รอ100วันเห็นผลงานชัดเจน
พท.ท้าฝ่ายค้าน
ถ้าอยู่ครบ4ปี‘บ่มิไก๊’
เลือกตั้งให้ปชช.ตัดสิน
ปานปรีย์แย้มทิศทางดี
ปรับขึ้นเงินเดือนขรก.
“อุ๊งอิ๊ง” โว 2 เดือนผลงานเพียบ ปัดดินเนอร์ “เศรษฐา-หัวหน้าพรรคร่วม” ปูทางนั่งนายกฯ “ภูมิธรรม” เบรกเสียงวิจารณ์ผลงานรัฐบาล 60 วันไม่คืบ ชี้รอฟัง 100 วันจะชัดเจนแจงนายกฯไม่ได้ทำงานคนเดียว แจกงาน รมต.ทั่วถึง ลั่นไม่หวั่นไหวพร้อมสู้ เมินฝ่ายค้านจ้องโจมตีมองเป็นกระจก
สะท้อน บอกมีโอกาส 4 ปี ถ้าคิดว่าเข้ามาเสวยอำนาจอย่างเดียวเลือกตั้งงวดหน้าให้ตัดสิน
‘ปานปรีย์’แย้มมีทิศทางที่ดี หลังประชุมรับฟังข้อมูลการขึ้นเงินเดือนหน่วยงานเกี่ยวข้อง เผย วันนี้เน้นดูข้าราชการแรกเข้า ห่วงสมองไหลไปเอกชน
เมื่อวันที่ 11พฤศจิกายน2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ตอบคำภามผู้สื่อข่าวถามถึงการแถลงข่าวเมื่อค่ำวันที่ 9 พ.ย.2566ถึงผลงาน 60 วันว่าพอใจแค่ไหน โดยนายเศรษฐากล่าวว่า “อันนี้ผมแถลงไปแล้ว ต้องถามคนฟังว่า โอเคหรือไม่”
‘อุ๊งอิ๊ง’ปัดดินเนอร์เตรียมนั่งนายกฯ
เวลา 11.00น.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารค่ำกับนายกฯและหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เป็นการปูทางเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นนายกฯในอนาคตหรือไม่ว่า ทำไมสื่อมองอย่างนั้น ไม่ใช่ๆ ตนไปทานข้าวในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่มีเรื่องปูทางเป็นนายกฯอะไรทั้งนั้น การร่วมทานข้าวไม่มีประเด็นอะไร แต่เพื่อให้รู้จักกันมากขึ้น นอกเหนือจากการทำงาน และตนเป็นหัวหน้าพรรคที่ไม่ได้เข้าสภาฯจึงเป็นโอกาสดีที่ได้เจอทุกท่านและได้ฟังประสบการที่ทุกท่านผ่านมา เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรค พท.ได้สะท้อนอะไรให้รัฐบาลนำไปปรับปรุงการทำงานหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้แนะนำอะไร เป็นการพูดคุยสบายๆไม่มีประเด็นการเมือง หรือหัวข้ออะไรสำคัญ เหมือนนัดเจอเพื่อให้เข้าใจแนวทางการทำงานของแต่ละคน
เมื่อถามว่าประเมินการทำงาน 60วันของรัฐบาลอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร ร้องอุทานว่า“โอ้ว!” พร้อมกล่าวว่า เป็นผลงานที่เห็นได้ชัดในหลายเรื่อง เช่น นโยบายเกี่ยวกับการลดรายจ่ายของประชาชน เริ่มไปแล้วในหลายโครงการและรัฐบาลก็ทำงานเข้มข้นเต็มที่มากๆ
‘ภูมิธรรม’ชี้รอฟัง100วันผลงานชัดเจน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงวิจารณ์ผลงานรัฐบาล 60วัน ที่อาจไม่มีอะไรใหม่ ว่า ทุกอย่างเริ่มต้นหมดแล้ว แต่ที่จริงเราวางไว้ 100วัน ที่จะเห็นปรากฏการณ์ ส่วนที่นายกฯแถลง 60วัน เพราะอยากให้เห็นความคืบหน้าว่า 60วัน เรามีอะไรบ้าง ตนเชื่อว่าการแถลง 90-100วัน จะมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการหลายเรื่องก็ยังไม่ได้มีการนำมาบอก เช่น การแก้ราคาสินค้าแพง หรือการบุกตลาดต่างประเทศเชิงรุก พร้อมย้ำว่าขออย่าพึ่งวิจารณ์ให้รอ 90 วัน รอขณะนี้รัฐบาลก็ทำงานหนักมากอยู่แล้ว และนายกรัฐมนตรีก็บวกทุกด้าน อย่าง 21 พ.ย.นี้ จะประชุมร่วมระหว่างทูตพาณิชย์ทั่วโลกและBOIเพื่อรุกตลาดต่างประเทศ ดังนั้นขอให้อดทนรอการดำเนินงานครบ 100 วัน น่าจะแถลงได้อย่างเป็นรูปธรรมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้างและเรื่องไหนที่ดำเนินการแล้วจะเดินหน้าอย่างไรก็จะแถลงในวันนั้น ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่งจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น
ยันนายกฯแบ่งงานให้ทุกคนทำแล้ว
เมื่อถามว่า นายกฯเหมือนทำงานคนเดียวและละเอียดทุกเรื่องควรจะกระจายงานบ้างหรือไม่ อาทิ เรื่องกฎหมาย เศรษฐกิจ และความมั่นคง นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้แย่งงานทำคนเดียว เพราะขณะนี้นายกฯได้แบ่งงานให้รองนายกฯและรัฐมนตรีก็เต็มไปหมดทุกเรื่อง ซึ่งหลายเรื่องก็อยู่ในขั้นเตรียมการ และผู้ที่ได้ รับมอบงานก็ถือว่าหนักพอสมควร เพราะต้องยอมรับว่า เราเข้ามาท่ามกลางประเทศกำลังเผชิญวิกฤตในหลายด้าน อาทิ วิกฤตการณ์โลก วิกฤตการณ์ทางการเงิน วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศที่สั่งสมมานาน ดังนั้นต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เรามีอยู่ก็กำลังดำเนินงาน พร้อมขอให้มองว่าเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีลงรายละเอียดทั้งหมด ไม่ได้แย่งงานรัฐมนตรี ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นปัญหา พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีลงรายละเอียดทั้งหมดและสั่งรัฐมนตรีทุกเรื่อง
นายกฯลงพื้นที่บ่อยเข้าใจปัญหาดีขึ้น
“อย่างไรก็ตามเวลานี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีเพียงแค่ 36 คน แต่อยากจะมีซัก 50-100 คน ด้วยซ้ำไป เพราะงานหนักแต่ และพร้อมเราก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไรพร้อมสู้ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถือธงนำให้เราออกพื้นที่ต่างๆ การที่นายกรัฐมนตรีออกต่างจังหวัดบ่อยๆได้เรียนรู้และเข้าใจรวมถึงทราบปัญหาอย่างแท้จริง และที่ผ่านมาก็มีการกำชับว่าไม่ต้องตามคณะไปมากเอาเฉพาะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น” นายภูมิธรรม กล่าว เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านจ้องโจมตีรัฐบาลว่าทำงาน 60 วันไม่คืบนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะเป็นธรรมดา และตนพยายามบอกฝ่ายค้านว่า เราทำงานสร้างสรรค์อย่าคิดว่าเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ซึ่งอะไรที่รัฐบาลทำและจะเป็นผลดีกับอนาคตก็อย่าซีเรียส อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมืองหมด แต่สามารถออกความเห็นได้ เพราะจะได้เป็นกระจกสะท้อนรัฐบาลด้วยว่าทำอะไร และอาจมีการมองยังไม่เข้าใจฉะนั้นก็ต้องทำให้เกิดความเข้าใจ
4ปีไม่มีผลงาน-เลือกตั้งให้ปชช.ตัดสิน
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า นายกฯสั่งการเสมอว่า การดำเนินงานที่บอกว่า เป็นรูปธรรมอย่างนั้นอย่างนี้จะต้องมีการประเมิน ที่ผ่านมานายกฯได้ติดตามประเมินผลโดยตลอด ดังนั้นหลายสิ่งเกิดขึ้นแล้วหลังจากนี้รอดูแล้วมาวัดกันกันรัฐบาลมีโอกาส 4ปี ก็คอยดูไป ถ้า 4ปีคิดว่า ไม่สามารถทำอะไรได้เลย มาเสวยอำนาจเสวยสุขอย่างเดียว งวดหน้าท่านก็พิจารณา เราพร้อมให้ประชาชนพิจารณา แต่ผมเชื่อว่านับตั้งแต่ 100วันทุกอย่างจะค่อยๆปรากฏให้เห็น มันยาก สำหรับเราที่เข้ามาแก้ปัญหาฐานรากให้มันดี ฉะนั้นการจะแก้ปัญหาฐานรากสังคมไทยเรานั้น มันหลากหลายและมีอุปสรรคมากมาย หน้าที่รัฐบาลก็คือ อดทนชี้แจงทำความเข้าใจ แล้วก็ปรับปรุงให้สอดรับกับอย่างที่คิด เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
ปัดสอนมวย‘เศรษฐา’อ่อนการเมือง
นายภูมิธรรม กล่าวถึงบรรยากาศในงานเลี้ยงดินเนอร์หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุนายภูมิธรรม ได้เตือนเรื่องพูดตรงเกินไป ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามว่าการพูดตรงๆสำหรับนักการเมืองไม่ดีหรือ นายภูมิธรรม บอกว่า เป็นเรื่องที่ดี
“จริงๆ ผมชมนายกฯไม่ได้ติติงโดยบอกว่า ท่านนายกฯ พูดตรง อยากให้หัวหน้าพรรคร่วมทั้งหลายเข้าใจ ในจุดนี้ด้วย จริงๆ แล้วที่ท่านนายกฯ พูดไม่ได้มีเรื่องส่วนตัว หากมีอะไรขอให้เข้าใจและคุยกันถึงจะดี ท่านนายกฯ ก็หัวเราะและน้อมรับ ผมไม่บังอาจกล้า ไม่ตักเตือนท่านนายกฯ” แต่เป็นสิ่งที่ตนสัมผัสได้ ซึ่งท่านนายกฯ ก็บอกกับผมตลอดว่า พี่มีอะไรก็บอกกับผมตรงๆ ได้เลย ผมตรง ไม่รู้สึก เคลียร์ได้ ถ้าพูดผิดไปก็ขอโทษได้ ซึ่งผมก็เคยเห็นจากสิ่งที่ทำในพรรคมา 1-2ครั้งว่า บางทีท่านก็พูดตรงไป ผมก็กังวลใจ แต่ผู้ใหญ่ที่รับฟังไม่ได้รู้สึกอะไร เขารู้ว่าท่านนายกฯ เป็นคนจริงใจและพร้อมที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเข้าสู่ปัญหาและแก้ไข” นายภูมิธรรม กล่าว
มั่นใจผลงานรบ.สอบผ่านแน่นอน
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า นายกฯ ไม่ชอบความยืดเยื้อ อารัมภบท ส่วนใหญ่ท่านรู้ปัญหา คิดอะไรก็เสนอทางแก้ไขมา หากเข้าใจตรงนี้จะรู้ว่า ไม่ใช่จุดอ่อน แต่เป็นจุดแข็ง เหมือนผู้สื่อข่าวถามว่า นักการเมืองไม่ชอบหรือการพูดตรงๆ นักการเมืองก็ชอบ เพียงแต่หากเข้าใจว่านั่นคือการพูด เพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหา มันก็โอเค ตนก็เลยบอกท่านนายกฯ ว่าเป็นคนแบบนี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจ“ท่านบอกว่าผมตักเตือน ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย” นายภูมิธรรม กล่าว เมื่อถามว่ามั่นใจว่ารัฐบาลจะสอบผ่านหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า มั่นใจแน่นอนครับ เชื่อว่าความตั้งใจเรา100% เราเอาภูมิความรู้และประสบการณ์ที่เราทำ ซึ่งเรามีความสามารถ แต่หากจะถามว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจต้องให้ประชาชนเป็นคนตอบ
‘พริษฐ์’ชี้ผลงาน6เดือนบทพิสูจน์จริง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความถึงการแถลงผลงานในรอบ 60 วัน ของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า เป็นการสรุปสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการตั้งแต่ตั้งรัฐบาลเสร็จ แม้ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลได้ออกหลายมาตรการลักษณะ“quick wins”ที่หวังผลระยะสั้นทันที แต่ในภาพรวม ยังคงไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่าผลงานของรัฐบาลในห้วง60วันที่ผ่านมา จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบและยั่งยืนตามที่ประชาชนคาดหวังได้จริงหรือไม่ ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะทำไม่ได้หรือไม่พยายาม เพียงแต่ว่า60 น ที่ผ่านมาอาจยังพิสูจน์อะไรได้ยาก เนื่องจากบทพิสูจน์ที่แท้จริง น่าจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วง 6เดือนข้างหน้า (ธ.ค.66–พ.ค.67) ที่ตนอยากชวนประชาชนทุกคนร่วมกันจับตามอง คือมาตรการ quick wins ของรัฐบาล ที่เป็นการลดค่าครองชีพ จะถูกพิสูจน์ว่ามีความยั่งยืนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟที่ลดไปได้ด้วยการยืดหนี้ กฟผ. มีความเสี่ยงจะเด้งกลับขึ้นมา หากไม่มีปรับโครงสร้างราคา-ตลาด หรือค่าน้ำมัน ที่ลดไปได้ด้วยการลดภาษีสรรพสามิต จะเจอแรงกดดันหลายทางจากรายได้รัฐที่หายไปและราคาน้ำมันที่อยู่ในขาขึ้น หรือ ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ทำสำเร็จในสายสีม่วงกับสีแดง จะถูกพิสูจน์ว่าสามารถขยายไปสู่สายที่มีผู้โดยสารใช้เยอะที่สุด เช่น สายสีเขียว ได้หรือไม่
แย้มทิศทางดีฟังข้อมูลขึ้นเงินเดือน
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการเรื่องการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการ โดยมีตัวแทนกระทรวงการคลัง เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงบประมาณเข้าร่วมประชุม จากนั้น นายปานปรีย์ เปิดเผยหลังประชุมว่า มติ ครม.ได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ไปศึกษาและดูแนวทางที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ โดยการประชุมครั้งนี้ตนเหมือนมาสังเกตการณ์และมาในฐานะที่ตนเป็นผู้กำกับดูแล ก.พ. จึงมาฟังความคิดเห็นที่ทางหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายได้หารือกัน ซึ่งดูทิศทางแล้วออกมาดี แต่รายละเอียดต้องทำเพิ่มเติมอีกนิดนึง คาดว่าก่อนสิ้นเดือน พ.ย.เสร็จแน่นอน
หวั่นเงินเดือนน้อยไหลเข้าภาคเอกชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มีข่าวว่าจะขึ้นเงินเดือนเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อย ส่วนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะขึ้นแบบน้อยมาก มีหลักและแนวทางอย่างไร นายปานปรีย์ กล่าวว่า คงจะต้องดู เพราะมันมีในส่วนข้าราชการแรกเข้าที่เราจะต้องปรับฐานเงินเดือน เพื่อที่จะให้คนที่เข้ามาใหม่มีความสนใจที่จะเข้ามาสู่ระบบราชการมากขึ้น เพราะถ้าฐานเงินเดือนต่ำเราอาจจะได้คนที่ไม่มีคุณภาพ และในที่สุดคนที่จะเข้ามารับราชการอาจจะตัดสินใจเลี้ยวไปทางภาคเอกชน ดังนั้น การประชุมครั้งนี้จึงมาดูด้วยว่าเงินเดือนเอกชนที่จบปริญญาตรีเขาเริ่มต้นจากตรงไหน และดูความเหมาะสมในส่วนของราชการว่าควรจะเป็นเท่าไหร่
เมื่อถามว่า ควรจะต้องปรับเป็นจำนวน 25,000บาท ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่ ต้องดูรายละเอียดอีกนิดนึง อย่าเพิ่งสรุปว่า จะเป็นเท่าไหร่
รอดูรายละเอียดก่อนจะขึ้นเท่าไหร่
เมื่อถามว่าอย่างข้าราชการชั้นผู้น้อยที่บรรจุตั้งแต่ระดับ3-7ที่ไม่ใช่ระดับผู้บริหาร จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า การหารือยังไปไม่ถึงตรงนั้น ตอนนี้กำลังดูในส่วนของข้าราชการแรกเข้าก่อน เมื่อถามว่า การขึ้นจะเป็นการขึ้นทั้งระบบใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ขอให้รอฟังก่อน เมื่อถามว่า เท่าที่ได้รับฟังข้อมูลครั้งนี้ โอกาสเป็นไปได้ที่จะขึ้นมีสูงหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามนโยบาย เมื่อถามย้ำว่า ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามนโยบาย ซึ่งจะขึ้นมากหรือขึ้นน้อย ก็ค่อยว่ากัน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี