"ชลน่าน"ขอให้ยอมรับความหลายหลากการเลือกตั้งของประชาชน พร้อมชี้ระบบเลือกตั้งไทยต้องแก้ไข ระบุบางพรรคได้6-10คน เพราะปชช.กาผิด มั่นใจรัฐบาลเพื่อไทย อยู่ครบ 4 ปี ไม่ยุบสภาก่อนแน่ ยันไม่เคยพูดแก้รธน.เสร็จจะยุบสภา
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เดิมตั้งใจจะจับมือกับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อทำงานร่วมกัน โดยอาศัยพรรคที่เป็นเสรีประชาธิปไตย แต่ต้องแยกสองส่วน คือ พรรคการเมืองแนวทางเสรีประชาธิปไตย กับพรรคการเมืองที่มีอยู่ ซึ่งการตัดสินใจของประชาชนอาจจะเป็นคนละความหมายกับสิ่งที่ปรากฏชัด เมื่อผลการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกล ได้ 151 เสียง พรรคเพื่อไทย 141 เสียง รวมเป็น 292 เสียง คาดหวังว่าจะจัดตั้งรัฐบาลที่เข้มแข็งได้ แต่มองภาพรวมในระบบรัฐสภา สิ่งที่เราเสนอ แล้วประชาชนให้ แล้วเราก็มารวมกันบอกว่าเป็นความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ก็ได้รับเลือกจากประชาชน ซึ่งจะต้องยอมรับความหลายหลากการเลือกของประชาชน เมื่อผลเลือกตั้งเป็นแบบนั้นก็เกิดคำถามว่าจริงหรือไม่ที่เราเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนต้องการ
แต่จากข้อเท็จจริงบางสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ประชาชนไม่ต้องการ พรรคการเมืองก็ได้ ส.ส.เข้ามา จึงจะวัดจากการเลือกตั้งแล้วสรุปว่าเป็นพรรคที่ประชาชนต้องการอาจไม่ถูกต้อง 100% จึงต้องช่วยกันมองระบบการเลือกตั้งก็เป็นส่วนหนึ่งให้ประชาชนเลือกแบบนี้ ทั้งที่ไม่ต้องการเลือก ส.ส.คนนี้ เช่นกรณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงอย่าเหมารวมว่าคะแนนที่ได้เป็นความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง แต่มี ส.ส.ได้รับเลือกตั้ง ไม่ต่ำกว่า 6 - 10 คน ที่ประชาชนไม่ตั้งใจกา แต่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เนื่องจากหมายเลขพรรคกับผู้สมัครต่างกัน จึงเป็นระบบที่ต้องแก้ไข
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สังคมไทยค่อนข้างหลากหลาย มีความเป็นประชาธิปไตยและเข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างลึกซึ้ง พรรคเมืองที่ประชาชนต้องการนั้น ตนมองว่ามี 3 ข้อ 1.พรรคการเมืองเป็นสถาบันการเมือง ที่พรรคเองต้องบอกตัวเองได้ และพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นได้ 2.คือการมีเสียงประชาชนสนับสนุน ทั้งทางตรง ทางอ้อม โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในการผลิตนโยบายการเมือง ตรวจสอบทางการเมือง และการนำนโยบายไปใช้ และ 3.ที่ถือเป็นจุดตายของพรรคการเมืองยุคใหม่ คือการสื่อสารการเมือง บวกกับการตลาดการเมือง ที่ต้องรู้ว่าประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งเป็นอย่างไร แล้วจะเอานโยบายอะไรไปนำเสนอ ถึงจะตอบโจทย์ แต่หากมีการสื่อสารที่ไม่ดี ก็ไม่เป็นผล และมองว่าหากต้องการให้พรรคการเมืองเป็นที่ต้องการและเป็นที่นิยมจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งเป็นสมาชิก ร่วมกิจกรรมพรรค และหากสื่อสารการเมืองที่ดีก็จะดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งเดิมเป็นเรื่องยากเพราะติดข้อกฎหมาย
พร้อมมั่นใจรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยอยู่ครบ 4 ปี อาจจะมีการปรับเปลี่ยนมีพรรคอื่นๆเข้าร่วมรัฐบาลเป็นธรรมดา ตนมั่นใจไม่มีการยุบสภาก่อน 4 ปีแน่นอน ส่วนเงื่อนไขอื่นที่เป็นเหตุผลเหมาะสม ไม่ใช่การยึดอำนาจ หรือยุบสภาด้วยเหตุการณ์ไม่ปกติ โดยไม่เคยมีการพูดว่าแก้รัฐธรรมนูญเสร็จจะยุบสภา แต่โอกาสความเป็นไปได้หากร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นที่ต้องการของประชาชนเกิดกระแสเรียกร้องบริบทการเมืองที่เหมาะสม ก็มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลมอบอำนาจไปให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ และหากทำงานเข้าตาแล้วเหตุใดประชาชนเรียกร้องต้องยุบสภา ดังนั้น ด้วยเงื่อนไขครบ จึงมั่นใจอยู่ครบ 4 ปี เดิมการเมืองมีความขัดแย้งรุนแรงแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจนเหลืองแดง แต่ถูกย่อยสลายแล้วเหลืองแดงไม่สู้ และหันหน้าเข้ามากัน ทำให้บรรยากาศการเมืองดีขึ้น
- 006