สวนกลับ‘จุรินทร์’อยู่4ปีไม่มีผลงาน นายกฯโต้‘เป็ดง่อย’ สู้ฝีมือ‘ภูมิธรรม’1ปียังไม่ได้

สวนกลับ‘จุรินทร์’อยู่4ปีไม่มีผลงาน นายกฯโต้‘เป็ดง่อย’ สู้ฝีมือ‘ภูมิธรรม’1ปียังไม่ได้

วันศุกร์ ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag :

สวนกลับ‘จุรินทร์’อยู่4ปีไม่มีผลงาน

นายกฯโต้‘เป็ดง่อย’

สู้ฝีมือ‘ภูมิธรรม’1ปียังไม่ได้

‘อู๊ดด้า’อัดซ้ำนายกฯปากไว

ก้าวไกลถล่มหนักงบกลาโหม

แฉหักหัวคิวเงินทหารเกณฑ์

นายกฯโต้วาทกรรมงบ“เป็ดง่อย-นักกู้ถุงเท้าสีชมพู”เย้ยจุรินทร์นั่งรมว.พาณิชย์ 4 ปี สู้ “ภูมิธรรม”ทำงานปีเดียวไม่ได้ โว FTA ผลงานโบแดง ถลกขากางเกงโชว์ถุงเท้าชมพู ชี้เป็นสีสัน ใส่สีอะไรก็ทำงานได้ ยันใครๆ ก็กู้ ด้าน “จุรินทร์” สวนทันควัน “เศรษฐา”ฟังไม่ได้ศัพท์ ยันมีผลงานเป็นเซลส์แมนประเทศมาก่อน สอนมวยอย่าปากไว ขณะที่สภาฯถกงบวันที่สอง ก้าวไกลชำแหละงบกลาโหมเพิ่มขึ้น 3.8 พันล้าน เย้ยสุทินลอกการบ้านรบ.ก่อน แฉยังเทงบบุคลากรสวนทางลดกำลังพล ปูดทหารเกณฑ์ถูกยึดบัตรเอทีเอ็ม หักหัวคิวค่าเบี้ยเลี้ยง จี้หั่นงบกอ.รมน.ซัดไร้ผลงาน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 มกราคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าาประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง


เหลือเวลาอภิปรายอีก28ชม.

โดยก่อนเข้าสู่การพิจารณา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมสรุปเวลาต่อที่ประชุมว่า ในการอภิปรายวันแรก สส.ฝ่ายรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เวลารวม 7 ชั่วโมง 52 นาที แบ่งเป็นของครม.3 ชั่วโมง 37 นาที สส.ฝ่ายรัฐบาลใช้เวลา 4 ชั่วโมง 14 นาที คงเหลือเวลา 12 ชั่วโมง 7 นาที ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้เวลา 6 ชั่วโมง 43 นาที คงเหลือเวลาอภิปราย 13 ชั่วโมง 16 นาที รวมเวลาอภิปรายวันแรก 14 ชั่วโมง 57 นาที เหลือเวลารวม 28 ชั่วโมง 2 นาที

พรรคเล็กจี้ตัดงบกอ.รมน.ไร้ผลงาน

จากนั้นนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ลุกขึ้นอภิปรายว่า ตนไม่ขอรับหลักการการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) 5,112 ล้านบาท ตามงบประมาณรายจ่ายของสำนักนายกฯ และหน่วยงานในกำกับ เพราะพบว่ามีการจ่ายเงินพิเศษให้ข้าราชการ ที่ตนมองว่าเป็นเห็บในวงราชการ ได้รับงบประมาณซ้ำซ้อน เช่น นายกฯดำรงตำแหน่ง ผอ.รมน. ได้รับเงินเดือนทั้งตำแหน่งนายกฯ และผอ.รมน. เช่นเดียวกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับเงินเดือนตำแหน่งผู้ว่าฯ และเงินเดือน ผอ.รมน.จังหวัด เป็นต้น

‘ผมขอตัดงบ 100% เนื่องจากไม่พบผลงานของกอ.รมน.ที่ทำเพื่อประชาชนเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากร้องเพลงรักชาติ ต่างจากกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.)ที่ต้องขายขี้ยางเพื่อเดินทางมาที่สภาฯ ขอความช่วยเหลือ ผมขอเรียกร้องให้จัดงบฯให้กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยวงเงิน 6,000 ล้านบาท” นายสุรทิน กล่าว

“สุพัชรี”เปิดคลิปถามไหนบอกไม่กู้

ต่อมานางสุพัชรี ธรรมเพชร สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายตอนหนึ่งถึงกรณีเงินดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมเปิดคลิปเสียงให้สัมภาษณ์ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ระบุจะไม่กู้เงินมาใช้ในโครงการดังกล่าว โดยระบุว่า ตนหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาตอกย้ำผู้นำประเทศอีกครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมานายกฯ ยืนยันว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีงบประมาณเพียงพอที่จะนำมาเกลี่ยใช้ได้ และยืนยันจะไม่กู้เงิน แต่เหตุใดจึงไม่นำเรื่องนี้มาบรรจุไว้ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดิน ตนและพรรคประชาธิปัตย์ ขอบอกกับทุกคนว่าเราไม่อาจเชื่อมั่นกับคำพูด ไม่เชื่อมั่นในการบริหารประเทศและบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ของนายกฯ ผู้นำแฟชั่นท่านนี้

โต้งบเป็ดง่อย-เย้ยจุรินทร์สู้ภูมิธรรมไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ช่วงเช้าเดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจ ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมภายในและทำการบันทึกเทป จากนั้นเดินทางเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรเวลา 12.00 น. โดยนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ภาพรวมการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2567 วันแรกว่า ก็ดีมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้พูดจาอธิบายกันในภาษาที่ตนคิดว่าดูเป็นการสร้างสรรค์พอสมควร ส่วนที่มีการใช้วาทกรรมตั้งฉายาเป็นงบเป็ดง่อยนั้น ตนมอง 2 มิติ มิติแรกเรื่องวาทกรรมกับเรื่องเจตนารมณ์ ที่ผู้อภิปราย อยากให้เราไปปรับปรุงแก้ไขในวาระ2 และวาระ3 ซึ่งเป็นโอกาส ที่เราจะเอาข้อเสนอแนะข้อติชมไปปรับปรุง

“ส่วนเรื่องเป็ดง่อยก็ไม่แน่ใจว่ากลอนพาไปหรือไม่ แต่ผมมั่นใจว่าถ้าท่านพูดถึงกระทรวงพาณิชย์ที่ท่านเคยดูแลอยู่ ผมมั่นใจว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในระยะเวลา 1 ปี ทำได้มากกว่าท่านทำมา4ปี เพราะเรื่องของสนธิสัญญาการค้าระหว่างประเทศ FTA ถือเป็นเรื่องใหญ่ ผมว่าเป็นที่ประจักษ์ว่าที่ผ่านมาง่อยหรือไม่ง่อย ที่เราทำตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ผมมั่นใจในตัวรัฐมนตรีของเรา และบางเรื่องจริงๆแล้วนโยบายใช้น้อยมาก เป็นการใส่ใจ อย่าง FTA รัฐบาลตั้งใจจริง” นายเศรษฐา กล่าว

โชว์ถุงเท้าสีชมพูยันสีไหนก็ทำงานได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า สส.พรรคก้าวไกลพยายามกล่าวหาว่ารัฐบาลนี้จัดงบฯเดินตามรัฐบาลชุดที่ผ่านมามากเกินไป นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องงบประมาณที่จริงแล้วมีที่มาที่ไปของมัน ชัดเจนอยู่แล้ว อย่าพูดที่ว่าเป็นรัฐบาลไหนอย่างไร อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากจากรัฐบาลที่แล้วเราก็ทำตาม อะไรที่ต้องปรับปรุง เราก็จะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง และที่มีการอภิปรายถึงเงินดิจิทัลไม่บรรจุไว้ในร่างงบประมาณ สวนทางกับที่พูดไว้ว่าจะไม่กู้ ก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นพ.ร.บ.กำลังคอยข้อแถลงของกฤษฎีกาอยู่

ถามต่อว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อและอดีตรองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ที่ตั้งฉายานายกฯเป็นนักกู้ถุงเท้าสีชมพู นายเศรษฐากล่าวว่า ก็ใส่มาให้ท่านดูด้วย พร้อมกับดึงขากางเกงเผยให้เห็นถุงเท้าสีชมพู ก่อนกล่าวอีกว่า เป็นสีสันไม่ได้มีอะไร ทุกคนก็กู้หมด สำคัญว่ากู้แล้วมาทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติ และทำอะไรมากกว่า ซึ่งตนมั่นใจในรัฐบาลนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากนั้นนายเศรษฐาดึงขากางเกงโชว์ถุงเท้าสีชมพู ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ เมื่อถูกถามว่าจะใส่สีไหนก็ทำงานได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า สีไหนก็ทำได้ ไม่เกี่ยวกับการทำงาน

“จุริทน์”สวนฟังไม่ได้ศัพท์-ปากไว

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ออกมาชี้แจงตอบโต้นายเศรษฐาทันทีที่ระบุทำงาน 4 ปี เทียบกับนายภูมิธรรมทำ 1 ปี ไม่ได้ เรื่องการเปิดเขตการค้าเสรีหรือ FTAว่า นายกฯคงฟังไม่ได้ศัพท์ ที่ตนอภิปรายไม่ได้พูดถึงกระทรวงพาณิชย์ แต่พูดถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณว่าเหมือนงบเป็ดง่อย เพราะมีเวลาใช้เพียง 5 เดือน จากงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท ซึ่งยปกติประสิทธิภาพการใช้งบลงทุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรามีประสิทธิภาพเพียง 70% ระยะเวลาก็เหลือเพียง 5 เดือนคือ 40% ของเวลาทั้งหมด สุดท้ายงบประมาณฉบับนี้จะกลายเป็นงบเป็ดง่อย ไม่สามารถนำไปสู่การกระตุ้น GDP ตามเป้าหมายได้ การที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดถึงกระทรวงพาณิชย์ ตนมองว่า ท่านพูดเร็วไปหน่อย หรืออาจปากไวไปหน่อย

“ที่บอกว่าอยู่ 1 ปีทำมากกว่าผม 4 ปี ไม่เป็นไร เพราะผมไม่ได้วิจารณ์กระทรวงพาณิชย์ แต่ที่นายกฯพูดถึงเรื่อง FTA ยืนยันเลยว่ายุคที่ผมเป็นรมว.กระทรวงพาณิชย์ เราทำ FTA เยอะที่สุดยุคหนึ่ง” นายจุรินทร์ กล่าว และว่า ความสำเร็จนับตั้งแต่ RCEP ในรัฐบาลที่แล้วที่ตนนั่งเป็นประธานประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ 15 ประเทศ ทำให้ RCEP บังคับใช้ได้ ซึ่งกลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมี FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ตนเดินทางไปเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปด้วยตัวเอง ก่อนจะพ้นตำแหน่ง ถือเป็นความสำเร็จที่มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมเป็นอย่างมาก

โวเป็นเซลล์แมนปท.มาก่อน

นายจุรินทร์ยังยืนยันด้วยว่า ตนเป็นเซลล์แมนประเทศตัวจริงในขณะนั้น เป็นคำที่นายกฯนำมาใช้อยู่ในขณะนี้ ตนใช้มาก่อน พร้อมออกตัวว่าถ้าพูดเรื่อง FTA ตนไม่ขอวิจารณ์รมว.พาณิชย์คนใหม่ แต่ถ้านายกฯบอกว่า 4 ปีตนมีผลงานน้อยกว่ารมว.พาณิชย์คนใหม่ คิดว่าท่านต้องระวังเรื่องข้อมูล อยากบอกว่าไวไปมันไม่คุ้มหรอก เดี๋ยวจะไปสร้างความเสียหายเหมือนประเด็นที่เคยเป็นมาอีก ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ตั้งใจตอบโต้แต่ต้องชี้แจงให้เข้าใจ ส่วนรัฐบาลนี้มาทำงาน 3-4 เดือน แต่นายกฯบอกว่า 1 ปีนั้น เป็นสิ่งที่นายกฯต้องระมัดระวังเรื่องการคิดเร็ว พูดเร็ว ไม่อยากใช้คำว่าปากไว เพราะตนก็ให้เกียรติท่าน

ก.ก.ชำแหละงบกห.เพิ่ม3.8พันล.

วันเดียวกัน นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.)อภิปรายงบประมาณกระทรวงกลาโหม (ก.ห.)ว่า วันนี้ตนเห็นแผนร่างจัดสรรงบประมาณในส่วนกระทรวงกลาโหม ตนตั้งคำถามว่าคนไทยจะฝันเห็นกลาโหมและกองทัพโฉมใหม่ที่ดูดีทันสมัยได้หรือไม่ กระทรวงกลาโหมขอรับการจัดสรรงบประมาณเกือบ 1.98 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3,800 ล้านบาท โดยงบประมาณรายจ่ายบุคลากรภาครัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยปี 2567 เพิ่มขึ้น 1,725 ล้านบาท สะท้อนว่ากระทรวงกลาโหมกำลังขยายขนาดหรือไม่ สวนทางกับแผนลดกำลังพล ดูแผนประมาณการรายจ่ายล่วงหน้ารายจ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี สวนทางกับนโยบายลดกำลังพลที่นายกฯแถลงต่อสภาสิ้นเชิง นายสุทินต้องอธิบายทำไมจัดสรรงบประมาณไม่สมเหตุสมผล ย้อนแย้งกับนโยบายที่นายกฯแถลงไว้

55%ทุ่มจ่ายบุคลากรภาครัฐ

นายเอกราชกล่าวต่อว่า เมื่อเจาะดูรายจ่ายงบประมาณของกลาโหมส่วนใหญ่หมดไปกับรายจ่ายบุคลากรภาครัฐร้อยละ 55 โดยเฉพาะกองทัพบกใช้งบประมาณถึงร้อยละ 64 ของงบประมาณกองทัพบก ดูละเอียดเข้าไปอีกงบบุคลากรยังซ่อนรูปในงบรายจ่ายอื่นที่ใช้กับทหารกองประจำการทั้งค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาภรณ์เครื่องแต่งกาย และค่าใช้จ่ายเรียกเกณฑ์และปลดกำลังพล เมื่อรวมค่าตอบแทนทหารประจำการค่าตอบแทนจะสูงถึง 1.4 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.8 ของบุคลากรทั้งหมดของกระทรวงกลาโหม

แฉทหารเกณฑ์ถูกหักหัวคิวเบี้ยเลี้ยง

นายเอกราชกล่าวอีกว่า อีกเรื่องคือทหารที่เขาสมัครใจเข้ามา เขาอยากเป็นทหารที่ไปยึดสมรภูมิ แต่ตอนนี้เขาถูกยึดบัตรเอทีเอ็ม มีการสอบสวนข้อเท็จจริงในกมธ.ทหาร ที่ค่ายในจ.นครพนม มีทหารมาร้องเรียนว่านายพันนายพล เก็บบัตรเอทีเอ็มของทหารเกณฑ์ไว้ เขาจำใจต้องยอมให้เก็บเพราะเขาไม่อยากมาเฝ้าแต่หญ้าฆ่าแต่มดอยู่ในค่าย แถมตั้งรหัสเอทีเอ็ม 1111 เหมือนกันหมด นายสุทินทราบเรื่องหรือไม่ แล้วแบบนี้ใครจะอยากมาเป็นทหารแบบสมัครใจ เขาอยากมายึดสมรภูมิไม่ใช่มาถูกยึดบัตรเอทีเอ็ม ถูกหักหัวคิวค่าเบี้ยเลี้ยง

“ในเล่มงบประมาณส่วนบุคลากรกองทัพ ควรเปลี่ยนเคพีไอและชี้ให้ชัดว่าจำนวนทหารกองประจำการต้องการจำนวนเท่าไร มีคนสมัครจริงเท่าไร ต้องเกณฑ์เท่าไร นายสุทินในฐานะผู้บริหารกระทรวง ต้องมีนโยบายที่นำไปสู่เป้าหมาย ไม่ใช่ปล่อยให้กองทัพจัดการกันเอง เสนอมาเท่าไรก็เซย์เยส อย่าให้รัฐมนตรีเป็นแค่ตรายาง”นายเอกราชตั้งข้อสังเกต

ข้องใจงบลับเบิกจ่ายเร็วครบ100%

และว่า ส่วนงบอีกตัวหนึ่งที่ตนติดใจคือ งบลับ ตนเข้าใจว่าดีว่างบลับมีกฎหมายที่สภาไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แต่มีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)เท่านั้นที่เข้าไปดูได้ว่า ถูกใช้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ แต่อดสงสัยและเคลือบแคลงใจไม่ได้ว่าทำไมงบลับของกระทรวงกลาโหมต้องเท่ากันทุกปี และการเบิกจ่ายรวดเร็ว ครบถ้วน 100 % ไม่รู้จะพิจารณาความคุ้มค่าแบบไหน และสส.พรรคเดียวกับนายสุทินในสมัยครั้งที่แล้วอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์งบลับอย่างดุเดือด จึงเสนอนายกฯ ช่วยกระซิบนายสุทินว่าจะทำอย่างไร ปรับลดยกเลิกได้หรือไม่ ส่วนของ กอ.รมน.ลดไปได้ประมาณ 10 ล้านบาท สำนักนายกฯ ลดได้ประมาณ 5 ล้านบาท รวมเป็น 15 ล้านบาท กลาโหมก็จะได้ลดงบลับลงไปบ้าง ตนยืนยันว่างบลับคือช่องทางให้งาบอย่างลับๆ ของนายทหารผู้มีอำนาจหรือไม่

จับตาทร.สร้างรันเวย์อู่ตะเภา

นายเอกราชยังอภิปรายถึงพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รัฐลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ดำเนินมาต่อเนื่องจนถึงรัฐบาลนี้ กองทัพเรือมีโครงการภายใต้แผนบูรณาการเขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 เรียกง่ายๆ ว่าการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท โดย 2,450 ล้านเป็นงบประมาณแผ่นดิน แล้วเขาจะไปกู้เงินจากต่างประเทศอีกกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท สิ่งที่ตนสงสัยคือเราอยู่ในยุคที่กองทัพเรือ (ทร.) ไปกู้เงินจากต่างประเทศมา เพื่อสร้างรันเวย์สนามบินพาณิชย์ได้อย่างไร มันเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)ชัดๆ เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง

“พรรคก้าวไกลเคยถามกองทัพเรือใน กมธ.งบประมาณปีก่อนๆ ว่าทำไมต้องมารับผิดชอบการก่อสร้างสนามบินพาณิชย์ กองทัพเรือตอบอย่างเข้มแข็งว่าสนามบินอู่ตะเภาเป็นพื้นที่ๆอยู่บนที่ดินที่กองทัพเรือครอบครอง แบบนี้ได้หรือไม่ ที่ราชพัสดุเป็นของแผ่นดินไม่ใช่หน่วยงานใด สรุปจะอ้างสิทธิ์ในที่ดินแล้วเปิดซองประมูลคัดเลือกผู้รับเหมา แบบนี้หวังเงินทอนหรือไม่ สกพอ.พยายามเจรจาเพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการนี้ แต่กองทัพเรือมีหรือจะยอม”นายเอกราชตั้งข้อสังเกต

งบซื้ออาวุธลดเพราะดาวน์น้อยผ่อนนาน

ขณะที่นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหมด้านงบจัดซื้ออาวุธว่า ลดลงกว่า 2.4 พันล้านบาท แต่สาเหตุที่ลดลงมาจากการ “สุทิน ดาวน์น้อย(ลง)” แล้วผ่อนนานขึ้น โดยพบว่าในงบประมาณปี 66 ดาวน์ 13% และปี 67 ดาวน์ 9%หากรักษาวินัยการคลัง เพื่อไม่ให้ผ่อนหนักนานๆ ต้องรักษาสัดส่วนการดาวน์ให้อยู่ในระดับ 20% ดังนั้น รัฐบาลชุดนี้ ยอดดาวน์น้อยกว่ารัฐบาลก่อน จะทำให้ยอดก่อหนี้ผูกพันให้ผ่อนยาวๆ รวมมูลค่า 5.78 หมื่นล้านบาท มากกว่าปี 66 อยู่2-3เท่า ซ่อนหนี้ก้อนโตไปไกล ถ้าตรวจสอบเอารอดปีต่อปีจะมองไม่เห็น แต่ถ้ามองอนาคตเราจะเห็นความพินาศชิ้นใหญ่รออยู่

ชงหั่นงบกอ.รมน.ห่วงจ่ายบุคลากรผี

เวลา 14.00 น. นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตอนหนึ่งว่า จากเหตุปล้นปืน เมื่อปี 2547 พบสถานการณ์ความไม่สงบจนถึงปัจจุบันเกิดขึ้นแล้วกว่า 22,296 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บกว่า 2 หมื่นคน มีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 คน ทั้งนี้ พบว่ารัฐใช้งบประมาณแก้ปัญหากว่า 5.4 แสนล้านบาท โดยในงบประมาณปี 2567 พบการเสนอของบรวม 2.5 หมื่น ซึ่งกำหนดโครงการไว้ในแผนบูรณาการแก้ปัญหาพื้นที่ภาคใต้ ถือว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนตัวมองว่างบฯดังกล่าวสามารถปรับลดได้ ถึง 1,032 ล้านบาท สำหรับงบฯที่ใช้ดับไฟใต้ ซึ่งกำหนดไว้นอกแผนบูรณาการ 3 ใน 4 อยู่ในกอ.รมน.รวมกว่า 5,000 ล้านบาท เช่น งบกำลังพลและดำเนินงานของกอ.รมน.วงเงิน 3,535 ล้านบาท ที่อาจเกี่ยวกับบุคลากรผี ที่มีชื่อปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้แต่ไม่ได้ทำงานจริง ถือเป็นงบหล่อเลี้ยงกำลังพลที่ไม่ได้ทำงานในพื้นที่ กอ.รมน.ชี้แจงว่ามีคนทำงานจริงเท่าไร หรือเป็นเพียงงบที่ใช้หากินเท่านั้น

“ในส่วนกอ.รมน. พบมีค่าตอบแทนพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน 52 หน่วยงาน รวมงบประมาณ 1,527 ล้านบาท จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้คนในพื้นที่ดำเนินการในส่วนดังกล่าว ผมมีข้อเสนอรัฐบาลที่มีนโยบายด้านยุติธรรม ให้ฟื้นคดีตากใบที่อีก 10 เดือนจะหมดอายุความให้ริเริ่มเป็นคดีพิเศษ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงให้นายกฯกำชับไปยังกอ.รมน. ภาค4ส่วนหน้า ให้ยุติการฟ้องปิดปากเพื่อให้การเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นได้จริง รวมถึงเปิดพื้นที่ทางการเมือง เจรจาหาทางออกร่วมกันระหว่างคนในพื้นที่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมถึงปรับลดงบประมาณที่ซ้ำซ้อนของ กอ.รมน.”นายรอมฎอนกล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top