นบข.ตีกลับวงเงินมาตรการบริหารจัดการข้าวปี 2566/67 วงเงิน 6.9 หมื่นล้าน ให้ไปทำตัวเลขใหม่ รวมทั้งเบรกมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1 พันบาท วงเงินรวม 5.6 หมื่นล้าน โดยให้ตั้งกรรมการ 3 ฝ่าย ไปดูเรื่องการลดต้นทุนการปลูกข้าว หากยังจำเป็นค่อยเสนอ นบข.อีกครั้ง
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม นบข.ในวันนี้ยังไม่อนุมัติวงเงินมาตรการบริหารจัดการข้าวเปลือกนาปี 2566/67 วงเงิน 6.9 หมื่นล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ โดยแม้ว่าที่ประชุมจะเห็นด้วยกับแนวทางการชะลอการขายข้าวของเกษตรกร ในช่วงที่ผลผลิตข่าวนาปีออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแนวทางการทำมาตรการทั้ง 4 ข้อ ได้แก่ สินเชื่อชะลอการขายข้าว สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม การชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการเก็บสต๊อก รวมทั้งมาตรการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่ประชุมมีมติให้ไปปรับปรุงมาตรการ และนำมาเสนอให้ที่ประชุม นบข.ใหม่อีกครั้งที่จะมีการประชุมในเดือนถัดไป
โดยข้อเสนอที่ประชุมให้ความสำคัญในวันนี้ เช่น การเพิ่มบทบทาทจำนำยุ้งฉางของสหกรณ์การเกษตร ที่อยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยให้มีบทบาทเข้ามารับซื้อข้าวจากเกษตรกรมากขึ้น ซึ่งกระทรวงเกษตรฯได้รายงานว่าปัจจุบันมีสหกรณ์ที่มีศักยภาพสามารถช่วยชาวนาเก็บข้าวไว้ในช่วงต้นฤดูกาลผลิตได้ถึง 600 แห่ง
สำหรับในส่วนของมาตรการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละ 20,000 บาท วงเงิน ประมาณ 5.63 หมื่นล้านบาท นั้นที่ประชุมยังไม่ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือชาวนาในส่วนนี้ โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูเรื่องการลดต้นทุนการปลูกข้าวของชาวนา โดยมอบหมายให้ตั้งกรรมการ 3 ฝ่าย กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนจากสมาคมชาวนาไทย เพื่อดูว่าจะสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวได้เท่าไหร่ แล้วหากมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการนี้ก็ให้มีการเสนอกลับมาที่ประชุม นบข.ในครั้งถัดไป
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในการหารือในที่ประชุม นบข.ได้มีการแปรเปลี่ยนจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอมาทั้ง 4 มาตรการ ส่วนวัตถุประสงค์ไม่ได้ขัดข้องอะไร และเปลี่ยนวิธีการ เบื้องได้ให้เกษตรกรผ่านสหกรณ์การเกษตร 4,000 แห่ง จากการตรวจสอบมีสหกรณ์การเกษตร 600 ที่แอคทีฟแข็งแรง เป็นลูกค้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) สามารถติดตามได้ ดังนั้น จะใช้มาตรการที่เปลี่ยนชื่อมาเป็นมาตรการที่ใช้สหกรณ์การเกษตรที่ชาวนาเป็นเจ้าของอยู่แล้ว เข้ามาดำเนินการแทนเพื่อที่จะดำเนินการ
ทั้งนี้ การแก้ปัญหาที่ใช้มาตรการที่ได้หารือกันแล้วทั้ง 3 ส่วน โดยให้ ธ.ก.ส.กับกระทรวงการคลัง เป็นเจ้าภาพในการพูดคุย และกระทรวงเกษตร เสนอให้สถาบันการเกษตรเป็นผู้ดำเนินการหลัง ที่ประชุม นบข.ก็ได้ให้กระทรวงเกษตรไปดำเนินการ โดยให้กรมวิชาการเกษตรไปดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ ดังนั้น มาตรการขั้นแรกที่ใช้สถานบันเกษตรกร โดยสหกรณ์การเกษตรเป็นกลไลหลักในการแก้ไขและจะมอบให้ ธ.ก.ส.เข้ามาแก้ไข โดยให้ รมช.คลัง และ รมว.เกษตร เป็นผู้ประสานในกลไกนี้เพื่อให้มาตรการนี้สามารถดำเนินการได้
"สิ่งที่ห่วงไยขณะนี้คือ คาดการณ์ว่าราคาข้าวจะสูงและเราคิดว่าจะสามารถดำเนินการได้ถ้าเก็บสต็อกเป็นอย่างดี ดังนั้นในช่วงสถานการณ์ที่ผลิกผันโลกนั้น จึงเสนอให้มีการประชุมบอร์ดทุกเดือนในช่วงนี้เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันเวลา ขณะเดียวกันหน่วยงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการเกษตรและกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เราก็จะเฝ้าติดตามกันต่อไป ทั้งหมดนี้หากสามารถดำเนินการได้ ธ.ก.ส.จะเป็นผู้พิจารณาและเพื่อดำเนินการก็จะสามารถรับรองทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ หรือสหกรณ์การเกษตรเป็นผู้รองรับกลไกนี้ จะเป็นกลไกหลักที่จะสามารถตอบสนองในช่วงนี้ได้"
ส่วนโรงสีที่มีการดำเนินการเขาก็มีวงเงินที่ธนาคารกรุงไทย แต่ถูกตัดกรอบวงเงินไปมากพอสมควร เฉพาะนั้นจำนวนเงินหมุนเวียนที่จะนำมาส่งเสริมโครงการก็จะมีปัญหาไม่สามารถผลักดันให้สมบูรณ์ นบข.จึงได้ให้กระทรวงการคลังไปเจรจากับธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ธนาคารกรุงไทยพิจารณาแก้ปัญหาของโรงสี ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าอยู่แล้วสามารถที่จะขยายสินเชื่อเพื่อรองรับที่จะแก้ปัญหาต่างๆ รายละเอียดกระทรวงการคลังและโรงสีจะเป็นผู้ดำเนินการแก้ปัญหาโดยหารือกับธนาคารกรุงไทย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี