‘นายกฯ’ร่วมพิธีมอบหนังสืออนุญาตใช้ที่ดินฯ ก่อนชมวิววัดถ้ำผาแด่น หนุนท่องเที่ยวเชิงศาสนา ฝากเรื่องสันติภาพหน้าที่ทุกคนต้องรักษา ขอช่วยกันต่อยอดโครงการพระราชดำริ สนับสนุนไก่ดำ-โคขุน ช่วยสร้างรายได้-เพิ่มจีดีพีสกลนคร
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม เดินทางถึงวัดถ้ำผาแด่น ต.ดงมะไฟ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร โดยนายกฯ ร่วมพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภค และกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดิน และพูดคุยประเด็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของ จ.สกลนคร ให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงศาสนา
โดยเมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงศาลาอุดมสมบูรณ์ ได้กราบสักการะหลวงพ่ออุดมสมบูณ์ พระประธานองค์ลอยในพระอุโบสถวัดถ้ำผาแดน ก่อนที่นายกฯ จะกราบนมัสการพระครูปลัดอุดมวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาแด่น จากนั้นนายกฯ มอบหมายนางพวงเพชร ถวายหนังสืออนุญาต ให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภค และกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินให้กับพระสงฆ์ จ.สกลนคร จำนวน 10 วัด
จากนั้นนายกฯ เดินไปยัง จุดชมวิววัดผาแด่นซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาภูพานพื้นที่ของการสู้รบในอดีต โดยนายกฯ กล่าวว่า เทือกเขาภูพานเมื่อสมัยก่อนเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสันติภาพ มีการสู้รบสงครามคอมมิวนิสต์มาตลอด แต่วันนี้ผ่านไปกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งสันติภาพเป็นเรื่องที่เราอยู่กับมันมา และเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ได้ และทำให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องความไม่ปลอดภัย
นายกฯ กล่าวอีกว่า ก็อยากจะฝากไว้ว่าเรื่องสันติภาพ เป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องรักษาไว้ เพื่อความสมัครสมานสามัคคี ถ้าเราไม่อยากกลับไปสู่จุดนั้นอีก ทั้งนี้ วันนี้ที่นางพวงเพชร ได้ถวายหนังสืออนุญาต ให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดิน มอบที่ดินให้กับพระพุทธศาสนาถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะชาวไทยทุกคนมีความเชื่อในพระพุทธศาสนา อยากให้เป็นศูนย์กลางในการหล่อหลอมจิตใจให้มีความรัก ความสามัคคีกลับมาสู่สันติภาพที่ยังยืน ซึ่งเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องรักษาสันติภาพไว้ ก็ขอพึ่งใบบุญพระพุทธศาสนาในเรื่องนี้ด้วย
ต่อมานายกฯ โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า "สกลนคร ควรเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาของประเทศไทย เดินทางมา จ.สกลนครครั้งนี้ ทำให้ผมได้เห็นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดด้วยตาตัวเองครับ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงศาสนา เช่น วัดถ้ำภูผาแด่นนี้ ที่นี่บรรยากาศดี มองลงไปข้างล่างเห็นวิวเมืองสกลนครที่สวยงาม เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน ทำให้ผู้คนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเดินทางขึ้นมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก
นายกฯ ระบุว่า ขอให้จังหวัดสกลนคร กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ตนยังคาดหวังให้การยกระดับการท่องเที่ยวเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การทำนุบำรุงศาสนสถาน แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง และมีการเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย"
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายกฯและคณะเยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบในการแก้ไขปัญหาคุณภาพดิน การจัดการแหล่งน้ำของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่อาคารสัมมนา 1 ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร และชมนิทรรศการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งนี้นายกฯ ยังได้ถ่ายภาพกราฟฟิตี้หรือการขีดเขียนภาพลงบนผนังเป็นที่ระลึก
นายกฯ กล่าวระหว่างเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้าของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน โดยฝากเครือเซ็นทรัลหากเป็นไปได้ให้นำสินค้าไปต่อยอดนำสินค้าไปวางขายที่ต่างประเทศ อย่ามัวแต่รอขอให้เร่งรีบ เพราะตอนนี้เป็นช่วงของประเทศไทย และประเทศไทยเปิดแล้ว ขอให้ช่วยกันต่อยอดโครงการพระราชดำริ ที่ผลิตโดยพี่น้องประชาชนคนไทยเพื่อเชิดหน้าชูตา ผู้ประกอบการก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ นายกฯ ได้เยี่ยมชมสินค้าการเกษตรของพี่น้องเกษตรกรในโครงการ โดยเห็นว่าผักเคลที่นำมาแปรรูปมีประโยชน์ เป็น Superfood ที่ฝรั่งชอบมาก รับประทานแล้วมีประโยชน์ น่าจะตรงกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ แต่เบื้องต้นอยากให้นำไปวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตของไทยก่อนอย่างเช่น ท็อปซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมกันนี้นายกฯ ได้ให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกรที่ช่วยกันปลูกผักเคล
จากนั้นนายกฯ นั่งรถราง เพื่อมาเป็นประธานการประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของ จ.สกลนคร
โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า จากรายงาน 80% ของรายได้มาจากการเกษตร และสกลนครเป็นจังหวัดที่มีจีดีพีต่ำเป็นอันดับ 15 ของประเทศ ทั้งนี้ การเกษตรเป็นเรื่องการบริหารจัดการเรื่องน้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และมากที่สุดคือเรื่องน้ำ ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยจะต้องยกระดับศักยภาพระบบชลประทานของจ.สกลนคร ให้ครอบคลุมทั่วถึง และสามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี โดยที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ดูแลเรื่องการบริหารจัดการเพื่อการเกษตร และให้ใช้พื้นที่ อ.หนองหานให้เต็มศักยภาพ ให้กรมชลประทานปล่อยน้ำให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดปี และปรับเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวเข้าไปด้วยในเชิงศาสนา
นายกฯ กล่าวว่า เมื่อมีการตกลงเรื่องการคืนพื้นที่แล้ว อย่าให้มีปัญหาเรื่องแนวเขต โดยขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการก่อสร้างถนนทางหลวงหมาย 22 ให้เสร็จ และควบคุมการก่อสร้างเกิดความปลอดภัยให้กับประชาชน เนื่องจากมีความสำคัญในการเชื่อมโยงขนส่งระหว่างสะพานมิตรภาพที่จะเปิดขึ้นในปีนี้ ที่ จ.บึงกาฬ ไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ
นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของโคขุน ซึ่งมีการพูดคุยกันเยอะ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะตลาดโลกมีความต้องการมาก โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งในอดีตเรามีปัญหาว่าโคที่เราส่งไปขายที่เมืองจีนต้องไปพักตรวจโรคที่ประเทศลาว ซึ่งขณะนี้กระทรวงต่างประเทศได้มีการเจรจา และสามารถสร้างด่านกักกันที่นี่ ได้ตรวจ และส่งจากที่นี่ไปได้ ทำให้การส่งออกไปยังประเทศจีนสามารถส่งออกไปได้ แต่ตนไม่อยากให้ดูแค่จีนอย่างเดียว ทั้งนี่ โรงเชือดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ จ.ชุมพร ประมาณ 200 ตัวต่อวัน ซึ่งได้มีการทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมพัฒนาให้มีการเชือดได้วันละ 1,000 ตัว ซึ่งการส่งไปขายเป็นตัวได้มูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยตนดูโครงการพระราชดำริแล้วมีความเชื่อในความสามารถของเกษตรกรไทยที่สามารถเลี้ยงวัวได้ และมีคุณภาพเทียบเท่ากับประเทศญี่ปุ่น
นายกฯ กล่าวอีกว่า การยกระดับจีดีพีของ จ.สกลนคร ไม่เพียงแต่โครงการพระราชดำริเรื่องของไก่ดำ ซึ่งตัวหนึ่งมีราคามากกว่าไก่ธรรมดา และมีความเชื่อว่าบำรุงสุขภาพได้ดีมีตลาดเยอะ จึงขอขอบคุณโครงการพระราชดำริที่ช่วยเป็นแหล่งเพาะบ่มความรู้และขยายให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแพะและกระต่ายอีก ตรงนี้หวังว่าจะมีการต่อยอดได้อีกมากมาย
สุดท้ายนี้ จ.สกลนคร มีผลิตภัณฑ์ที่ดีมากจากคราม ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากการเกษตร ซึ่งเราเอง ภาคประชาชนหรือเกษตรกรยังไม่สามารถทำได้คนเดียว ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยเอกชนหลายรายมีความแข็งแกร่งมากอย่างเช่นเซ็นทรัลกรุ๊ปเป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก ตนถือโอกาสขอร้องทางเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงที่มาในวันนี้ว่า ถ้าเกิดเป็นไปได้อยากให้ช่วยสนับสนุนพี่น้องชาวสกลนครด้วย นำสินค้าต่างๆ ไปขายในท็อปซูเปอร์มาร์เก็ต และหาช่องทางไปขายที่ต่างประเทศ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับพี่น้องชาวเกษตรกร และเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศไทยด้วย
---017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี