สภาฯจัดประชาพิจารณ์เล็งปลดล็อก‘นกกรงหัวจุก’ออกจากสัตว์ป่าคุ้มครอง อ้างเปิดทางช่วยชาวบ้านสร้างรายได้ พ้นกฎหมายล้าหลัง ด้าน‘มูลนิธิสืบฯ’รอค้านสุดลิ่ม
เมื่อเวลา 09.40 น.วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ประธานที่ประชุม โดยในช่วงของการหารือเกี่ยวกับความเดือดร้อนขอประชาชน นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา จ.สงขลาได้มีการทำประชาพิจารณ์ เรื่อง ปลดล็อกนกกรงหัวจุกออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง นำโดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ร่วมกับ สส.จากหลายพรรคการเมือง เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกเองได้ ต้องจับมาจากในป่า แต่ทุกวันนี้คนไทยสามารถเพาะพันธุ์นกเองได้ มีเลี้ยงทั่ว และมีเป็นสินค้าส่งออกทำรายได้ให้ประเทศหลักพันล้านบาทต่อปี
นายศาสตรา กล่าวต่อว่า วันนี้ผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกมารวมตัวกันที่รัฐสภา เนื่องจากถูกกดขี่โดยกฎหมายล้าหลัง จะจดทะเบียนนกต้องมีที่ดิน ซึ่งทำให้ตัดกลุ่มผู้เลี้ยงไปได้มากแล้ว และยังมีการกำหนดให้พิมพ์ลายนิ้วมือ เป็นช่องโหว่ของกฎหมายให้เจ้าหน้าที่รัฐหาผลประโยชน์ โดยในวันนี้จะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นการปลดล็อกนกกรงหัวจุก ที่อาคารรัฐสภา ชั้น B1 เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี เพื่อช่วยชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ที่รัฐสภา มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการครอบครองและสถานภาพทางกฎหมายของนกปรอดหัวโขน ตามดำริของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างรอบด้าน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 500 คน โดยมีทั้งนักวิชาการ คณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และประชาชนผู้เลี้ยงนก
ในวันเดียวกัน ตัวแทนจากมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร จะเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการปลดนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครองให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ประธานกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า) รวมถึงยื่นต่อรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ด้วย
ก่อนหน้านี้ นายภาณุเดช เกิดมะลิ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ให้ความเห็นว่า มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มีข้อกังวลเกี่ยวกับการดำเนินการปลดนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ที่กำหนดความหมายของสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ว่า “สัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ หรือจำนวนประชากรของสัตว์ป่าชนิดนั้นมีแนวโน้มลดลงอันอาจส่งผลต่อระบบนิเวศ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้”
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี