‘ศรีสุวรรณ’ยื่นปปช.ฟัน‘ศักดิ์สยาม’
ผิดจริยธรรมร้ายแรง
ปมซุกหุ้น/แจ้งบัญชีเท็จ
จ่อยื่นกกต.ยุบพรรคภท.
นายกฯโวตปท.แห่ลงทุน
นายกฯกลับถึงไทย อารมณ์ดี บอกเป็นหวัดนิดหน่อย ย้ำภารกิจที่สมาพันธรัฐสวิส ได้ประโยชน์ พบมหาเศรษฐีอินเดียพร้อมต่อจิ๊กซอว์แลนด์บริดจ์ไทยชี้หลายฝ่ายเตือนสติรัฐบาล เป็นเรื่องธรรมดา ยืนยันเดินหน้าต่อ ด้าน “ศรีสุวรรณ” กระทุ้งป.ป.ช.ส่งศาลฎีกาฯลงโทษ
’ศักดิ์สยาม’ผิดจริยธรรมร้ายแรง หลังศาลรธน.ชี้ขาดคดีซุกหุ้นบริษัทเอกชน จ่อชง’กกต.’ยุบพรรค’ภท.’สัปดาห์หน้า ด้าน‘ชนม์ทิดา อัศวเหม’ไขก๊อกสส.ปาร์ตี้ลิสต์ ขอทำการเมืองท้องถิ่นสมุทรปราการแบบพ่อ
เมื่อเวลา 10.40น.วันที่ 19มกราคม2567 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางกลับถึงประเทศไทยหลังเสร็จสิ้นภารกิจร่วมประชุม World Economic Forum2024 (WEF) ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยนายกฯกล่าวว่า 3วันที่ผ่านมา ได้พบ นักลงทุน ผู้นำต่างประเทศ ในทุกมิติ โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้พูดคุยกับประธานสภาอียู ถึงความร่วมมือเอฟทีเอ ยกระดับพาสปอร์ตไทยและพบกับ ประธานาธิบดีสุภาพสตรีของสมาพันธรัฐสวิส ถึงเรื่องการค้าขาย เข้าใจว่าประเทศไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของเขา รวมถึงพูดคุยกับไมโครซอฟ และกูเกิ้ล ที่ทำเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งทางกูเกิ้ล ก็ย้ำว่าจะมาให้ลงทุนในไทย ซึ่งการร่วมประชุม ตลอด 3 วัน ยอมรับว่า วันแรกหนักอยู่ แต่ได้ประโยชน์ เพราะทุกคนที่มา มุ่งมั่นที่จะพบปะกัน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้เจอกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งไม่ได้นัดไว้ แต่ใกล้อาหารเที่ยง ตนจึงได้ส่งแมสเสจไปว่า ขอพบ ได้พูดคุยกัน 15นาที ซึ่งตอกย้ำเรื่อง PM 2.5 ที่ได้สั่งการไปทุกหน่วยงานของทั้งสองประเทศแล้ว และย้ำความร่วมมือเกี่ยวกับวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่นายกฯกัมพูชาจะมาเยือนไทยด้วย
‘ดูไบ-ยูเออี-อินเดีย’สนใจแลนด์บริดจ์
ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์ ที่เห็นทางกลุ่มทุนดูไบสนใจนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เขาสนใจเพราะบริหารท่าเรือแหลมฉบังอยู่แล้ว และตนได้พบเจอกับซีอีโอด้วย ซึ่งมีความมุ่งมั่น โดยดูจากสายตาและการพูดคุย รวมถึงเป็นผู้ที่กษัตริย์ของยูเออี ให้ความไว้วางใจสูงมาก พร้อมจะเชื้อเชิญมาพูดคุยในเดือนหน้า และไปดูสถานที่โดยกระทรวงคมนาคมจะเป็นเจ้าภาพ“และได้พบกับมิสเตอร์GAUTAM ADANI ที่เป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลกและบริหารหลายสนามบิน ในอินเดีย โดยเฉพาะเมืองรองถือว่า โชคดีที่ได้เจอ เพราะเมืองรองของเขา ก็อยากเข้ามาไทยมากขึ้น ซึ่งตนก็ได้ตอกย้ำอยากให้คนของเขา เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่ง นายGAUTAM ADANI ตอบรับจะไปพูดคุยให้ รวมถึงสนใจในโครงการแลนด์บริดจ์ เพราะเขาได้ทำโลจิสติกส์ในอินเดีย จะเป็นการช่วยต่อจิ๊กซอว์ให้เป็นภาพได้” นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ต่อไป แม้ฝ่ายค้านและหลายฝ่ายจะค้านว่าไม่คุ้มทุนนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การจะทำอะไรก็ต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วยหรือให้ข้อคิด และเตือนสติกับรัฐบาล ว่าเราจะต้องระมัดระวังในเรื่องพวกนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับถึงประเทศไทย อย่างอารมณ์ดี โดยหยอกล้อกับสื่อมวลชนด้วยการแกล้งเดินเลยไมค์ ก่อนเดินกลับมาให้สัมภาษณ์ ทั้งนี้ หลังสัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายกฯเผยว่า จะเดินทางไปเยี่ยมมารดาที่ป่วยอยู่โรงพยาบาล ก่อนจะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนนายกฯ ไม่สบาย เสียงหาย นายเศรษฐา ระบุว่า เป็นหวัดนิดหน่อย
ร้องปปช.สอบจริยธรรม’ศักดิ์สยาม’
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้ปปช.เอาผิดจริยธรรมร้ายแรงกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคมระบุว่า จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลง เนื่องจากฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187ประกอบ พรบ.การจัดการหุ้นส่วน และหุ้นส่วนของรัฐมนตรี 2543 มาตรา 4 อนุมาตรา 1 ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 1 อนุมาตรา 5 แต่เรื่องนี้ไม่จบลงที่การสิ้นสุดของการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งนายศักดิ์สยาม ก็ออกมาจากตำแหน่งรัฐมนตรีตั้งแต่การเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2566
น่าจะเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง
แต่เนื่องจากผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นศาลองค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นใด ดังนั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็นที่สุดแล้วย่อมจะผูกพันหน่วยงานอิสระอย่าง ปปช.ด้วย การที่ นายศักดิ์สยาม ได้นำเสนอบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไว้ยัง ปปช.ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ชี้ให้เห็นว่าเป็นการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดยชัดเจน เพราะว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายศักดิ์สยามยังคงเป็นหุ้นส่วนหรือเจ้าของหุ้นส่วนที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วน บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น จึงเป็นบทบาทหน้าที่ของ ปปช.ต้องดำเนินการเรื่องแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ รวมทั้งประเด็นมาตรฐานทางจริยธรรมด้วย ซึ่งน่าจะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงในหลายๆข้อโดยศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีมาตรฐานออกมาชัดเจนไว้ตั้งนานแล้วเรื่องนี้จึงมีความจำเป็นต้องให้ ปปช.ลงดาบที่สองกับ นายศักดิ์สยาม ต่อไป
“เมื่อ ปปช.ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็เป็นหน้าที่ที่จะไปดำเนินการเอาผิดและลงโทษคุณศักดิ์สยามต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมีการเว้นวรรคทางการเมือง ไม่ใช่แค่ 1-2 ปี แต่จะต้องเป็น 10ปี ซึ่งก็หมดสิ้นอนาคตทางการเมือง ซึ่งนอกจากดาบสองแล้ว ยังมีดาบสาม ดาบสี่ ดาบห้า ตามมาอีก เพราะกรณีนี้ เราไม่ควรให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่นักการเมือง หรือพรรคการเมืองอื่นๆ เพราะไม่เช่นนั้นนักการเมืองจะใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองหลบเลี่ยงแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแล้วให้นอมินีมาดำเนินการ ขณะที่ตัวเองมีอำนาจในกระทรวง ทบวง กรม แล้วสามารถเข้ามาประมูลงานแข่งกับคนอื่น ยิ่งทำให้รัฐเสียหาย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ ต้องมายื่นให้ ปปช.ดำเนินการ”นายศรีสุวรรณ กล่าว
ดาบ2ตัดสิทธิ์10ปี-ดาบ3ชงยุบ’ภท.’
เมื่อถามว่า ดาบที่สองคือการหมดอนาคตทางการเมือง แต่ไม่ใช่เรื่องของการยุบพรรคใช่หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องการยุบพรรคเป็นหน้าที่ของ กกต.ตอนนี้ดำเนินการในเรื่องของนายศักดิ์สยามก่อน ส่วนเรื่องยุบพรรคก็ต้องดำเนินการต่อไป เพราะบอกแล้วว่าจะต้องมีไม้สามไม้สี่ต่อไป ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดเจนเป็นที่สุดแล้ว และผูกพันกับหน่วยงานรัฐอื่นที่เกี่ยวข้อง จะเฉไฉเป็นอย่างอื่นไม่ได้ โดยในสัปดาห์หน้าตนจะไปยื่นคำร้องต่อ กกต.ในเรื่องของการยุบพรรคต่อไป เมื่อถามว่า การที่นายศักดิ์สยามลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและสส.แล้ว ถือว่ายังไม่จบใช่หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ความผิดเกิดขึ้นในขณะที่นายศักดิ์สยามดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การลาออกจากตำแหน่ง สส. และเลขาธิการพรรคไม่เกี่ยวเลย เพราะความผิดเกิดขึ้นระหว่างที่ดำรงตำแหน่งไปแล้ว ผลผูกพันมาตั้งแต่การดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว
‘เจ๊มันแกว’เสียบสส.แทน’น้องเพลง’
นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม ผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท.ลำดับที่5ได้ส่งหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ภท.ต่อนายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ล่าสุด พรรคได้แจ้งต่อเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึงการลาออกของ น.ส.ชนม์ทิดาแล้ว เป็นเหตุให้ขาดคุณสมบัติการเป็นสส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศลาออกจากการเป็นสส.บัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 17ม.ค.67 ซึ่งผู้ที่จะได้เป็นสส.บัญชีรายชื่อ แทนนายศักดิ์สยาม คือ น.ส.ชนม์ทิดา แต่ล่าสุดเมื่อ น.ส.ชนม์ทิดา แสดงความจำนงขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ทำให้ผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับถัดไป คือ นางนันทนา สงฆ์ประชา ผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่6 จะได้เลื่อนลำดับขึ้นมาแทน
‘ชนม์ทิดา’ไขก๊อก-ลุยการเมืองท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ชนม์ทิดา ได้โพสต์ผ่านIG storyถึงเหตุผลการลาออกจากสมาชิกพรรค ภท.ระบุว่า“เพลงขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ ทุกท่านที่ให้โอกาสเพลงเสมอมา และขอบคุณ ทุกท่านที่ร่วมแสดงความยินดีล่วงหน้ากับเพลง มา ณ ที่นี้ เพลงตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพื่อไม่รับตำแหน่ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมายระหว่างการทำงานในฐานะสส.และการทำงานการเมืองท้องถิ่นและด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นของคุณพ่อ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หัวหน้ากลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าเพลงจึงขอเรียนว่า วันนี้เพลงเลือกเดินหน้าเคียงข้างคุณแม่ ในฐานะ#กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า เพื่อทำงานด้วยวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ให้ชาวสมุทรปราการอย่างเต็มที่ต่อไป เพราะสมุทรปราการคือบ้าน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี