วันนี้ 29 ต.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลความมั่นคง ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)ในความผิดร่วมกันออกคำสั่งให้ ศอฉ.ปฏิบัติหน้าที่สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) เมื่อช่วงปี 53 จนเป็นเหตุให้ผู้ร่วมชุมนุมเสียชีวิต

จนนายอภิสิทธิ์ต้องตั้งโต๊ะแถลงผ่านสื่อมวลชนถึงกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องตนเอง เเละนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยตอนหนึ่งนายอภิสิทธิ์ระบุว่า กรณีที่อัยการสูงสุดอ้างว่า ดีเอสไอ ไม่ระบุว่า มีชายชุดดำอยู่ในสำนวนซึ่งถือว่า เป็นการละเลยต่อข้อเท็จจริง ซึ่งอัยการสูงสุดทราบดีว่า ชายชุดดำมีจริงและอัยการสูงสุด และดีเอสไอ ก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนคดีนี้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้กรณีชายชุดดำนั้น ประชาชนเองต่างรู้ดีว่าชายชุดดำนั้นมีอยู่จริงไม่ว่าจะเป็นทั้งสื่อไทยสื่อต่างชาติก็ต่างรายงานให้เห็นถึงการกระทำของกลุ่มชายชุดดำดังกล่าว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวหาได้ในโลกออนไลน์ หรือพิมพ์หาในกูเกิ้ลก็เจอ นอกจากนี้ทางหนังสือพิมพ์แนวหน้าเคยได้นำเสนอภาพกลุ่มชายชุดดำ ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพกลุ่มชายชุดดำ คล้ายกองทัพกลุ่มหนึ่งแต่งตัวมิดชิด คล้ายตำรวจ-ทหาร พร้อมผูกผ้าสัญลักษณ์สีแดง โดยในภาพยังมีอีกบุคคลหนึ่งเดินสวมแว่นดำอยู่ในกลุ่มสวมเสื้อสีน้ำตาลออกครีมอ่อน ซึ่งเมื่อตรวจสอบดูพบว่าบุคคลในภาพคือนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. อย่างไรก็ตามหลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ต่างมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงภาพภาพดังกล่าวอย่างมากมาย พร้อมตั้งคำถามกลับไปยัง ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ออกมาระบุว่าในการชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 53 ไม่มีกองกำลังชายชุดดำติดอาวุธหรือไม่ 

ติดตามเฟซบุ๊กร่วมเป็นแฟนเพจแนวหน้าออนไลน์ได้ที่
www.facebook.com/naewnaonline