ศาลออกหมายจับผิดม.116-พรบ.คอมพ์
‘ตะวัน-แฟรงค์’ไม่รอด
เจ้าตัวยังปากดีท้าให้มาจับ
ก่อนถูกหิ้วไปสน.ดินแดง
บิ๊กโจ๊กชี้เป็นภัยความมั่นคง
สว.รวมพลังถวายกำลังใจ
ศาลอาญาออกหมายจับ “ตะวัน-แฟรงค์” ความผิดตาม ม.116-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีขับรถป่วนขบวนเสด็จฯ ผบก.น.1 ยืนยันไม่ได้ยัดข้อหา มั่นใจพยานหลักฐาน ขณะที่สองผู้ต้องหาพากันไปปรากฏตัวที่หน้าศาลอาญา ประกาศท้าให้จับ สุดท้ายโดนรวบขึ้นรถไปดำเนินคดีที่สน.ดินแดง ขณะที่ สว.แสดงพลัง ร่วมถวายกำลังใจแด่ สมเด็จพระเทพฯ
ความคืบหน้ากรณีสถานีตำรวจ 3 แห่ง ประกอบด้วย สน.ปทุมวัน นางเลิ้งและสน.สำราญราษฎร์ ได้เสนออัยการไปเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,คดีบุกรุก,ขัดขวางเจ้าพนักงาน ภายหลังแสดงออกกับขบวนเสด็จฯ บนทางด่วน นั่นคือ บีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จผ่านทางร่วมของต่างระดับมักกะสัน และขับรถยนต์ด้วยความเร็วเพื่อไปให้ทันขบวนเสร็จ แต่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รถปิดท้ายได้สกัดกั้นไว้ได้ เมื่อวันที่ 4กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น
พงส.ยื่นขอหมายจับ“ตะวัน”
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์2567 รายงานข่าวจาก บช.น.แจ้งว่า เช้านี้ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้ไปขอศาลออกหมายจับตะวัน หลังจากที่เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ตำรวจได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ตะวันขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เนื่องจากติดภารกิจการเรียน แต่ตำรวจเห็นว่าเหตุผลไม่เพียงพอเนื่องจากเลิกเรียนก็สามารถมาพบพนักงานสอบสวนได้ จึงได้ทำเรื่องขอออกหมายจับตะวันต่อศาลในเช้านี้ รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันที่ 13กุมภาพันธ์2567 ตำรวจได้เข้าค้นบ้านพักย่านดุสิตของตะวันด้วย แต่ไม่พบตัว
“ผบก.น.1”ลั่นหลักฐานรัดกุม
พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เปิดเผยหลังนำพยานหลักฐานมายื่นคำร้องต่อศาลอาญา รัชดา เพื่อขอให้ศาลออกหมายจับ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และนายณัฐชนน ไชยมหาบุตร กรณีมีพฤติกรรมพยายามก่อกวน และใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จว่า วันนี้ศาลได้นัดไต่สวนตามพยานหลักฐานที่นำมายื่น ซึ่งเป็นเอกสารกว่า 100 แผ่น ที่ตำรวจเก็บรวบรวมมาจากสื่อโซเชียล และภาพกล้องวงจรปิด มั่นใจว่าการทำงานของชุดสืบสวนมีความรัดกุม และเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการแจ้งข้อหาเพื่อใส่ร้ายใคร เพราะใช้เวลารวบรวมหลักฐานนานประมาณ 7 วัน และศาลไต่สวนนานถึง 2 ชั่วโมง โดยมีพนักงานสอบสวนนำสืบถึง 6 คน
ปากกล้าท้าให้มาจับที่ศาลอาญา
“ตะวัน” กับพวกรวมตัวที่ศาลอาญา ให้กำลังใจนักข่าวประชาไท หลังทราบข่าวตำรวจมาขอหมายจับ คดีขบวนเสด็จ ยืนยัน ไม่หลบหนี เพิ่งรู้ 3 สน.ยื่นเพิกถอนประกัน ย้ำ สู้ต่อแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา รัชดาว่า น.ส.ทานตะวัน และนายณัฐชนน ไพโรจน์ พร้อมด้วยพรรค ได้ปรากฏตัวที่ศาลอาญาเพื่อเดินทางมาเพื่อให้กำลังใจนักข่าวประชาไท และช่างภาพอิสระ ที่พนักงานสอบสวนคุมตัวมาฝากขัง หลังถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาสนับสนุนการทำให้โบราณสถานเสียหาย จากการลงพื้นที่ทำข่าวเหตุการณ์ที่รั้ววัดพระแก้ว วันที่ 28 มี.ค.66 โดยน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองตั้งใจเดินทางมาให้กำลังใจเพื่อนนักข่าวที่ถูกจับกุม และพึ่งมาทราบว่า ตนเองก็กำลังจะมีหมายจับ ดังนั้น ก็จะไม่หนี ไม่กลัว หากจะจับก็มาที่ศาลอาญา ได้เลย จะรออยู่ที่นี่ พร้อมมองด้วยว่า ก่อนหน้านี้ มีการออกหมายเรียกแค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นความผิดลหุโทษ จ่ายค่าปรับก็จบ แต่วันนี้ไม่ทราบว่าจะมีการยัดข้อหาอะไรให้ตนเองบ้าง รวมถึงไม่ทราบว่าจะมีหมายจับกี่ใบ
ยันสู้ต่อ-ไม่มีใครหนุนหลัง
ส่วนประเด็นที่จะมีการเพิกถอนการประกันตัวของ 3 สน.นั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกระทันหัน ยังไม่ทันตั้งตัว แต่ยืนยันว่าจะสู้ต่อไปแน่นอน ส่วนกรณีที่มีความพยายามที่จะปลุกปั่นว่ามีคนอยู่เบื้องหลังปลุกเยาวชน ซึ่งตนเองยืนยันว่า ไม่มีใครและกลุ่มใด หรือพรรคการเมืองใด อยู่เบื้องหลังใดๆทั้งสิ้น เพราะพวกตนเองมีแต่อุดมการณ์ และออกมาด้วยใจล้วน เพื่อเป็นการตั้งคำถามในการยืนยันสิทธิและเสรีภาพ และมองว่าปัจจุบันคนไทยกำลังตกเป็นเหยื่อขบวนการไอโอจากภาครัฐที่พยายามยัดเยียดให้ ส่วนมองอย่างไรบ้างที่เหมือนมีการพยายามปลุกปั่นฝั่งขวาขึ้นมาหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ได้กังวล และไม่ได้กลัวอะไร เพราะยืนยันในจุดยืนเดิม แต่ขออย่าถอยหลังกลับไปในปี 2519
“ตะวัน”โดน2ข้อหา”แฟรงค์”4ข้อหา
ต่อมา เวลา 14.50น. มีรายงานว่าศาลอาญา ออกหมายจับนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” ใน 2 ข้อหา คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา116 ฐานยุยงปลุกปั่น ส่วนนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ “แฟรงค์” โดน 4 ข้อหา คือ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ฐานยงปลุกปั่น , ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร และข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งสองขึ้นรถยนต์ไปดำเนินคดีที่ สน.ดินแดง ต่อไป
“บิ๊กโจ๊ก”ชี้“ตะวัน”สุดอันตราย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้ออกคำสั่งด่วนที่สุดถึง ผบช.น.แจ้งพฤติการณ์ของน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ กรณีขวางขบวนเสด็จ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ โดยพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงที่สามารถขยายตัวจนส่งผลกระทบเป็นวงกว้างได้ ดังนั้นให้ บช.น.ดำเนินการดังนี้ 1.กำกับ ติดตามและเร่งรัดดำเนินการในทุกข้อหาความผิด รวมทั้งให้พิจารณาพฤติการณ์ก่อนการกระทำผิด ขณะกระทำผิดและหลังจากกระทำความผิดว่า มีการยุยงปลุกปั่นด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนและให้ผู้อื่นล่วงละเมิดกฎหมาย ที่จะเข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกำหมายอาญา ม.116 ด้วยหรือไม่ 2.กำหนดแนวทางในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้งและแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักรความสงบของสังคมเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พฤติการณ์ที่นางสาวตะวัน บีบแตรไล่รถขบวนเสด็จ และนำไปโพสต์ เป็นการกระทำที่ต้องการให้เกิดความเสียหายต่อสถาบัน และเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ อันมีพฤติการณ์ที่ส่อเจตนาให้ผู้อื่นกระทำตาม หรือเกิดพฤติการณ์เลียนแบบ อาจถือเป็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา116 โดยชัด อัตราโทษจำคุกไม่เกิน7ปี
“ภูมิธรรม”ขออย่าเกี่ยวโยงราชวงศ์
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สถาบันเพราะฉะนั้นในเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน ที่ผ่านมา เราก็ไม่เคยที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวและเป็นสิ่งที่ต้องให้ความเคารพนับถือ ของประชาชนคนไทยทุกคน เป็นสิ่งที่ยึดโยงจิตใจของคนไทยด้วยกัน ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น ตนคิดว่า ต้องดูตามความเป็นจริง จะบอกว่าใช้สิทธิเสรีภาพก็พูดได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ซึ่งเป็นปัญหาละเอียดอ่อนที่คนไทย ส่วนใหญ่เคารพนับถือ ยิ่งต้องใช้ความ ระมัดระวัง เรื่องที่เกิดขึ้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ข้อเท็จจริง ประเด็นไหนที่ไปละเมิดกฏหมายก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตัดสิน ตามกระบวนการยุติธรรม
ฮึ่มขบวนการหนุนหลังผิดก.ม.ร้ายแรง
“แต่ถ้าถามว่าเห็นด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่นั้น ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ใครที่จะใช้สิทธิเสรีภาพ ก็ต้องคำนึงถึง หลายๆ อย่าง การใช้สิทธิเสรีภาพของแต่ละประเทศมีขอบเขต” นายภูมิธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีกระแสข่าวมีการเมืองหนุนหลัง นายภูมิธรรม กล่าวยืนยันว่า ไม่อยากให้นำการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ และจะมีคนเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ตนก็ไม่สามารถรู้ได้ เพราะเราไม่ได้ทราบข้อเท็จจริง แต่ถ้าถามหลักการก็คือไม่ควรเข้าไปเกี่ยว ไม่ควรทำอะไรก็ตามที่เหมือนเป็นการหนุนหลัง ให้มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยไม่พึงประสงค์ และจะผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง
ภท.ลงชื่อญัตติอารักขาขบวนเสด็จ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีสส.พรรคร่วมรัฐบาลเตรียมยื่นญัตติด่วนทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ รวมถึงแนวทางป้องกันปราบปรามพฤติกรรม ข่มขู่ ท้าทาย ให้ร้ายสถาบันฯว่า ทราบมาว่าพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคภูมิใจไทยรวมถึงพรรคพลังประชารัฐร่วมกันเข้าชื่อเพื่อเสนอญัตติ เรื่องนี้ก็เป็นการแสดงความกังวลและแสดงความจงรักภักดีของสส.พรรคภูมิใจไทย คงจะมีการอภิปรายและเสนอที่เขาเห็นว่าสมควรได้ปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คิดว่ากฎหมายที่มีในปัจจุบันถ้าเราทำตามอย่างเคร่งครัดก็เพียงพอที่จะดำเนินการกับคนจาบจ้วง และละเมิดสถาบันได้
“สว.ศานิตย์”ติงก.ม.ยังมีช่องโหว่
ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา (สว.) ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระฯ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สว.หารือถึงการป้องกันการขัดขวางขบวนเสด็จฯว่า เหตุการณ์ที่กระทำต่อขบวนเสด็จของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ กลุ่มบุคคลที่ทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมีคนคอยหนุนหลัง รู้ข้อกฎหมายในการดำเนินการกับขบวนสมเด็จพระเทพฯ คนกล่าวหาตำรวจทำงานล่าช้า แต่ตำรวจทำงาน 24 ชั่วโมง แต่ไปติดขัดที่การขอหมายค้นทำไม่ได้ นางคนนี้ได้รับการแนะนำให้อยู่ในบ้าน ไม่ต้องไปไหน ตำรวจต้องมีหมายค้น เมื่อตำรวจไปขอหมายค้น แต่นางคนนี้มีหมายจับอยู่ จึงไม่ได้รับอนุมัติหมายค้นไปค้นบ้าน เพื่อจับกุม ไม่ตำหนิศาลอาญาธนบุรี แต่พูดในหลักการว่า ตำรวจไปขอแล้วแต่ไม่ได้ ยังมีกระบวนการติดขัดอยู่พอสมควร
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ขอฝากถึงนายกรัฐมนตรี รัฐบาลว่า จะมีมาตรการป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้หรือไม่ ไม่ใช่วัวหายล้อมคอก การที่ตำรวจจะทำงานได้ต้องมีเครื่องมือ แต่กฎหมายที่มีอยู่ทั้งประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย มีช่องว่างหรือไม่ เพราะไอ้พวกนี้แสนรู้เลยเลี่ยง การเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้ครอบคลุมถึงพระบรมราชวงศ์ หรือผู้ปฏิบัติราชการแทนพระองค์ จึงอยากให้เพิ่มเติมเข้าไปด้วยว่า ตำรวจพยายามสอบว่าเข้าข่ายมาตรา 112หรือไม่ แต่นักกฎหมายหลายคนบอกว่าไม่เข้า เพราะต้องเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เท่านั้น ดังนั้นจะต้องมีเครื่องมือป้องกัน ปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก กฎหมายมีช่องโหว่ตรงไหนก็ต้องไปแก้ไข” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
สว.ถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระเทพฯ
เวลา 10.00 น. ที่บริเวณหน้าห้องประชุมวุฒิสภา ชั้น2 รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นำสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมด้วยข้าราชการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จัดกิจกรรมสวมใส่เสื้อผ้าสีม่วง รวมตัวแสดงพลังในการปกป้องและถวายกำลังใจแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี สืบเนื่องจากเหตุการณ์บีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ ของกลุ่มทะลุวัง เมื่อวันที่ 4ก.พ.ที่ผ่านมา โดย นายพรเพชรได้เปิดกรวยดอกไม้สักการะหน้าพระรูปโดยมีใจความสรุปว่า ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทรงทราบฝ่าละอองพระบาทข้าพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้า พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา ได้มาพร้อมกัน ณ ที่นี้ ก็ด้วยเหตุที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระผู้ทรงบำเพ็ญพระองค์ ให้เป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองอเนกอนันต์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ แม้จะทรงมีพระชนมายุมากขึ้น และพระพลานามัยไม่แข็งแรง ก็ยังทรงทุ่มเทและทรงงานหนักอย่างต่อเนื่อง
นายพรเพชร กล่าวว่า ด้วยพระจริยวัตรอันงดงาม สมเป็นขัตติยนารีแห่งแผ่นดิน ทำให้ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงสถิตอยู่ในใจของพสกนิกรชาวไทยทุกคนตลอดมาด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ปวงข้าพระพุทธเจ้า รู้สึกซาบซึ้งในพระเมตตา พระวิริยะอุตสาหะ และความเสียสละของสถาบันพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน สมาชิกวุฒิสภาจึงร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล และขอเจริญรอยตามเบื้องพระบาท โดยตั้งใจมั่นที่จะสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และขอน้อมจิตตั้งสัตยาธิษฐานว่าจะบำเพ็ญคุณความดีในทุก ๆ ด้านเพื่อทดแทนบุญคุณของแผ่นดินและจะสนองพระมหากรุณาธิคุณตลอดไป
“ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและพลานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล โปรดบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองพระบาททรงเจริญพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพาธและภัยพาลทั้งปวง ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอให้สัมฤทธิ์ผล และทรงสถิตเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้า ตราบนิรันดร์กาล เทอญด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี