คาดนำชื่อครม.ทูลเกล้าฯ1ก.ย.
‘เศรษฐา’เดินหน้า
ส่งกฤษฎีกาสอบปม‘พิชิต’
นโยบายเสร็จเกือบ100%แล้ว
ถกธกส.ดันพักหนี้เกษตรกร
‘บิ๊กตู่’ปิดฉาก9ปีอำลาทำเนียบ
‘ป้อม’ลาสส.นั่งแค่หน.พปชร.
“เศรษฐา” หวังนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯได้ใน 1 กันยายนนี้ หลังส่งให้กฤษฎีกาเช็คดูปม“พิชิต”ทุบโต๊ะคุณสมบัติผ่านก็ไม่ผิดจริยธรรม น้อมรับฟังวิจารณ์ครม.ไม่ขอตอบโต้ ขอให้รอดูและวัดกันที่ผลงานดีกว่านโยบายเสร็จเกือบ 100% ปธ.สภาฯระบุรอรัฐบาลประสานพร้อมนัดวิป 3 ฝ่ายถกเคาะวัน-เวลาแถลงนโยบายฯ“กฤษฎา”ลาออกพ้นปลัดคลัง-เตรียมนั่งรมช.คลังปิดฉากเก้าอี้นายกฯ9 ปี “บิ๊กตู่” ร่วมมื้อเที่ยงอำลาสื่อทำเนียบฯเปลือยใจหมดเปลือก
หลีกทางทำงานที่บ้าน ให้นายกฯคนใหม่เข้าไทยคู่ฟ้า ขณะที่ขรก.-จนท.ทำเนียบฯร่วมซึ้งส่วน‘พีระพันธุ์-ธนกร’สวมกอด ทำน้ำตาคลอ ก่อนออกพ้นทำเนียบบ่าย2ตามฤกษ์สว.ก๊วนเพื่อนตท.12ตบเท้าขึ้นตึกไทยฯอำลาให้กำลังใจ“บิ๊กตู่”ทำงานวันสุดท้าย‘บิ๊กป้อม’เตรียมลาออกสส.พปชร.นั่งหน.พรรคอย่างเดียวไม่เล่นการเมืองแล้วย้ำบ้านป่าปิดแล้ว เหลือไว้แต่มูลนิธิฯ
เมื่อเวลา 08.45น.วันที่ 31สิงหาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางทางเข้ามาที่ทำการพรรคเพื่อไทย(พท.)โดยให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจว่าวันที่ 1 กันยายน น่าจะแล้วเสร็จและหวังว่าจะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เลย เมื่อถามถึงคุณสมบัติของนายพิชิต ชื่นบาน ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่แม้อาจไม่ขัดต่อคุณสมบัติแต่อาจจะมีการร้องเรียนเกี่ยวกับจริยธรรมนั้น นายเศรษฐากล่าวว่าเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับว่าที่รัฐมนตรีทุกคน หากไม่ผิดข้อบทกฎหมายและตรวจสอบคุณสมบัติผ่านแล้วก็ถือว่าไม่ผิดจริยธรรม
เมื่อถามว่ามีคนมองว่าเรื่องจริยธรรมนายกรัฐมนตรีอาจต้องช่วยพิจารณาเรื่องความเหมาะสมด้วย นายเศรษฐากล่าวว่าตอนนี้กำลังขอความเห็นโดยกฤษฎีกา คาดว่ากฤษฎีกาจะมีความเห็นออกมาในวันที่ 1กันยายน หากมีความเห็นว่าคุณสมบัติสามารถผ่าน ตนก็หวังว่าจะเป็นที่สิ้นสุด
ขอให้วัดที่ผลงาน/น้อมรับคำวิจารณ์
เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงหรือไม่ว่าหากรายชื่อออกมาสังคมจะออกมาคัดค้านภายหลัง นายเศรษฐากล่าวว่าตนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีใครถูกใจทั้งหมดกับทุกท่านที่สรรหาเข้ามา แต่ก็ต้องให้เกียรติทางพรรคร่วมรัฐบาลและว่าที่รัฐมนตรีทุกท่านที่จะอาสาเข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติ ขอให้รอดูและวัดกันที่ผลงานดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ใช้ถ้อยคำรุนแรงวิพากษ์วิจารณ์การจัด ครม.ของพรรค พท.ทั้งที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน นายเศรษฐา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ก็น้อมรับฟังครับ ไม่มีอะไรจะไปตอบโต้ครับ”ส่วนกรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวว่ามีคนเสนออะไรมาเยอะแยะก็จะรับพิจารณา มีหลายคนอยากเข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติก็จะรับพิจารณา
เร่งถกธกส.ลุยทำเรื่องพักหนี้
เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคก้าวไกล(ก.ก.)ตั้งคำถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะอยู่ในการประชุม ครม.นัดแรกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว คงมีอะไรหลายเรื่องเช่นเรื่องการพักหนี้เกษตรกร ขอให้อดใจรอนิดหนึ่งและวันนี้เวลา10.00 น.ตนจะมีเจอกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)เพื่อหารือเรื่องของการพักหนี้ ซึ่งว่าที่ รมช.คลัง จะมาพูดคุยด้วยว่าขั้นตอนจะดำเนินการ ได้ทันทีหรือไม่ เพราะประชาชนเดือดร้อนหนี้สินเป็นจำนวนมาก
ส่วนที่ประชาชนหลายคนอยากทราบว่าตัวเลขการลดราคาพลังงานจะมากน้อยแค่ไหนนายเศรษฐากล่าวว่าขอทำตัวเลขนิดหนึ่งเมื่อวันที่30ส.ค. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯก็มาให้ข้อมูลแล้ว มีแนวทางชัดเจนแล้วแต่ขอดูเรื่องตัวเลขอีกนิดว่าตรงไหนเหมาะสม รวมถึงต้องปรึกษากระทรวงว่าการคลังด้วยถึงเรื่องงบประมาณต่างๆอย่าให้ตนพูดไปก่อน คิดว่าตัวเลขเรื่องค่าพลังงานจะไม่มีปัญหา หากประกาศลดในครั้งแรกที่ประชุม ครม.นัดแรกเลย
ตั้งใจแก้ปัญหา-นโยบายใกล้เสร็จ100%
เมื่อถามว่า ในการลงพื้นที่พบปะประชาชน กลัวว่าจะเจอมวลชนที่คัดค้านหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นธรรมดาเมื่ออาสามาทำงานการเมือง เรื่องเหล่านี้เราก็ต้องรับฟัง มีทั้งคนติ มีทั้งคนชม มีทั้งคำแนะนำ ก็อยากให้เป็นการติเพื่อก่อ
“ผมเพิ่งเข้ามา ก็มีความตั้งใจจริงที่จะรับฟังปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบจริงๆอะไรที่สามารถแก้ไขได้ก็จะรีบด่วนการทำจึงบอกว่าในการประชุมครม.นัดแรกมีหลายเรื่องที่ต้องทำ วันนี้จะโทรหาหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ด้วย และเรื่องของการแถลงนโยบายก็สำคัญ โดยหลังจากถวายสัตย์ฯเสร็จก็จะมีการแถลงนโยบาย ขณะนี้แผนกนโยบายก็กำลังทำและรวบรวมนโยบายจากพรรคต่างๆว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งขอให้รอดูอีกนิด ใกล้เคียงเกือบจะ100% แล้วมีเวลาอีก 1 สัปดาห์น่าจะจบได้”นายกฯคนใหม่ ย้ำ
‘กฤษฎา’ลาออกปลัด-จ่อนั่งรมช.คลัง
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังได้ลงนามอนุมัติการลาออกของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่ได้ยื่นหนังสือลาออกเพื่อไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองในโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)แล้ว โดย มีผลทันทีในวันนี้ ทั้งนี้ การลาออกดังกล่าวของนายกฤษฎายังคงได้รับบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539ก่อนหน้านี้ นายกฤษฏา มีรายชื่ออยู่ ในโผครม.”เศรษฐา1”เป็น ว่าที่ รมช.คลัง ในโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ
วันนอร์รอนัดวิปเคาะวันแถลงนโยบาย
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาลว่า วันเวลาที่จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเป็นเรื่องของรัฐบาล ซึ่งถ้าสภาได้รับเรื่องจากรัฐบาลแล้วจะนัดประชุมวิปทั้ง3ฝ่าย เพื่อตกลงวันและเวลาที่มีความพร้อมที่สุดซึ่งคิดว่าจะเป็นเร็วๆนี้ เบื้องต้นทางรัฐบาลยังไม่ประสานมาว่าจะแถลงเมื่อใด เข้าใจว่ารัฐบาลต้องนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าถวายสัตย์เสียก่อนถึงจะแจ้งมายังสภาว่าจะมีความพร้อมเมื่อใด ยืนยันสภามีความพร้อมตลอดเวลา
เชื่อแบ่งโควตากมธ.35คณะไร้ปัญหา
ประธานสภาฯ ยังกล่าวถึงการจัดสรรโควตาคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญทั้ง35คณะว่านายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่2รับผิดชอบอยู่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองกมธ.ได้เสนอไปยังนายพิเชษฐ์แล้วว่าพรรคการเมืองใดจะได้สัดส่วนเป็นกมธ.กี่คนและจำนวนของพรรคการเมืองที่จะได้ประธานกมธ.กี่คณะ แต่สิ่งที่ต้องพูดคุยกันคือเมื่อได้สัดส่วนแล้วต้องตกลงว่าใครจะอยู่คณะกมธ.ใดใน35คณะ โดยเฉพาะวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านที่ต้องคุยกัน คิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ในวันนี้(31ส.ค.)เวลา13.30 น.หัวหน้าพรรคการเมืองที่มีสส.จะประชุมเพื่อรับทราบจำนวนสส.ที่จะไปเป็นกมธ.จากนั้นหัวหน้าพรรคจะแจ้งสมาชิก แล้วยื่นกลับมายังสภา ขณะเดียวกันฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องตกลงกันว่าพรรคใดจะได้ตำแหน่งประธานคณะใดเพราะหากปล่อยให้โหวตกันภายในคณะกมธ.ด้วยกันเอง พรรคที่มีสส.จำนวนมากจะได้ประธานกมธ.ไปดังนั้นจึงต้องตกลงกันซึ่งแนวปฏิบัติมีอยู่แล้วว่าฝ่ายค้านได้กี่คณะควรได้เป็นประธานคณะใดตามอำนาจหน้าที่ที่ควรจะเป็นฝ่ายรัฐบาลก็เช่นกัน
ผู้นำฝ่ายค้านรอได้จนกว่าจะพร้อม
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่าหลังจากได้รัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางสภาฯจะทาบทามไปยังพรรคที่มีสส.เป็นฝ่ายค้านและไม่ได้ร่วมรัฐบาลไม่มีตำแหน่งประธานรองประธานสภาฯมีพรรคใดประสงค์เป็นผู้นำฝ่ายค้านเพื่อกราบบังคมทูลแต่งตั้งต่อไปส่วนถ้านายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่1ซึ่งมาจากพรรคก้าวไกลไม่ลาออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็จะต้องเป็นของพรรคลำดับถัดไป หากพรรคนั้นไม่เรียบร้อยก็ต้องรอ รอจนกว่าพรรคนั้นๆจะพร้อม เพราะเป็นภาระของสภาฯที่จะต้องให้มีผู้นำฝ่ายค้าน ไม่เช่นนั้นจะขาดสัดส่วนการพิจารณาเรื่องต่างๆ
“ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านเพราะมีหน้าที่ที่เป็นภารกิจของผู้นำฝ่ายค้านหลายเรื่องอยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องดำเนินการให้ได้ผู้นำฝ่ายค้าน ส่วนระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพรรคที่อยู่ในฝ่ายค้าน และมีสัดส่วนที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านได้” ประธานสภาฯ ย้ำ
‘บิ๊กป้อม’ไขก๊อกสส.นั่งแค่หน.พรรค
เวลา 08.40 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวก่อนเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกฯว่า“ห้ามถามการเมืองนะ ไม่เล่นการเมืองแล้ว เป็นหัวหน้าพรรคอย่างเดียว ไม่ได้เล่นการเมือง”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคอย่างเดียวแล้วในตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พล.อ.ประวิตร กล่าวทันทีว่า“เดี๋ยวก็จะลาออก คนอื่นก็ทำไป”เมื่อถามถึงความชัดเจนว่าจะลาออกเมื่อไหร่พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถามเมื่อถามย้ำว่าจะยังทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคอย่างเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า“ใช่ อย่างเดียว”
‘สันติ’จ่อขยับเป็นสส.บัญชีรายชื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหากพล.อ.ประวิตรลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อผู้ที่จะขยับขึ้นเป็นสส.แทนคือนายสันติพร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคที่มีชื่อเป็น รมช.สาธารณสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.อ.ประวิตร มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และกล่าวอวยพรสื่อ อย่างอารมณ์ดี“โอเคนะ โชคดีนะทุกคน โชคดีจ๊ะ”จากนั้นเดินทางเข้าห้องรับรองเมื่อออกจากห้องได้กวักมือเรียกสื่อผู้สื่อข่าวให้มาถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
บ้านป่าปิดแล้ว เหลือไว้แต่มูลนิธิฯ
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐพูดคุยกับสื่อสายทหาร ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกฯโดยสื่อได้หยอกล้อว่าหลังจากนี้จะมีเวลาทำผัดซีอิ๋วที่บ้านป่ารอยต่อหรือไม่พล.อ.ประวิตรตอบเสียงดังฟังชัดว่า “บ้านป่าปิดแล้ว”พร้อมยิ้ม และเดินไป ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าปิดจริงหรือไม่ และเหตุใดจึงปิด พล.อ.ประวิตร จึงตอบว่า“ทำแต่มูลนิธิอย่างเดียว”พร้อมอวยพรสื่อมวลชนขอให้โชคดีทุกคน
สว.ก๊วนเพื่อนตท.12ตบเท้าอำลาบิ๊กตู่
ช่วงเช้า ที่ทำเนียบรัฐบาลผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งเดินทางเข้ามาทำงานเป็นวันสุดท้าย โดยหลังเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว ได้มีเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น12และสมาชิกวุฒิสภา(สว.)อาทิ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ,พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์,พล.อ.ยอดยุทธบุญญาธิการ,พล.อ.อ.อดิศักดิ์ กลั่นเสนาะ พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ พล.อ.โปฎก บุนนาค พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์ ร.อ.ประยุทธ เสาวคนธ์ พล.อ.อู๊ด เบื้องบน พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
มอบหนังสือ‘มาเหนือเมฆ’กับ‘ผู้นำ”
ภายหลังจากที่สว.เพื่อนร่วมรุ่นนักเตรียมทหารและผู้ใต้บังคับบัญชาของพล.อ.เอกประยุทธ์ขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อให้กำลังใจเกือบ1ชั่วโมงแล้ว ทุกได้เดินทางออกมาพร้อมหนังสือคนละ 2 เล่ม คือหนังสือ“มาเหนือเมฆ”และหนังสือ“ผู้นำ”ที่พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบเป็นของขวัญ
มาชื่นชมให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์
โดยพล.ท.จเรศักดิ์ อานุภาพ เปิดเผยว่าการพูดคุยอำลาในวันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก พวกเรามาชื่นชมและให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ในโอกาสที่ท่านจะส่งมอบงานให้กับนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกถึงแผนชีวิตหลังจากนี้หรือไม่ หรือมีการชวนเพื่อนๆไปเที่ยวหรือไม่ พล.ท.จเรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี เพียงแต่มีการรื้อฟื้น เป็นการพูดคุยถึงสิ่งที่ขาดหายไปใน 8-9 ปีจากการเสียสละมาทำงานเพื่อประเทศชาติของเรา เราทุกคนมาให้กำลังใจเท่านั้นเอง เราชื่นชมท่าน ตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหารมาด้วยกันและเป็นผู้บัญชาการทหารบก และพวกเราเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาท่าน ก็ทำงานสนองนโยบายท่าน
ด้านพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ สว.กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ฝากอะไรในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของส.ว. ซึ่งเพื่อนส.ว.ก็ได้ให้กำลังใจลุงตู่เต็มร้อย
อนุชา-แรมโบ้ เข้ากราบอำลา‘บิ๊กตู่’
นอกจากนี้ยังมีนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกฯเดินทางเข้ามาพบกราบอำลา ที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลเพื่ออำลาพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำงานในวันนี้เป็นวันสุดท้ายโดย นายอนุชา กล่าวหลังเข้าพบนายกฯบนตึกไทยคู่ฟ้าว่าวันนี้ได้ขึ้นไปกราบลาและขอบคุณนายกฯที่เมตตากับทุกคน
ฝากให้ทำความดีดูแลปท.บ้านเมือง
“นายกฯขอให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติบ้านเมือง ถ้ามีโอกาสให้ทำความดี และดูแลประเทศชาติบ้านเมือง ถือเป็นหลักสำคัญ นอกจากนี้นายกฯยังได้ให้โอวาทว่าถ้าคนเราทำดีก็จะเจริญรุ่งเรือง“นายกฯเป็นสุภาพบุรุษและเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี ตั้งแต่ทำงานมาในชีวิต นายกฯเป็นคนดีคนหนึ่งที่มอบความดีให้กับผู้ร่วมงาน ส่วนเรื่องของตำแหน่งใหม่ไม่ได้พูดถึง นายกฯเพียงฝากในเรื่องการทำงาน ขอให้ทำและนึกถึงประเทศชาติบ้านเมือง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะสร้างความเจริญเติบโตให้กับเรา
เมื่อถามถึงภาพรวมในการทำหน้าที่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายอนุชา กล่าวว่า ก็เหมาะสมทุกอย่างในการพูดคุยและการร่วมรัฐบาลทุกอย่างเป็นไปด้วยดีตนคิดว่าในการทำงานต้องยึดประโยชน์ประเทศชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ในฐานะที่ได้รับคำสั่งจากนายกฯก็ยึดถือปฏิบัติส่วนจะมีการสานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดนี้หรือไม่นั้น หากรัฐบาลใหม่คิดว่าเป็นประโยชน์คงจะเอามาทำต่อ
แรมโบ้ลั่นรัก‘บิ๊กตู่’จนสิ้นลมหายใจ
ด้านนายเสกสกล กล่าวว่า ตนมาแสดงมุทิตาจิตด้วยความรัก เพราะนายกฯเป็นคนดี ในการทำงานเพื่อบ้านเมืองความรักความศรัทธาที่มีต่อพล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีวันเสื่อมคลายจนสิ้นลมหายใจ ส่วนการทำงานทางการเมืองจากนี้ต่อไปอย่างไร อยู่ที่ตนตัดสินใจ นายกฯบอกให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงก่อน เนื่องจากตนไปผ่าตัดเข่ามาจะไม่คล่องตัว เรื่องการเมืองเป็นเรื่องอนาคต ส่วนการเมืองจะมีโอกาสอย่างไรก็แล้วแต่ฟ้าลิขิต
ส่วนการร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับรทสช.นายเสกสกลตอบว่าตนไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงแค่ว่าชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องมาก่อน เรื่องอื่นๆขอให้จับมือกันให้ประเทศชาติเกิดความปรองดอง อย่ามีสีเสื้อ อย่าทะเลาะกัน เอาชาติ บ้านเมืองเป็นหลัก
‘บิ๊กตู่’ร่วมมื้อเที่ยงกับสื่อทำเนียบ
เวลา 12.00น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เดินลงจากห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศและนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ
ทันทีที่นายกฯเดินมาถึงบริเวณที่ร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนหน้าตึกบัญชาการ1ได้ถอดเสื้อสูธมีท่าทีผ่อนคลายอย่างมากและทักทายสื่อมวลชนว่า“วันหน้าก็ทำกับรัฐบาลใหม่เขาให้ดีๆก็แล้วกันนะ”แล้วพล.อ.ประยุทธ์นั่งรับประทานเมนูวันนี้ ผัดไท หมูย่างปลาร้า ส้มตำ หอยทอด ก๋วยเตี๋ยวเนื้อของหวานเป็นไอศกรีมกะทิ
โดยสื่อได้ถามพล.อ.ประยุทธ์ว่านายกฯคุยกับเราบ้างก็ได้พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“ก็คุยกันมาตลอดคุยกันมา 9ปีแล้ว ไม่เบื่อหรือ ทะเลาะกันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติแต่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเอางานเป็นหลัก พูดไม่เพราะบ้างก็ให้อภัยกัน”
ขอทำงานที่บ้าน/หลีกทางนายกฯใหม่
เมื่อถามว่าจากนี้นายกฯจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าก็คงสักระยะให้นิ่งๆเงียบๆเรียบร้อยก่อนจะไปถูกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยเพราะตนนั่งแค่รถจากบ้านมาทำเนียบรัฐบาลทุกวันก็ฝากไปถึงครอบครัวขอให้อยู่กับครอบครัวเพราะเวลาก็หายไป9ปีหรือเยอะกว่านั้นที่เรามาอยู่ตรงนี้มาบริหารสถานการณ์และตนไม่ขอวิจารณ์ให้เขาทำงานไป ซึ่งการที่ตนตัดสินใจออกจากทำเนียบฯไปนั่งทำงานอยู่ที่บ้านเพราะเป็นการให้เกียรติคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ซึ่งคาดว่าน่าจะเร็วๆนี้ เขาจะได้มาจัดสถานที่ในการทำงาน
ไม่โกรธสื่อเดี๋ยววันเวลาพิสูจน์กันเอง
เมื่อถามต่อว่าก่อนหน้านี้ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯมาดูตึกไทยคู่ฟ้าแล้วระบุว่าไม่มีห้องนอนพล.อ.ประยุทธ์แนะนำอะไรไปบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่านายเศรษฐาเป็นผู้ถามตนว่าจะนอนทำเนียบฯดีไหม ตนจึงบอกว่าถ้าจะนอนก็มีห้องเล็กอยู่ ตนก็ยังไม่เคยนอน เพราะรบกับสื่อทำให้นอนไม่หลับแต่พอพูดไปโมโหไป กลับมาก็รู้สึกเสียใจคิดว่าไม่ควรพูด ต่างคนต่างเข้าใจกันนะ บางครั้งก็ต้องดุบ้างเพราะเราก็เป็นทหารมาก่อนที่สื่อเขียนกันมาตนก็ไม่ได้โกรธเพราะเดี๋ยววันเวลาก็พิสูจน์กันเอง
เปลือยหมดใจ-ไม่ได้ตั้งใจอยู่ถึงขนาดนี้
“ผมจะเหงาอะไร ผมเป็นคนช่างคิด ช่างอ่าน นิสัยนี้เลิกไม่ได้ ไม่มีอำนาจอะไรก็นั่งคิดไปเฉยๆ คิดในฐานประชาชนคนหนึ่ง คนเราต้องวางบทบาทที่เหมาะสม ทำตัวอย่างไร ก็ขอพักสมอง เจอกับหนังสือมา 9 ปี ท่วมหัวไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องการทำเพลงนั้นวันหน้าจะเขียนให้นายอนุทิน ไปแต่ง เพลงที่ผมแต่งมาชอบทุกเพลง เพราะมีความหมายสำหรับเรา เราชอบแต่งบทกลอน บทกวี ตอนนั้นก็คือตอนนั้น แต่ไม่คิดว่าจะมาถึงตอนนี้ ต้องคิดว่าเข้ามาอย่างไรสถานการณ์เป็นอย่างไร ถ้ามันเรียบร้อยผมก็ไปนานแล้ว ถ้ามันสงบเรียบร้อยไม่มีปัญหาก็ไป ผมไม่ได้ตั้งใจอยู่มาถึงขนาดนี้ แล้วตอนนี้ถือว่าทุกอย่างโอเควันนี้ถือว่าทุกคนปรองดองกัน แต่เราจะไปสั่งใครปรองดองไม่ได้ นายกฯ คนเดียวทำได้เหรอ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ไม่โกรธใครทั้งสิ้นจะชอบไม่ชอบ
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้ให้เปิดเพลง‘สะพาน’จากโทรศัพท์มือถือออกลำโพงโดยพล.อ.ประยุทธ์ได้ร้องตามพร้อมระบุว่าคำว่าขอเวลาอีกไม่นานนั้นหมายความว่า ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดีถ้าผ่านเร็วเราก็ไปเร็วแค่นั้นเอง แต่กลไกการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญเขาทำมาเราก็ต้องอยู่เป็นเรื่องของกระบวนการ และขอฝากความรักความคิดถึงและไม่โกรธเคืองใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะรักจะชอบไม่ชอบจะด่าจะว่าเพราะเป็นโลกของโซเชียล
ฝากช่วยทำให้บ้านเมืองสงบ
เมื่อถามว่าหลังจากนี้พล.อ.ประยุทธ์จะแสดงความเห็นเรื่องชาติบ้านเมืองหรือไม่เมื่อไม่มีตำแหน่งแล้ว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าก็ต้องดูว่าควรหรือไม่ควร เราไม่อยากให้ความขัดแย้งมันมากกว่านี้ซึ่งมันก็ดีอยู่แล้วอยู่ที่พวกเราจะช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ ตนไม่รู้ว่าความขัดแย้งจะกลับมาอีกหรือไม่ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานตนก็ประทับใจทุกอัน ส่วนเหตุการณ์มีเยอะจำไม่ได้และที่ประทับใจที่สุดคือการประชุมคณะรัฐมนตรีในทุกสัปดาห์
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้รับมอบดอกไม้และร่วมถ่ายรูปกับสื่อมวลชนที่ร่วมเดินไปส่งจนถึงตึกไทยคู่ฟ้า
ขรก.-จนท.ทำเนียบอำลาสุดซึ้ง
ต่อมาเวลา 13.09 น.พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นไปสักการะท้าวมหาพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้าก่อนลงมาพบปะข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลจำนวนมาก ที่ห้องโถงกลางตึกไทยโดยนำดอกกุหลาบแดงมามอบให้พร้อมวงดนตรีได้บรรเลงเพลง‘ความฝันอันสูงสุด’ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ และเวลา13.30น.ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรวมทั้งแฟนคลับได้เข้ามาร่วมให้กำลังใจมอบดอกไม้ถือป้ายเชียร์และร่วมส่งพล.อ.ประยุทธ์
โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับทุกคนว่าอะไรก็ตามที่ทำให้พวกเราไม่สบายใจไม่พอใจก็ขอบอกว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่ตั้งใจแบบนั้นขอบคุณทุกคนและทุกหน่วยงานทั้งรัฐและรัฐวิสาหกิจทุกคน ขอให้เดินหน้าได้อย่างปลอดภัย เจอกันข้างนอกขอให้ทักทายกันบ้าง อาจจะจำไม่ได้หน้าตนอาจจะเปลี่ยนไปเยอะทุกคนก็จำหน้าตนได้ในขณะนี้ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์เชิญชวนให้ทุกคนร่วมร้องเพลง“คำสัญญา”ของวงอินโดจีน,เพลงด้วยรักและผูกพันของ เบิร์ด ธงไชยและเพลง“ศรัทธา”ของวงหินเหล็กไฟ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อมารับดอกไม้และร่วมถ่ายรูปร่วมกัน
‘พีระพันธุ์-ธนกร’กอดทำน้ำตาคลอ
หลังจากนั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้ามาสวมกอดอำลาทำให้พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับมีน้ำตาคลอและขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลในเวลา14.00 น.ตามฤกษ์ที่กำหนดไว้
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านพิษณุโลก
จากนั้นเวลา 14.06น.พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปยังบ้านพิษณุโลก ถนนพิษณุโลก แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต เพื่อสักการะศาล ท่านท้าวหิรัญพนาสูร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านพิษณุโลก เป็นการส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 15นาที โดยไม่ให้สื่อมวลชนติดตามทำข่าว หลังทำงานเป็นวันสุดท้าย ที่ทำเนียบรัฐบาลจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางกลับบ้านพัก ทั้งนี้ ในอดีตบ้านพิษณุโลก ถือเป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและเรือนรับรองแขกสำคัญของรัฐบาลไทย
พท.ยังไม่เคาะนัดเลือก‘หน.คนใหม่’
ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.)พรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่าเบื้องต้นยังไม่กําหนดวัน ต้องคุยกับทั้งรักษาการเลขาธิการและกรรมการบริหารพรรคว่าวันใดจะเหมาะสม แต่ต้องอยู่ภายใน 60 วัน
โดยหลักทั่วไป จะต้องเรียกประชุมใหญ่วิสามัญซึ่งสมาชิกทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเสนอชื่อกรรมการบริหาร แต่คงต้องไตร่ตรองดูว่าใครจะเหมาะสมแล้ว จึงนำเสนอในที่ประชุมใหญ่
สเปครู้รอบด้าน‘การเมือง-ศก.-สังคม
ส่วนสเปคหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเป็นรัฐบาล สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่จะต้องทำงานเพื่อสนับสนุนรัฐบาลมากน้อยเพียงใดจึงควรเป็นผู้มีความรอบรู้ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนจะต้องเป็นคนรุ่นใหม่หรือไม่ ก็ไม่ทราบ แล้วแต่สมาชิก และไม่จำเป็นต้องเป็น สส.ที่ผ่านมา ไม่เป็นสส.ตั้งหลายคนเมื่อถามที่มีกระแสอยากให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมาเป็นหัวหน้าฯนายชูศักดิ์ตอบว่า“สุดแต่ท่าน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี