมร่วมรัฐสภาว่า จุดยืนของตนยังเหมือนเดิมทุกอย่าง การทำหน้าที่ของเราตรงนี้ต้องคำนึงถึงความสำคัญของประเทศชาติเป็นหลัก ทั้งนี้ สว.ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นแล้วว่าจะขอประเทศไทยคืน เราจะขอลูกหลานเราคืน ลูกหลานเราจะต้องกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่ และอยู่ในวัฒนธรรมประเพณีไทย ดังนั้น ในการเลือกนายกฯถ้าเลือกผิด ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม สิ่งที่ส.ว.ต้องตัดสินใจคือยึดถือความถูกต้อง ต้องทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนไปในทางที่ดี โดยต้องมีเพิ่มความขัดแย้ง ไม่มีการแบ่งแยกประเทศ เมื่อถามว่า สว.ในกลุ่ม นายกิตติศักดิ์ จะงดออกเสียงหรือมีท่าทีอย่างไร นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องดูว่าวันนี้จะได้โหวตหรือไม่ ถ้ามีการโหวตจากคนที่เคยงดออกเสียง ก็ประกาศได้เลยว่าจะไม่เห็นชอบ ซึ่งตนเชื่อว่าคนที่เคยงดออกเสียงในครั้งที่แล้ว เชื่อว่าทั้งหมดจะเปลี่ยนมาไม่เห็นชอบ เมื่อถามว่า ท่าทีของสว.ที่ยกระดับขึ้นจะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของกลุ่มตรงข้ามหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะก่อนที่เราจะตัดสินใจไป มีความขัดแย้งอยู่ก่อนแล้ว แต่เรายึดชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่หากเกิดความขัดแย้ง ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามที่ระบุว่าจะไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนประเทศหมายความว่าสนับสนุนรัฐบาลเดิมใช่หรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า พูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะตนไม่ก้าวก่ายว่าใครไปรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่เมื่อมีการเสนอชื่อผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ เราก็ใช้อำนาจของสว.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ในการให้ความเห็นชอบ ดังนั้นสว.ไม่ก้าวก่ายการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยจะมีท่าทีอย่างไร นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาล ในพรรคร่วมรัฐบาลนั้นจะต้องไม่มีพรรคก้าวไกล และถ้า 8 พรรคร่วมที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลอยู่ตอนนี้ยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย ตนก็จะไม่โหวตให้

‘พท.ย’ชง‘พิธา’ซ้ำเจองัดข้อบังคับ41ค้าน

เวลา 09.30น.ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่1)มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานโดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ถือเป็นการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกเมื่อวันที่ 13ก.ค.ที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมให้เป็นนายกฯ จากนั้น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสนอชื่อมีการประท้วงทันที จาก นายอัครเดช มุ่งพิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกโต้แย้งว่า การเสนอชื่อ นายพิธา ไม่สามารถทำได้ เพราะชื่อ นายพิธา เคยเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 13กรกฏาคมแล้ว แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบ จึงถือเป็นญัตติที่ตกไปแล้ว ดังนั้นการเสนอญัตติซ้อนอีกครั้งไม่สามารถทำได้และขัดกับข้อบังคับที่มีสถานะเป็นกฎหมาย ทั้งนี้ มีข้อโต้แย้งจากฝั่ง 8พรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน อาทิ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เช่นเดียวกันว่า การหารือของนายอัครเดชนั้นไม่ถูกต้องเพราะเป็นขั้นตอนของการเลือกนายกฯ ตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ขณะที่ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขอให้มีการรับรองเสนอชื่อผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ เพื่อให้ญัตติสมบูรณ์ ก่อนจะดำเนินการคัดค้านต่อไป ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่า ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนรับรองก่อน และให้นายอัครเดช รอ ทั้งนี้จากการรับรองชื่อนายพิธา พบว่ามี ส.ส.ที่รับรอง รวม 304 คน

โดยนายอัครเดช ยืนยันว่าการเสนอชื่อนายพิธาให้โหวตรอบ2นั้นไม่สามารถทำได้ เพราะจะขัดกับข้อบังคับข้อ41 ทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลและมีทีท่าว่าจะทำให้บรรยากาศในที่ประชุมวุ่นวาย ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า การประชุมวิป3 ฝ่าย นั้นมีข้อตกลงร่วมกันว่า หลังจากการเสนอญัตติบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกฯแล้วต้องให้เสนอญัตติเพื่อถกเถียง ซึ่งจะให้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

นายรังสิมันต์กล่าวว่า วานนี้ (18กรกฏาคม) ตนอยู่ในการประชุมวิปด้วย ซึ่งไม่มีข้อสรุปดังกล่าว ดังนั้นตนขอให้ประธานรัฐสภาวางตัวเป็นกลาง อีกทั้งในกระบวนการเลือกนายกฯ นั้นต้องยึดการทำงานในสภาฯ ต้องยึดระเบียบข้อบังคับ ทำให้ นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจง ว่า การอภิปรายยังอยุ่ในระเบียบวาระไม่ได้นอกวาระ เพราะอภิปรายเรื่องการเสนอชื่อบุคคลที่จะถูกเลือกเป็นนายกฯ ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ขอให้ว่ากันอีกที “เมื่อวานเป็นการหารือไม่ได้ข้อยุติ แต่ต้องนำข้อหารือที่ไม่มาร่วมหารือแจ้งให้ตรงกัน หากมีความคิดเห็นไม่ตรงกันเรื่องเสนอชื่อซ้ำ หากไม่ตรงกับข้อบังคับข้อใดข้อหนึ่ง อาจมีความคิดเห็นหลายฝ่าย จะให้แสดงความคิดเห็นได้ ใช้เวลา 2ชั่วโมง หรือ120นาที ดังนั้นเพื่อความเรียบร้อย เสมอภาค เท่าเทียม จะให้เวลา3ฝ่ายๆละ40นาที” นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจง

ขณะที่ นายรังสิมันต์ ลุกใช้สิทธิ์พาดพิงยืนยันว่า ผลการหารือ3ฝ่าย ยอมรับว่ามีข้อเสนอจริง แต่พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วย ดังนั้นต้องเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ ตามมาตรา 272 เพื่อให้เป็นไปตามวาระ ซึ่งกรณีที่หารือนั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอกวาระ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นบรรยากาศของการประชุม ได้ลุกอภิปรายโต้แย้งในประเด็นดังกล่าวอย่างเข้มข้น โดยฝ่าย ส.ว.สนับสนุนต่อการอภิปรายข้อหารือในประเด็นญัตติที่ตกไปตามข้อบังคับข้อ41 ต่อไปเพราะการหารือของวิปนั้นหากข้อเสนอใดที่ไม่มีใครโต้แย้งถือว่าได้รับการยอมรับ พร้อมย้ำว่าญัตติเสนอชื่อนายพิธานั้นต้องตกไปตามข้อบังคับ แต่ยังถูกส.ส.พรรคก้าวไกล โต้แย้งเป็นระยะๆ

‘สว.’ลุกแจ้งศาลฟัน’พิธา’เจอก.ก.สวน

ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมเปิดฉากอย่างดุเดือด สมาชิกรัฐสภาทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการถกเถียงกันอย่างหนักในประเด็นข้อบังคับที่ 41 ว่าการเสนอชื่อนายพิธาเป็นญัตติ และตกไปแล้ว ไม่สามารถเสนอญัตติซ้ำได้อีก โดยผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ต่อมา นายวันนอร์ ได้สั่งที่ประชุมให้ยุติการอภิปรายนอกประเด็น และขอให้สมาชิกที่ประชุมอภิปรายอยู่ในกรอบดังกล่าวว่าการเสนอชื่อ นายพิธา เป็นการเสนอญัตติซ้ำหรือไม่ จนกระทั่งเวลา 12.00 น. ที่ประชุมยังถกเถียงกันไม่จบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 11.00 น.ปรากฏว่า มีข่าวศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง กกต.ปมถือหุ้นสื่อและสั่ง นายพิธา ให้ยุติปฏิบัติหน้าที่สส.ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ทำให้ในเวลา 11.10น.นายพิธา เดินออกจากห้องประชุมสภาทันที ก่อนจะกลับเข้ามาอีกรอบ

‘พิธา’เดินออก-ก่อนเดินเข้ามาอีกครั้ง

เวลา12.05น. นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว.ลุกขึ้นแจ้งต่อที่ประชุมว่า ก่อนที่จะดำเนินการต่อไปขอให้ท่านประธานพิจารณาสักนิดว่า ขณะนี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลบังคับแล้วสั่งให้ นายพิธา ยุติการปฏิบัติหน้าที่โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติ7ต่อ2 ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ ยังพูดไม่จบ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก.ก.ลุกขึ้นประท้วง ทำให้ นายกิตติศักดิ์ กล่าวสวนว่า “อย่าใจร้อนนะ” นายวิโรจน์ กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “ระเบียบราชการก็คงต้องรอหนังสือราชการมาอย่างเป็นทางการก่อนไม่ต้องแสดงความกระเหี้ยนกระหือรือขนาดนั้น ทำไมอยากจะเข้าวัดที่พิจิตรมากเลยหรือ” โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้เบรคทันทีว่าขอให้หยุดเท่านี้อย่าทะเลาะกันเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านั้น นายพิธา ได้เดินทางออกจากห้องประชุม ทางประตูหลัง โดยได้โบกมือและชูบัตรประจำตัวสส.ไปยังด้านหน้าห้องประชุมด้วย หลังเกิดประเด็นวิวาทะระหว่าง นายวิโรจน์และนายกิตติศักดิ์ พบว่า นายพิธา ได้เดินกลับเข้าห้องประชุมและนั่งในเก้าอี้ประจำของตัวเอง

รับคำสั่ง-ฝากเพื่อนสส.ดูแลปชช.ต่อไป

เวลา 14.45น.นายพิธา ได้แจ้งต่อที่ประชุมหลังรับทราบคำสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่สส.จากศาลรัฐธรรมนูญ นายพิธา กล่าวว่า มีเอกสารจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง่ให้ผมยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงขออนุญาตพูดกับท่านประธานว่า รับทราบคำสั่ง จะปฏิบัติตามจนกว่าจะมีจะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น ขอใช้โอกาสนี้ในการอำลา จนกว่าเราจะพบกันใหม่ ขอฝากเพื่อนๆสมาชิกใช้รัฐสภาในการดูแลพี่น้องประชาชน คิดว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2566 ถ้าเกิดประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง แม้ผมจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ขอให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันดูแลประชาชนต่อไปครับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายพิธา ได้ลุกขึ้นวางบัตรประจำตัว สส.ที่โต๊ะ ด้าน สส.เพื่อไทย ได้เดินเข้าไปหา อาทิ นายสุชาติ ตันเจริญ เข้าไปจับมือ รวมถึง สส.รายอื่นที่เข้าไปสวมกอดให้กำลังใจ ขณะที่ สส.จำนวนมากในสภาพร้อมใจปรบมือเสียงดังอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ นายพิธา จะเดินออกจากสภาไป

ปชช.ไว้ใจไม่พอ-สว.ต้องไฟเขียวด้วย

ต่อมา นายพิธา ได้โพสต์รูปตัวเองขณะออกจากห้องประชุม พร้อมเขียนแคปชั่นว่า“เป็นที่ชัดเจนแล้ว ในระบบปัจจุบัน ชนะความไว้วางใจจากประชาชนไม่เพียงพอ ที่จะบริหารประเทศชาติ ต้องขออนุมัติจากวุฒิสภาก่อน เผลอๆไม่พอที่จะเสนอชื่อเป็นครั้งที่2ด้วยซ้ำไป ต่อมา นายพิธา ได้โพสต์คลิปวิดีโอวินาทีที่วางบัตรประจำตัว ส.ส.ไว้ที่โต๊ะ พร้อมกับระบุข้อความสั้นๆ ว่า “I’ll be back’ (แล้วผมจะกลับมา)และโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า“ตั้งแต่การเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม สังคมไทยได้เปลี่ยนไปแล้ว “กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม”และประเทศไทยจะไม่มีวันกลับไปสู่จุดเดิมอีก ดังนั้น ต่อสู้ร่วมกันต่อไป เราชนะมาแล้วครึ่งทาง อีกครึ่งทางขอให้สู้ร่วมกันจนสำเร็จจงได้”

2ส.ส.ก้าวไกลร้องไห้ศาลเชือด’พิธา’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างประชุมที่รัฐสภา เพื่อพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่2 หลังสส.ก้าวไกลทราบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ส.ส.ก้าวไกลทั้งหมดต่างเดินเข้ามาให้กำลังใจ นายพิธา ที่โต๊ะในสภา พร้อมจับมือให้กำลังใจ หลังถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.จังหวะที่บรรดา สส.ก้าวไกลให้กำลังใจ นายพิธา นายณัฐวุฒิ บัวประทุมและน.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ 2สส.ก้าวไกล ได้ร่ำไห้ออกมา ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูออกมาปาดน้ำตา โดยมีเพื่อน ส.ส.ก้าวไกลเข้ามาปลอบและให้กำลังใจนายณัฐวุฒิและน.ส.ธิษะณา

มติ395ต่อ312ชงชื่อ’พิธา’ซ้ำไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ระหว่างที่เปิดให้สมาชิกรรัฐสภาอภิปรายแสดงความเห็นก่อนลงมติในประเด็นที่เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้รัฐสภาเห็นชอบเป็นนายกฯ อีกครั้งจะทำได้ หรือขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ41หรือไม่

กระทั่งเวลา 17.00น.นายวันนอร์ ประธานที่ประชุมได้ยุติการอภิปรายเพื่อให้สมาชิกลงมติ ผลปรากฏว่า ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ลงมติญัตติส่งพิธาชิงนายกฯซ้ำไม่สามารถทำได้ (ขัดข้อบังคับการประชุมข้อ41) มีผู้ลงคะแนน 715คน เห็นด้วย (ส่งซ้ำไม่ได้) 395คน ไม่เห็นด้วย (ส่งซ้ำได้) 312คน งดออกเสียง 8คน ไม่ลงคะแนนเสียง 1คน จากนั้นสั่งปิดประชุมสภาทันที

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ศาลรธน.’รอเอกสารเพิ่มคำร้อง‘ภูมิธรรม-ทวี’ยืมมือ DSI แทรกแซงกกต.สอบคดีฮั้วสว. ‘ศาลรธน.’รอเอกสารเพิ่มคำร้อง‘ภูมิธรรม-ทวี’ยืมมือ DSI แทรกแซงกกต.สอบคดีฮั้วสว.
  • ด่วน! พ.ร.บ.งบฯปี69 ฉลุยวาระแรก ด้วยคะแนนเสียง 322 ต่อ 158 ด่วน! พ.ร.บ.งบฯปี69 ฉลุยวาระแรก ด้วยคะแนนเสียง 322 ต่อ 158
  • ‘สว.นันทนา’เผยล่าชื่อ20สว.ยื่นศาลรธน.ขอหยุดทำหน้าที่เฉพาะเห็นชอบองค์กรอิสระ เสร็จในสัปดาห์นี้ ‘สว.นันทนา’เผยล่าชื่อ20สว.ยื่นศาลรธน.ขอหยุดทำหน้าที่เฉพาะเห็นชอบองค์กรอิสระ เสร็จในสัปดาห์นี้
  • ‘นายกฯอิ๊งค์’ให้รอ ครม.เคาะคนดูดีเอสไอแทน‘ทวี’ ‘นายกฯอิ๊งค์’ให้รอ ครม.เคาะคนดูดีเอสไอแทน‘ทวี’
  • ‘ทวี’หยุด ‘ดีเอสไอ’ต้องไม่หยุดลุยคดี‘ฮั้วสว.’ ‘ทวี’หยุด ‘ดีเอสไอ’ต้องไม่หยุดลุยคดี‘ฮั้วสว.’
  • สั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ดูแลDSI-เซ่นคดีฮั้วสว. ศาลรธน.เชือด\'ทวี\' เหตุสงสัยแทรกแซงปมคดีฮั้ว สั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ดูแลDSI-เซ่นคดีฮั้วสว. ศาลรธน.เชือด'ทวี' เหตุสงสัยแทรกแซงปมคดีฮั้ว
  •  

Breaking News

'กัมพูชา'เสียงแข็ง! ต้องใช้แผนที่ 1:200,000 ชวนไทยไปศาลโลก

(คลิป) 'ฮุนทองธาร'เสียงอ่อนเสียงหวานกับ'ฮุนเซน'

'อินเดีย'สลดซ้ำ! เฮลิคอปเตอร์ตกในเทือกเขาหิมาลัย ดับ 7 ราย

เปิดภาพ'ทหารเขมร'! แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ลั่นพร้อมรับคำสั่ง'ฮุน มาเนต'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved