วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
นายกฯ ตรวจเยี่ยมรง.ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เผยไทยสามารถผลิตได้อย่างครบวงจรแล้ว

นายกฯ ตรวจเยี่ยมรง.ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เผยไทยสามารถผลิตได้อย่างครบวงจรแล้ว

วันเสาร์ ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 21.39 น.
Tag : เศรษฐา1 รมว.คลัง อนุทิน เพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล ภูมิธรรม รถยนต์ไฟฟ้า
  •  

นายกฯ ตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ชมรถยนต์ต้นแบบ EV ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 จ.ชลบุรี ย้ำอีก 2 เดือนจะมาติดตามความก้าวหน้า EEC อีกครั้ง ล่าสุดโพสต์บอกไทยสามารถผลิตรถ EV ได้อย่างครบวงจรแล้ว

วันนี้ (4 พ.ย. 66) เวลา 15.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE2) อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจเยี่ยมด้วย โดยคณะผู้บริหารบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำเยี่ยมชมและบรรยายสรุปเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้


นายกรัฐมนตรีและคณะรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับนิคมอุตสาหกรรม WHA ESIES2 ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรม มีที่ตั้งห่างจากท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังและศรีราชา 25 กิโลเมตร อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในพื้นที่เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มยานยนต์ โลหะภัณฑ์ พลาสติกและโพลิเมอร์ เป็นต้น และมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า รวมทั้งบริการออกแบบและพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า นับได้ว่าปัจจุบันมียอดจำหน่ายอย่างก้าวกระโดด โดยมีปัจจัยสำคัญจากรถยนต์มีคุณสมบัติที่สูงขึ้น วิ่งได้ระยะทางไกลมากขึ้น และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นับเป็นพื้นที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีความพร้อมที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันในอาเซียน ทั้งในด้านคมนาคม แรงงาน และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของนักลงทุน

รวมทั้งนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2557 และมีการขยายการลงทุนมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทั้งการผลิตรถยนต์สันดาปภายในและเครื่องยนต์ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบ Hybrid EV, Plug-in Hybrid EV และ Battery EV และแบตเตอรี่ และการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า โดยการลงทุนทั้งในส่วนการผลิตรถยนต์และแบตเตอรี่และการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI รวมทั้งสิ้น 6 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 14,760 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโรงงานแบตเตอรี่แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ HASCO-CP BATTERY SHOP

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟัง 6 ข้อเสนอ เพื่อพิจารณาเพื่อช่วยสนับสนุน การประกอบธุรกิจ และพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใน EEC จาก WHA ได้แก่ 1) การกำหนดสัดส่วนการใช้ประโยชน์ ที่ดินสำหรับพื้นที่สีเขียว ร้อยละ 10 ถึง 15 ในผังเมืองรวมชุมชน ใน EEC ให้สามารถจัดสรรที่ดิน เพื่ออุตสาหกรรม ภายใต้ พรบ.กนอ. ได้ 2) ปรับปรุงขั้นตอนและลดระยะเวลาในการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) บนมาตรฐานการพิจารณาที่รัดกุมเช่นเดิม 3) การปรับระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงสภาพทางสาธารณะประโยชน์ ตาม พรบ.กนอ. ให้มีความกระชับมากขึ้น 4) การจัดสรรน้ำดิบให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงในอนาคต 5) การเพิ่มแนวทางให้ผู้พัฒนานิคมสามารถจัดหาพลังงานหมุนเวียน 100% ให้แก่ผู้ประกอบการในนิคมฯ ได้มากขึ้น 6) ขอให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วย เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขา EEC ผู้ว่า กนอ. สมาคมนิคมอุตสาหกรรม และผู้พัฒนานิคม เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนในพื้นที่ EEC โดยกำหนดแนวทางและมาตรการต่าง ๆ ในการส่งเสริม สนับสนุนเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้พัฒนานิคมและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมใน EEC ในการแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ อาทิ ดูแลเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำนิคมอุตสาหกรรม การจัดการระบบน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม และ Renewable Energy

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าข้อเสนอทั้ง 6 ข้อที่ WHA เสนอมานั้นสอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลที่ดำเนินการอยู่ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสนับสนุนรถยนต์ EV เพราะสอดคล้องกับทิศทางโลกที่มุ่งให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว การใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน พร้อมทั้งเป็นการสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ โดยเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566 ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 (EV3.5) โดยจะให้เงินอุดหนุนแก่รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นที่น่าพอใจของนักลงทุนต่างประเทศทุกคน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีข้อเสนอดังนี้ 1) ขอให้เร่งการผลิตรถไฟฟ้าโดยเร็วเพื่อให้ไทยไปสู่ Carbon Neutrality ให้ได้ 2) พัฒนาห่วงโซ่ของการผลิต supply chain ทั้งหมด 3) เรื่องแบตเตอรี่ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเรื่องการ reuse และรีไซเคิลแบตเตอรี่ และการทำลาย ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้ต่อยอดรัฐบาลที่แล้ว ในเรื่องของการที่ผลักดันให้รถ EV เข้ามาเปิดในประเทศไทย โดยรัฐบาลนี้ก็จะทำต่อและขยายผลต่อไป และจากการที่ได้เดินทางไปต่างประเทศก็ได้มีการพูดคุยกับทางภาคเอกชนและรัฐบาล เพื่อให้ต่างประเทศมีความเข้าใจว่าประเทศไทยเปิดแล้ว ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักลงทุนจากต่างประเทศ ไม่มีเวลาไหนที่ดีเท่าเวลานี้อีกแล้ว ที่จะให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในที่นี่

สำหรับข้อเสนอในข้อที่ 6 เรื่องการตั้งคณะอนุกรรมการนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่เดินทางโดยรถไฟมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับฟังปัญหาต่าง ๆ ทำให้พบค้นพบปัญหาที่เกิดขึ้นหลายประเด็น แต่ปัญหาก็แฝงด้วยศักยภาพหากสามารถแก้ไขปัญหาได้ จะเป็นการ Unlock ทรัพย์สินของประเทศชาติ ให้เพิ่มมูลค่าสูงขึ้นอย่างมโหฬาร ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า EEC เป็น Concept และเศรษฐกิจที่ดี และมีองค์กรที่แข็งแกร่ง ทั้งบีโอไอ  และ EEC โดยเลขาบีโอไอและเลขา EEC ก็เป็นคนที่มีความสามารถ และตั้งใจจริงในการที่จะพัฒนาประเทศให้สูงไปสู่อีกระดับหนึ่งได้ อย่างไรก็ตาม การตั้งคณะกรรมการดังกล่าวตามที่ WHA เสนอนั้น เราไม่ต้องการให้เป็นคณะกรรมการคณะใหญ่ เพราะเวลาเชิญประชุมก็จะเสียเวลาเป็นเดือน วันนี้นายกรัฐมนตรีจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้น คือ East look of doing Business in EEC ซึ่งฝ่ายสื่อสารจะไปพิจารณาชื่อที่เหมาะสมอีกครั้ง โดยคณะกรรมการดังกล่าวประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน รวมทั้งมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม  มี 2 เลขา และอธิบดีกรมการขนส่งทางราง 

ส่วนข้อเสนอในข้ออื่น ๆ ของ WHA ทั้งปัญหาเรื่อง EIA  ผังเมือง ตลอดจนเรื่องของรางน้ำและท่อน้ำต่าง ๆ นั้น รัฐบาลตระหนักดีและจะพยายามช่วยเหลือให้เร็วกว่า 5 ปี รวมไปถึงเรื่องของน้ำ รัฐบาลนี้ก็ให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งภาคเกษตรกรรมถือเป็นภาคใหญ่ของประเทศไทย จึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งในเรื่องน้ำระหว่างภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การบริหารจัดการน้ำและการเตรียมแหล่งน้ำนั้นยืนยันว่ามีน้ำเพียงพอในการพัฒนาแหล่งอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่าอีก 2 เดือนจะมาติดตามความก้าวหน้าของ EEC อีกครั้ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชมรถยนต์ต้นแบบไฟฟ้าพร้อมเซ็นชื่อบนรถยนต์ต้นแบบดังกล่าวและ แบตเตอรี่ ด้วย

นอกจากนี้นายเศรษฐา ยังโพสต์ข้อความผ่าน X โดยระบุว่า ก่อนกลับกรุงเทพฯ แวะเยี่ยมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทริ์นซีบอร์ด 2 อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โรงงาน MG ที่นี่ทำให้เห็นว่าประเทศไทยเราก็สามารถผลิตรถ EV ได้อย่างครบวงจรนะครับ ผมขอย้ำอีกครั้งว่า คณะกรรมการ Ease of Doing Business ใน EEC จะทำให้ข้อจำกัดที่เรามีถูกปลดล็อคเพื่อรองรับการลงทุน ซึ่งผมจะกลับมาติดตามผลในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้ด้วยครับ

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'จุลพันธ์\'พร้อมคุย\'อนุทิน\'ทำประชามติ กม.คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เป็นการเสนอขึ้นมาลอยๆ 'จุลพันธ์'พร้อมคุย'อนุทิน'ทำประชามติ กม.คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เป็นการเสนอขึ้นมาลอยๆ
  • ด่วน! เปิดรายชื่อ 6 สว.คนดัง หลังโดนหมายเรียกแจง \'คดีฮั้วสว.\'ลอตแรก ด่วน! เปิดรายชื่อ 6 สว.คนดัง หลังโดนหมายเรียกแจง 'คดีฮั้วสว.'ลอตแรก
  • ‘อ้วน’ซัดคนทำผิดก.ม.  คดีฮั้วสว.ไม่ใช่สงครามตัวแทน  อย่าขัดขวางDSIทำงาน ‘อ้วน’ซัดคนทำผิดก.ม. คดีฮั้วสว.ไม่ใช่สงครามตัวแทน อย่าขัดขวางDSIทำงาน
  • ‘มท.1’ สั่ง ‘ผู้ว่าฯ จังหวัดชายแดนใต้’ เข้ม 4 แนวทางปฏิบัติภารกิจ อส. ในพื้นที่ ‘มท.1’ สั่ง ‘ผู้ว่าฯ จังหวัดชายแดนใต้’ เข้ม 4 แนวทางปฏิบัติภารกิจ อส. ในพื้นที่
  • เกาะติดชายแดนใต้! นายกฯถก‘ภูมิธรรม-ผบ.ทบ.-รมว.กต.’ เกาะติดชายแดนใต้! นายกฯถก‘ภูมิธรรม-ผบ.ทบ.-รมว.กต.’
  • \'สรวงศ์\'ขออย่าโยงการเมือง หลัง\'แพทยสภา\'ลงดาบปมชั้น 14 'สรวงศ์'ขออย่าโยงการเมือง หลัง'แพทยสภา'ลงดาบปมชั้น 14
  •  

Breaking News

โฆษกเพื่อไทยปัดไม่เคยพูดป่วยวิกฤต แค่บอกว่าป่วยได้รับการผ่าตัด

(คลิป) 'ป๋าเสรี' ฟันธง 'ทักษิณ' ติดคุก!! เตือนลิ่วล้อรับสารภาพ ไม่มีคนคุ้มกะลาหัวแล้ว

'สมศักดิ์' ลั่นมีเวลา 15 วันพิจารณา มติแพทยสภาฟันแพทย์ 3 ราย ขออย่าชี้นำสังคมว่าจะยับยั้ง

'JIGSAW PLAY GROUND VOL.1'เปิดตัวเวที Start up สำเร็จดันศิลปินรุ่นใหม่สู่เวทีระดับประเทศ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved