"แพทองธาร"ควง"หมอเลี้ยบ" สื่อสารนโยบายซอฟต์พาวเวอร์แก่นักลงทุน งาน"เกียรตินาคินภัทร : A Pathway to Prosperity" ปลุกความเชื่อมั่นนักลงทุนจากแผนงานรัฐ
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมเป็น Key Speaker ในงาน "A pathway to prosperity" จัดโดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ณ ศูนย์สิริกิตติ์ บอกเล่ายุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ให้แก่นักธุรกิจ นักลงทุนที่สนใจกว่า 1,600 คน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ท่องเที่ยว เทศกาล และกีฬา คำถามแบ่งเป็น 3 ประเด็นใหญ่ คือ ทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรม รายละเอียดของระยะเวลานโยบาย และงบประมาณที่จะใช้กับนโยบาย
โดยรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เล่ารายละเอียดก่อนว่า ที่ผ่านมาหลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับนิยามของซอฟต์พาวเวอร์ โดยอ้างอิงจากต้นทฤษฎีอย่าง โจเซฟ ไนย์ แน่นอนว่าเพื่อไทยเราถอดวิธีการทำงานมาจากต้นทฤษฎี แต่วันนี้คำว่าซอฟต์พาวเวอร์ มีการประยุกต์ใช้ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ หรือระหว่างประเทศ ไม่ได้เน้นแค่การเมืองระหว่างประเทศเพียงเท่านั้น สังเกตได้จากการวัดผลดัชนีซอฟต์เพาเวอร์จากแต่ละสถาบันที่มีการวัดผลที่ต่างกันเสมอ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่ทุกคนยอมรับเรื่องการเผยแพร่วัฒนธรรมนั้น กลับได้การจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่ใช้ซอฟต์พาวเวอร์สูงในบางสำนัก และได้ลำดับที่ต่ำในบางสำนัก เพราะฉะนั้นเรื่องทฤษฎีซอฟต์พาวเวอร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่จะยึดเอาเกณฑ์หรือประเด็นใดเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งรัฐบาลเพื่อไทยเราใช้มิติทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และนโยบายต่างประเทศเป็นตัวนำ
ประเด็นต่อมาคือ เรื่องงบประมาณ ที่ประชาชนหลายคนมองว่าใช้งบประมาณสูง เช่น งบประมาณของอุตสาหกรรมเทศกาลและการท่องเที่ยวซึ่งกำหนดไว้ที่ราว 1,700 ล้านบาท เรื่องนี้แพทองธารอธิบายว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่งบประมาณที่สูง ไม่มากไปกว่าที่เคยใช้ในปีก่อนๆ เพียงแต่ที่ผ่านมางบท่องเที่ยวและเทศกาลแตกไปอยู่ในหลายหน่วยงาน รวมทั้งไม่ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ การทำงานของเราจะทำให้เป็นระบบและชัดเจนขึ้น และที่แตกต่างคือการทำงบประมาณนี้เป็นการจัดสรรโดยเอกชน ซึ่งเป็นคนใช้งบประมาณจริง
สิ่งที่คณะกรรมการฯ ตั้งใจทำในอุตสาหกรรมเทศกาลและการท่องเที่ยว คือการทำเศรษฐกิจเทศกาล (Festival Economy) เป็นเรื่องใหญ่มากที่ต่างประเทศเน้นเรื่องนี้ ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพมาโดยตลอดแต่อาจไม่ได้มีการออกแบบเศรษฐกิจเทศกาลอย่างเต็มที่ คณะกรรมการจะเริ่มพัฒนาระบบข้อมูลเทศกาลต่างๆ เช่น แพลตฟอร์ม , อมรมเรื่อง Festival academy คน โดยคนที่จะมาช่วยเรื่องนี้เป็นหลักเลยคือ วู้ดดี้ มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดังและผู้ปลุกปั้นเทศกาลดนตรี S2O หรืออีเวนต์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนนี้คือ งานมหาสงกรานต์ World Water Festival จะเป็นตัวอย่างว่า หากมีการออกแบบทั้งระบบจะเป็นยังไง ตั้งแต่การเดินทาง อาหาร โรงแรมที่พัก ห้องน้ำ ทั้งหมดนี้ต้องถูกวางแผนทั้งระบบ และ การทำโฆษณาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้มีการบอกเล่ารายละเอียดของโครงการ OFOS ที่จะ Reskill และ Upskill ในอุตสาหกรรมอาหาร โดยตั้งเป้าว่าในปีแรกจะมีการอบรม "หนึ่งเชฟอาหารไทยหนึ่งหมู่บ้าน" กว่า 10,000 คน อบรมฟรี พร้อมกับหลักสูตรที่ได้มาตรฐานสากล โดยเชฟ-ชุมพล แจงไพร ที่จะมีการสอนการทำอาหารไทย ตั้งแต่พื้นฐานการใช้อุปกรณ์ วิธีการปรุง รวมทั้งมีการเรียนรู้สูตรอาหารทั้ง 4 ภาค เรียนรู้อาหารคาว อาหารว่าง อาหารหวาน อาหารโบราณ พร้อมทั้งเตรียมหลักสูตรสำหรับการเป็นผู้ประกอบการ ร่วมทั้งสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดหาตำแหน่งงานให้ด้วยเมื่อจบหลักสูตร
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี