นายกฯลั่นไม่แฮปปี้
วอนเห็นใจแรงงาน
ปมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
อย่ายึดแค่กฎหมาย
นายกฯ บอกไม่มีความสุข ปมค่าแรงขั้นต่ำ วอนเห็นใจชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ไม่ยึดแค่กฎหมายอย่างเดียว ลั่นเป็นหน้าที่จะต้องทำให้ได้ เมื่อมานั่งตำแหน่งนายกฯ ก็พร้อม หวังว่าปี ’67 จะดีขึ้น
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงปัญหาการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำที่ยังไม่ตรงความต้องการ ว่าตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้แจ้งไป ก็มีการตั้งคณะอนุกรรมการและดูเป็นรายอำเภอ รายอาชีพไป
“แน่นอนผมไม่มีความสุขอย่างแน่นอน ผมเชื่อว่า รมว.แรงงาน ก็ไม่มีความสุข ท่านเองก็อึดอัด เพราะมีกลไกกำหนดค่าแรงอยู่เหมือนกัน ของพวกนี้เหมือนอย่างที่ผมบอก มันเป็นเรื่องจิตใต้สำนึก มันเป็นเรื่องของความเหมาะสม ซึ่งหลายๆ ประเทศ เมื่อคืนผมได้เจอกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็บอกว่าถ้าเราไม่สามารถยกค่าแรงขั้นต่ำขึ้นมาได้ ความเจริญเติบโตของประเทศก็จะต่ำมาก” นายกฯ กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า คืนที่ผ่านมาได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวเยอะ เรื่องเหล่านี้อย่างที่ตนบอก ค่าแรงขั้นต่ำเมื่อ 9 ปีที่แล้ว 300 บาทวันนี้ 337 บาท ขึ้นไป 12% ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา แต่ในทางกลับกันหากลูกๆ เจ้าของกิจการทั้งหลายกลับมาจากเมืองนอก เงินเดือน 30,000 บาทเมื่อ 9 ปีที่แล้ว วันนี้ 33,700 บาท ขึ้นมา 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ ท่านแฮปปี้ไหม มันเป็นเรื่องใจเขาใจเรา เรื่องของไตรภาคีเป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องของข้อบังคับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลายๆ เรื่อง คนไทยเราอยู่ด้วยกัน เราอยู่ด้วยกันด้วยอะไร ด้วยความอยากให้ทุกคนมีความสุข อยากให้ทุกคนมีกินมีใช้ตามความเหมาะสมใช่หรือไม่ อย่างกรณี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นค่าแรงแค่ 2 บาท
“คุณจะพูดอย่างไรก็ตามที ว่านายกฯ ไม่มีอำนาจ เป็นเรื่องของไตรภาคี เป็นเรื่องของอะไร ผมเข้าใจหมดทุกอย่าง และผมว่าทุกคนเข้าใจเรื่องกฎหมาย แต่เรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน บางทีไม่ต้องเอากฎหมายมาจับ แต่ต้องเอาความเข้าใจความเห็นใจซึ่งกันและกันมาพูดบ้างได้ไหม ในภาวะที่เศรษฐกิจเราเดือดร้อน ก็ฝากไว้ด้วยแล้วกัน” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเงื่อนไขที่บอกว่านายกฯ ไม่มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงไตรภาคี ตรงนี้จะหาจุดสมดุลมานั่งคุยกันแบบผู้ใหญ่คุยกันอย่างที่นายกฯ ตั้งใจ ได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องพยายามต่อไป ก็เป็นหน้าที่ เมื่อมาอยู่ตำแหน่งตรงนี้แล้วก็พยายามที่จะต้องแก้ไขปัญหาไป ปัญหามีก็ต้องแก้ ต้องพูดจาให้มันชัดเจน ขอร้อง อ้อนวอน วิงวอน เหตุผลมาพูดจากัน อย่าเอาเรื่องที่มันไม่เป็นความจริงมาพูดดีกว่า ว่าเขาย้ายฐานผลิต มันไม่ใช่หรอกครับจริงๆ แล้ว
เมื่อถามว่าแสดงว่าแต่ละปีสามารถปรับขึ้นได้ นายกฯ กล่าวว่า ปรับได้หลายๆ อย่าง หลายๆ รอบ ตามความเหมาะสม เราเคยพูดเป็นรายจังหวัด อาจจะต้องพูดเป็นรายอำเภอ เพราะบางอำเภออาจจะมีความต้องการแรงงานแตกต่างกันไป เราเองก็ต้องฟังฝ่ายนายจ้างด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่เราจะไม่ฟัง ตามอาชีพ ตามความต้องการ และตามความชำนาญงาน ซึ่งมีหลายมิติที่จะต้องพูดคุยกัน ตนไม่อยากใช้พื้นที่ของพี่น้องสื่อมวลชนมากดดันทุกๆ ฝ่าย ซึ่งคิดว่าเราควรจะพูดจากันด้วยจิตใจที่โอภาปราศรัยและเห็นใจซึ่งกันและกัน ในแง่ของเพื่อนมนุษย์มากกว่า
ต่อข้อถามว่า นายกฯ คาดหวังกับเศรษฐกิจในปีหน้าอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็หวังว่าจะดีขึ้น เป็นธรรมดาของคนที่มาทำงานและมาอยู่ตรงนี้ เรามาเพื่ออะไร ก็เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ก็ต้องพยายามทำในหลายๆ มิติ ตนไม่ได้มาทำแค่ค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียว แต่ยังดูเรื่องของการลงทุน การเจรจาสนธิสัญญาทางการค้า ดูเรื่องสิทธิพื้นฐานเรื่องของการเลือกเพศสภาพ การประกอบอาชีพ หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ ของสิทธิเสรีภาพที่ควรจะได้อากาศสะอาด เราก็ต้องทำกัน และหลังปีใหม่ ตนจะไปภาคเหนืออีก ไปช่วยกำกับว่าตรงนี้จะต้องดีขึ้น ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีหลายมิติและคิดว่าปีใหม่นี้ถือเป็นนิมิตหมายใหม่ ในเรื่องของวิธีการทำงาน เราต้องช่วยกันทำงานดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี