เดือดแต่เช้า! "พิเชษฐ์-ไอติม"ฟาดปากปมงบฯรีโนเวทสภาฯ "พริษฐ์"เปิดฉากยันไม่ได้รื้อรั้วบ้าน ซัดตั้งโครงการไม่จำเป็น ก็เป็นความเลวร้ายอีกรูปแบบ เลือดขึ้นหน้า เตรียมยื่นใบสมัครเข้า"กมธ.งบฯปี 69" ด้าน"รองประธานสภาฯ"ชี้นิ้วให้ดูฉากหลังบัลลังก์ ถามถ้าไม่ทำรุ่นนี้ อีก 100 ปีค่อยทำหรือ จวกยับสบช่องเรียก"ขรก.ตัวเล็กๆ"ไปแจงใน"กมธ.พัฒนาการเมืองฯ" พอเขาตอบไม่ได้ ก็เอาไปลงในโซเชียล ปั้นตัวเองเป็นวีรบุรุษ แต่ทำคนอื่นเสียหาย จะรับผิดชอบหรือไม่ เตรียมจูงมือ"2 ผู้แทนฯตัวตึง"พร้อมสื่อทุกสำนัก สำรวจสภาฯหมื่นล้านเอง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ขอใช้สิทธิ์พาดพิง จากกรณีที่นายพิเชษฐ์พูดถึงตนเมื่อคืนที่ผ่านมาในการอภิปรายฯ ว่า ตนมี 4 ประการ คือ 1.นายพิเชฐ์พยายามจะสื่อว่าตนมีเจตนาในการไปจุดกระแสหรือว่ารื้อรั้วบ้าน จากการตรวจสอบคำของบประมาณของสภาฯ ขอยืนยันว่า เจตนาไม่ใช่เป็นการรื้อรั้วบ้าน ตนทำหน้าที่ในฐานะคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง ซึ่งเรามีวาระในการตรวจสอบคำของบประมาณของทุกหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับประชาธิปไตย ตำหนิการตรวจสอบคำขอของทั้งสภาฯ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแหงชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ได้เพ่งเล็งมาที่งบประมาณของสภาฯ แห่งเดียว แต่ก็บ่งบอกอะไรหลายหลายอย่างที่สื่อมวลชนและสาธารณะตั้งคำถามกับการตั้งงบประมาณของสภาฯ เป็นพิเศษในปีนี้
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า 2.นายพิเชษฐ์ย้ำอยู่หลายรอบว่างบประมาณยังไม่ผ่านสภาฯ ยังไม่มีการใช้จ่าย ตนคิดว่าคำพูดนั้นเป็นการพูดความจริงพี่ยังไม่ครบถ้วน จริงอยู่ที่งบประมาณปรับปรุงศาลาแก้ว ปรับปรงห้องงบประมาณ การก่อสร้างอาคารที่จอดรถ อาจจะยังไม่ได้มีการใช้จ่ายจริง แต่มีงบส่วนหนึ่งที่ทางสภาฯ ได้เตรียมใช้จ่ายไว้แล้ว มีการโอนงบประมาณบางส่วนจากงบฯ 67 จากโครงการอื่นเตรียมไว้แล้ว คือ งบประมาณในการออกแบบอาคารที่จอดรถมูลค่า 105 ล้านบาท มีการดำเนินการคัดเลือกบริษัทที่จะมาทำ ถึงขั้นประกาศผู้ชนะการคัดเลือกไปเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา เพราะมีบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องเข้ามาทักทวง เนื่องจากมีการเปิดเวลาในการรับข้อเสนอสั้นเพียงแค่ 10 วัน เพราะฉะนั้นจะบอกว่า
แต่นายพิเชษฐ์ ขัดจังหวะ ว่านายพริษฐ์จะอภิปรายเลยหรือไม่ จะได้ใช้เวลาของฝ่ายค้าน แต่นายพริษฐ์ ชี้แจงว่าไม่ได้อภิปราย เป็นการใช้สิทธิ์พาดพิง ไม่เกิน 7.36 นาที เท่าที่ท่านใช้เมื่อคืน ถ้าจะหักเวลาก็ไม่มีปัญหา
จากนั้น นายพริษฐ์ อภิปรายต่อว่า 3.นายพิเชษฐ์พูดประมาณว่างบประมาณยังไม่ผ่านสภาฯ จะทุจริตได้อย่างไร ขอชี้แจงว่าการทุจริต การเอื้อพวกพ้อง ไม่ใช่ความเร็วร้ายอย่างเดียวที่เกี่ยวข้องกับการจะทำงบประมาณ แต่การตั้งโครงการที่ไม่จำเป็นตนคิดว่าก็เป็นความเร็วร้ายอีกรูปแบบหนึ่งของการจัดทำงบประมาณ เพราะเป็นการนำเอาภาษีของพี่น้องประชาชนมาใช้กับเรื่องไม่ได้เร่งด่วน และไม่ได้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นการตกแต่งฉากหลังบัลลังก์ มูลค่า 133 ล้านบาท มีการทำคำขอเข้ามาในงบปี 69 จากทางสภาฯ ถึงแม้จะมีการคัดเลือกที่โปร่งใสอย่างไร ได้ผู้รับเหมาที่ราคาดีอย่างไร แต่ในมุมมองของตนไม่ควรจะใช้เงินสักบาทจากภาษีพี่น้องประชาชนในการตกแต่งฉากหลังมูลค่า 133 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้ทำให้การประชุมสภาของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า และ 4.นายพิเชษฐ์ได้กล่าวทิ้งท้ายเมื่อคืน มีสื่อหลายสำนักไปเขียนคำพูดว่าท่านพริษฐ์เก่งจริงให้ไปตรวจสอบงบประมาณกระทรวงอื่น ก็ต้องบอกว่าตนทำหน้าที่ตรงนั้นอยู่แล้ว ตรวจสอบงบประมาณของพี่น้องประชาชนทุกบาททุกสตางค์หรือมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยรับงบประมาณไหน หัวหน้าส่วนราชการจะเป็นใคร แต่ตนต้องย้ำว่าในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตนจะมีความชอบทำอะไร ในการไปตรวจสอบงบประมาณของกระทรวงอื่น ของหน่วยงานอื่น ถ้าหน่วยงานต้นสังกัดของตน ยังถูกบอกว่าตั้งงบประมาณที่ไม่สมเหตุสมผล จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตนถึงให้ความสำคัญกับการตรวจสอบงบประมาณของสภาฯ แต่ไม่ได้ละเลยตรวจสอบหน่วยงานอื่นด้วยมาตรฐานเดียวกัน
"เมื่อวานท่านบอกว่า สิ่งที่ผมทำหน้าที่ไปอาจจะทำให้สภาฯ เสียหาย ผมยืนยันว่าการตั้งคำถามของผมในฐานะตัวแทนประชาชน ไม่ทำให้สภาฯ เสียหาย แต่ถ้าผู้บริหารสภาฯ ไม่สามารถตอบคำถามที่ประชาชนสงสัยได้อย่างดีเพียงพอ จนทำให้ประชาชนหมกข้อสงสัยว่าการพิจารณางบของสภาฯ นั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ อันนั้นต่างหากที่จะทำให้สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้เสียหาย" นายพริษฐ์ กล่าว
ทำให้นายพิเชษฐ์ ตอบโต้ทันทีว่า ตนต้องขอบคุณ นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ที่ได้กล้าหาญตั้งงบประมาณสร้างรัฐสภาใหม่ จนมีที่อยู่อาศัยในวันนี้ ถ้าไม่มีนายชัยก็จะไม่มีสถานที่แห่งนี้ และตนต้องขอบคุณ นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา ที่ท่านกล้าหาญเข้ามาใช้สถานที่แห่งนี้ โดยที่ยังไม่ได้รับมอบ ใช้มาจน 5 ปี รวมถึงขอบคุณ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่ท่านกล้าหาญปรับปรุง ซ่อมแซม ต่อเติมสิ่งที่มันขาดไป
นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า งบประมาณสร้างรัฐสภาแห่งนี้ ที่จริงแล้ว 2 หมื่นกว่าล้านบาท แต่ถูกตัดงบประมาณ ซึ่งงบประมาณแต่ละกระทรวง ทบวง กรม หรือของรัฐสภาก็เหมือนกัน กว่าจะถูกบรรจุในเล่มงบประมาณ 20,000 กว่าหน้านี้ยากลำบากที่สุด ของรัฐสภาขอไป 10,000 กว่าล้านบาท อนุมัติมา 8,000 ล้านบาท แต่ก็ถูกตัด บางโครงการมีโครงการที่จะพัฒนาก็ไม่ได้เลยสักปี เพราะฉะนั้น ความยากลำบากที่เราได้มาในฐานะที่เป็นผู้บริหารของรัฐสภา ตนยืนยันปกป้องงบประมาณของสภาเต็มที่
"ท่านพริษฐ์ ท่านเป็นประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ เรามีกรรมาธิการติดตามงบประมาณฯ เรามีกรรมาธิการการตำรวจ มีกรรมาธิการ ป.ป.ช. ไม่มีปัญหา ถ้าจะตรวจสอบงบประมาณ ก็ไม่เป็นไร แต่ท่านได้เชิญเจ้าหน้าที่ของสภาไปชี้แจงงบประมาณของรัฐสภา ท่านเชิญเขาไป เขาเป็นข้าราชการตัวเล็กๆ ที่เลวร้ายที่สุด ท่านไลฟ์สดและตอนเจ้าหน้าที่ตอบไม่ได้ แล้วท่านก็เป็นพระเอก เป็นวีรบุรุษในโซเชียล แล้วท่านก็ตัดต่อ ตัดตอน เอาไปลงใน Tiktok YouTube เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ เสียหายขนาดไหน กรรมาธิการ 35 คณะ ไม่มีคณะไหนที่ไลฟ์สดทุกนัด ก่อนจะไลฟ์สดประชุมกรรมาธิการต้องขออนุญาตที่ประชุม แล้วต้องไปเสียงส่วนใหญ่ด้วย ปกติกรรมาธิการถ้าจะเผยแพร่ข้อมูลได้ ต้องมีรับรองบันทึกการประชุมก่อน ถึงจะเผยแพร่ได้ ท่านรับผิดชอบได้หรือไม่ ความเสียหายที่เกิดขึ้น ทัวร์ลงเจ้าหน้าที่สภาฯ เขาแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ถ้าเอาไปถ่ายทอดเอาไปตัดคลิปก็ว่าไป อันนี้คือตัวอย่าง ผมไม่อยากจะตำหนิท่าน" นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ์ ย้ำว่า ขอให้บริสุทธิ์ในการทำงานเพื่อประชาชน พร้อมแนะนำว่า ท่านก็ไปเป็นกรรมาธิการวิสามัญสิ ไปพิจารณาในห้องงบประมาณของสภาฯ
นายพิเชษฐ์ ยังชี้นิ้วไปที่ฉากหลังบัลลก์ แล้วกล่าวว่า "แล้วฉากหลังบัลลังก์นี้ ท่านดูสิครับ ปกติมีงบประมาณอยู่แล้วแต่ถูกตัดไป ท่านดูสิครับ ปูนเปลือยอยู่อย่างนี้นะครับ แล้วมีเส้นขีดอยู่เต็มไปหมด ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน ไปทำรุ่นลูกรุ่นหลาน อีก 100 ปีหรือ ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรนะครับถ้าไม่ทำ แต่มันเป็นศักดิ์ศรีของรัฐสภา ศักดิ์ศรีของสภาผู้แทนราษฎร ถ้ามันสวยมันดี เป็นหน้าเป็นตา เป็นเกียรติ วันนี้สภาผู้แทนราษฎรเป็นสภาฯ ที่เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีของประเทศ เป็นอันดับสองของโลก ถ้าทำที่จอดรถครบแล้วจะเป็นอันดับหนึ่งของโลก ใหญ่ที่สุด วันนี้ท่านไปเดินดูสิครับ ท่านพริษฐ์เดินดูรอบสภาฯ เลยครับ เดินดูวัดแก้วฟ้า ไปดูห้างสุพรีมสิครับ เต็มไปหมดครับ ไม่มีที่จอดรถครับ" นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ์ ระบุว่า "ตอนหมูกระทะ สตง. ป.ป.ช. มาตั้งกรรมการตรวจสอบที่สภาฯ เลย เพราะฉะนั้น ท่านตรวจสอบได้ตลอดเวลา แต่เราจะต้องพัฒนาสมัย ที่สภาฯ เก่าอู่ทองใน มีโรงถ่ายภาพยนตร์บรรจุได้ 100 - 200 คน เด็กนักเรียน ชาวบ้านเขามาเยี่ยมชมสภาฯ ก็ฉายหนังให้ดู หนังประชาธิปไตย ประวัติความเป็นมาของรัฐสภา วันนี้จะทำเป็น 4D ที่ทันสมัย เพื่อรองรับคนที่มาเยี่ยมชม แขกบ้านแขกเมือง งบแค่ 8,000 ล้านบาท ฝ่ายนิติบัญญัติได้แค่เท่านี้ กว่าเราจะต่อสู้ ถ้าท่านจะพูดต่อก็ได้ แต่ผมอยากจะให้เข้าใจว่าเราตั้งใจ อันไหนที่ชำรุดทรุดโทรม ไปดูเสาไม้สัก 4 - 5 ปีมานี้ เริ่มผุกร่อนแล้ว ถ้าไม่ตั้งงบประมาณบำรุงรักษาก็ใช้การไม่ได้"
จากนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ล่วงเกินทำหน้าที่ตรวจสอบงบประมาณของกระทรวงอื่น เพราะพันธกิจของเราคือการพัฒนาการเมือง เรื่องการถ่ายทอดสดกรรมาธิการทุกครั้ง เราดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่ได้มีการแจ้งมาจากทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นนโยบายของผู้บริหารสภามาอีกทีหนึ่ง ทุกครั้งมีการขอมติรับรองเป็นหลักฐานไว้แล้ว ส่วนที่บอกว่าตัดต่อคลิปลงโซเชียล ตนก็รีบเปิดดูของตน ไม่มีการตัดต่อคลิปสั้นไปลงในโซเชียลมีเดียเลย และตนยืนยันมาตลอด ว่าข้อดีอย่างหนึ่งของการถ่ายทอดสด คือการดูคลิปเต็มได้ ไม่ใช่มีการถ่ายแค่บางส่วนของที่ประชุม แล้วเอามาลง
ส่วนที่บอกว่าเชิญตนเจ้าหน้าที่ตัวเล็กตัวน้อย ตนเชิญเลขาธิการสภาฯ มา และครั้งแรกมีการมอบหมายหัวหน้าส่วนของสำนักแผนนโยบายมา แต่เขาตอบไม่ได้ว่ารายละเอียดของโครงการเป็นอย่างไร รอบที่สองถึงมีการเชิญเลขาธิการสภาฯ และมีการมอบให้หัวหน้าส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องมา
"ความจริงวันนั้นผมก็เอะใจแล้ว ผมเห็นว่าเรื่องมันใหญ่ตั้งแต่ต้น ผมก็เลยมีการถามไปว่าเชิญท่านประธานกับท่านรองที่เกี่ยวข้องมาด้วยเลยดีหรือไม่ แต่ได้รับแจ้งว่าท่านรองที่รับผิดชอบในส่วนนี้ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ไม่เช่นนั้น ผมก็จะเชิญทางผู้บริหารมาแล้ว ซึ่งน่าจะตอบข้อสงสัยของผมให้ดีที่สุด และถ้าไปย้อนฟังวันนั้น ผมก็พูดชัด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชี้แจง เพียงแต่ผมก็รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เชื่อตามที่ชี้แจงหรอก เพราะเขาไม่ได้เป็นต้นคิดของโครงการ เขาแค่มาชี้แจงและปกป้องตามหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายมา" นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ท่านอาจจะภูมิใจว่าสภาของเราใหญ่ที่สุดของ โลก แต่ตนอยากจะบอกว่ามีงานวิจัยหนึ่งที่เขาเขียนมาว่ายิ่งห้องประชุมสภาในประเทศไหนมีขนาดใหญ่ มักจะเป็นประเทศที่คะแนนประชาธิปไตยไม่ค่อยสูงมากนักขนาดของห้องประชุมจึงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ส่วนเรื่องที่จอดรถ ตนก็ย้ำตลอดไม่ได้บอกว่าที่จอดรถมันเพียงพอแล้ว แต่แค่ผิดระเบียบตามที่กฎหมายกำหนด
"ท่านมาพาดพิงผม ผมเลยต้องพูดในสภาฯ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะยื่นใบสมัครเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณปีนี้ และจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ จะทำให้ทุกคนเห็นว่าห้องประชุมที่เราใช้กันอยู่ 2 - 3 เดือน ไม่ได้มีอะไรที่เป็นปัญหาที่ต้องปรับปรุงถึง 120 ล้านบาท" นายพริษฐ์ กล่าว
ทำให้ นายพิเชษฐ์ ชี้แจงอีกครั้งว่า "ผมอยู่ต่างประเทศ ตั้งใจไว้ว่าเดี๋ยวจะหาเบอร์โทรท่าน แล้วจะเชิญท่านพริษฐ์ และ นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน เดินไปกับตน และนักข่าวทุกช่อง งบฯ ปี 69 ตนจะอธิบายให้หมด และข้อผิดพลาดเรื่องที่จอดรถ ไม่ใช่ข้อผิดพลาด เป็นการตัดลดงบประมาณลงมา ดังนั้น เพื่อให้ก่อสร้างได้ เขาก็ตัดงบในส่วนที่ยังมีอนาคตที่จะทำได้ออกไป เพราะฉะนั้น เราตรวจสอบอดีตได้
นายพิเชษฐ์ ได้เปิดคลิปภาพศาลาแก้วที่มีปัญหา พร้อมกล่าวว่า ศาลาแก้ว วันนี้เปลือยอยู่นิดหนึ่ง และไม่มีใครเดินเข้าไป ซึ่งอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 7 จะมาตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างศาลาแก้ว 2 หลัง ซึ่งวันที่เราเปิดอนุสาวรีย์ สภาพนี้อยู่ไม่ได้ ถึงต้องออกแบบให้มีน้ำพุ รั้วรอบขอบชิด ติดแอร์ให้แขกผู้มีเกียรติเข้ามาอยู่ ทุกวันนี้ไม้เปลือยๆ เริ่มพุพังลงมาแล้ว เป็นความจำเป็น เพราะฉะนั้น ต้นปีหน้าต้องเปิดแล้ว ลานสักการะทั้งหลายต้องจัดให้เรียบร้อยทั้งหมด
"เชิญท่านพริษฐ์ ไปเดินกับผม ทุกอย่างชี้แจงท่านหมดในเรื่องของสภาฯ ของเรา อย่างไรเราก็ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น" นายพิเชษฐ์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี