‘ฮุนเซน’เยี่ยม‘ทักษิณ’ถึงจันทร์ส่องหล้า
ปลื้ม-มิตรภาพ 32 ปี
โชว์หวานประคองถ่ายรูปคู่
ปัดหารือเรื่องทางการเมือง
คปท.ยื่นปปช.ฟันรมว.ยธ.
‘จุรินทร์’ซัดตราบาปติดตัว
“สมเด็จฮุนเซน” บินลัดฟ้า เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเยี่ยม“ทักษิณ”ผู้ป่วยขั้นวิกฤต หลังพักโทษ บอกไม่ได้คุยในเรื่องการเมือง แค่ทบทวนความทรงจำ 32 ปี แห่งมิตรภาพ พร้อมเชิญ “อุ๊งอิ๊ง” เยือนกัมพูชา 14-15 มีนาคมนี้ ขณะที่“หมอตุลย์-คปท.”ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด“รมว.ยุติธรรม”พร้อมพวก ปมเอื้อประโยชน์“นักโทษเทวดา”มิชอบ จี้เร่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนด่วน“จุรินทร์”ตามอัดซัด“แม้ว” มีตราบาป
ติดตัว จุดซ้ำเติมความเสื่อมรัฐบาล‘เศรษฐา’
เมื่อเช้าวันที่ 21 กุมภาพันธ์2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 เขตบางพลัด กรุงเทพฯสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ เดินทางมารอรายงานข่าวสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน หรือสมเด็จฮุนเซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชาที่จะเดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับการพักโทษและพักอาศัยอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า .
โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ กทม.มากวาดทำความสะอาดบริเวณถนนในซอย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจาก สน.บางพลัด มาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลความเรียบร้อย บริเวนหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ขณะที่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้ามีรถเข้าออกเป็นระยะ ๆ โดยทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร.สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาดูแลความเรียบร้อย อำนวยความสะดวกอยู่รอบนอก
ด้านสมเด็จฮุน เซน ในเวลา 09.50 น. ด้โพสต์ภาพเฟซบุ๊กขณะกำลังนั่งบนเครื่องบินส่วนตัว พร้อมข้อความภาษากัมพูชาที่ระบุว่า กำลังเดินทางมากรุงเทพเพื่อเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร
“ฮุน เซน”ถึงจันทร์ส่องหล้า
เวลา 10. 51 น.สมเด็จฮุนเซน เดินทางมาถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า โดยรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ มายบัค ป้ายแดง สีเทาดำ ทะเบียน ร 3355 เพื่อเข้าเยี่ยมนายทักษิณ มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางมาโดยรถเมอร์เซเดสเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขจ 995 มารอรับสมเด็จฮุนเซน ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าล่วงหน้าโดยมีรายงานว่าได้รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน
ต่อมา สมเด็จฮุนเซน เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองกลับกัมพูชาหลังแล้วเสร็จการเยี่ยมนายทักษิณ โดยใช้เวลาเยี่ยมประมาณ 2.50 ชั่วโมง
โพสต์ทบทวนความทรงจำ32ปี
สมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia พร้อมรูปถ่ายกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังเข้าเยี่ยมที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ว่า
“ฉันมาเยี่ยมท่านทักษิณที่บ้านในเมืองกรุงเทพฯ แม้ท่านจะเจ็บป่วยแต่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นแบบพี่น้อง โดยมีอุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนเล็กและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยร่วมให้การต้อนรับด้วย และเพื่อเสริมสร้างมิตรภาพอันดี ฉันได้ชวนอุ๊งอิ๊ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาเยือนประเทศกัมพูชา ในวันที่ 14 - 15 มี.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 อดีตนายกฯ ได้พบกัน ไม่มีการคุยกันเรื่องการเมือง แต่ระลึกถึง 32 ปีแห่งมิตรภาพของเรา 2 คนตั้งแต่ปี 1992 ขอบคุณพี่ชายและหลานสาวฉันที่ให้การต้อนรับในวันนี้”
เปิดภาพ‘แม้ว-ฮุนเซน’
ขณะเดียวกัน มีการเผยภาพระหว่างสมเด็จฮุนเซ็นกับนายทักษิณ ในภาพสมเด็จฮุนเซน มีการประคองแขนนายทักษิณด้วย ซึ่งนายทักษิณ ยังคงสวมใส่เฝือกอ่อนที่คอจากโรคกระดูกคอเสื่อม และยังคงมีการใช้ที่คล้องแขนจากอาการเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย อย่างไรก็ตาม ในภาพ มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมถ่ายภาพด้วย
ประเด็นดังกล่าวนายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา นายทักษิณเมื่อก่อนนี้ท่านจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็เคยมาเยี่ยมเยียน ดังนั้น ความสัมพันธ์ที่มีอยู่และเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่รู้สึกดีต่อกัน ก็ธรรมดาที่เห็นว่าเพื่อนมีความป่วยไข้ ก็เหมือนเรามีเพื่อนป่วยไข้ก็รู้สึกอยากไปเยี่ยม ซึ่งท่านสมเด็จฮุน เซน กับท่านทักษิณ ก็เหมือนเป็นเพื่อนกันในทางนานาชาติ ก็เป็นประเทศที่เคยทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่มาเยี่ยมเยียน ก็ยิ่งชัดเจนเลยว่าเพราะรู้ว่าป่วยจึงมาเยี่ยม
“สำหรับว่าจะมีแขกอื่นๆ เข้ามาเยี่ยมเยียนอีกหรือไม่นั้น เราไม่ใช่ผู้มา เพราะฉะนั้นจึงคาดเดาไม่ได้ ก็จะต้องถามว่าท่านใดมีความสัมพันธ์ส่วนตัวอย่างไร รู้สึกมีความเป็นห่วงเป็นใยอย่างไร และก็เหมาะสมกับเวลาที่ท่านมีพอสมควรก็จะเกิดขึ้นได้ ก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียส และเป็นเรื่องนานาจิตตัง” นายภูมิธรรมกล่าวและระบุจะหาเวลาว่างโทรไปหานายทักษิณ
‘เสื้อแดง’หมดศรัทธา
ก่อนหนานี้ เวลา 09.45น. ป้าแหม่ม อดีตคนเสื้อแดง เดินทางมาที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่นายทักษิณ ชินวัตร พักอาศัยอยู่หลัง ได้รับการพักโทษ โดยป้าแหม่มกล่าวว่า วันนี้มาทำให้นายทักษิณ รู้ว่า ที่ผ่านมานายทักษิณหักหลังประชาชน นายทักษิณรักแต่ตัวเองและครอบครัว ก่อนนี้ ตนรักบูชาศรัทธา อดีตนายกฯทักษิณมาก ใครว่าครอบครัวชินวัตรไม่ได้เลย แต่วันนี้หมดความศรัทธานายกฯทักษิณแล้ว ส่วนที่ยนายกฯทักษิณป่วย ตนไม่เชื่อเป็นการสร้างภาพเล่นละคร เพราะวันที่กลับมาประเทศไทย ลงจากเครื่องบินก็ดูแข็งแรงดี แต่เอาเข้าโรงบาล สร้างภาพ ตนหมดศรัทธาป้าไม่ถึงกับเกลียด ถามว่ายังรักอยู่ไหม บอกเลยว่าไม่รักและความศรัทธาไม่มีแล้ว
ขณะที่นางนภัสสร บุญรีย์ (ป้านก) อายุ 60 อดีตคนเสื้อแดง นำภาพถ่ายกับนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2551 ตึกชินวัตร 3 มาด้วย พร้อมกล่าวว่าก่อนนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ตนจึงมาช่วย มีอะไรก็มาช่วยทุกครั้ง ขาดงานมาช่วยจนถูกไล่ออกจากงาน ก่อนนี้ใครมาด่าทักษิณ ป้าไม่ยอม แต่ตอนนี้ หมดศรัทธากับพรรคเพื่อไทยแล้ว และจะไม่กลับมาเป็นคนเสื้อแดงอีกแล้ว รักพรรคก้าวไกลแล้วเพราะเคมีตรงกัน ตอนนี้พรรคก้าวไกลก็เหมือนกับพรรคเพื่อไทยตอนนั้นที่โดนกระทำ
ส่วนที่เดินทางมาวันนี้ก็อยากจะมาร้องขอความเป็นธรรมจากสมเด็จฮุนเซน ให้กับ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองซึ่งถูกอุ้มหายไปที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพราะขณะนี้เรื่องเงียบหายไปจึงอยากมาร้องขอความคืบหน้าเพราะสงสารเจนพี่สาวของนายวันเฉลิม
และเวลา 10.15 น.กลุ่มคนเสื้อแดงย่านบางพลัด ประมาณ 10 คน เดินทางมาให้กำลังในนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า โดยทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจมากที่อดีตนายกฯทักษิณกลับมาอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าอีกครั้ง
ยื่นสอบรมว.ยุติธรรม
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อดีตแกนนำเสื้อหลากสี และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประ เทศไทย (คปท.) นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรมพร้อมคณะ เข้ายื่นคำร้องต่อป.ป.ช.ผ่านนายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.ขอให้ตรวจสอบ รมว.ยุติ ธรรมและพวก ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักการลงโทษไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และเร่งรัดให้มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนโดยให้ป.ป.ช.เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวของนายทักษิณมาสอบสวนเพิ่มเติม
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า การพิจารณาพักโทษนายทักษิณ โดยอ้างว่าเพราะมีอายุ 70 ปี ถ้าเป็นกรณีพิเศษคือต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ภาพที่คนทั้งประเทศเห็นนายทักษิณ ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนกรณีอ้างโรคร้ายแรงก็ต้องเป็นระดับโรคเอดส์ ไตวายเรื้อรังต้องมีการฟอก ไม่ใช่โรคอะไรก็ได้ ที่สำคัญต้องติดเตียง แต่ 2 วันที่ผ่านมาคนทั้งประเทศก็เห็นว่านายทักษิณ เป็นอย่างไร จึงมองว่าเป็นเรื่องที่คาใจคนทั้งประเทศที่รักความเป็นธรรม
“ที่อยู่โรงพยาบาลมาตั้งแต่ก.ย.66 แล้วมีการปกปิดข้อมูล แต่มาถึงวันนี้ที่เราเห็นภาพของนายทักษิณ มันเหมือนกับเป็นการแฉตัวเองว่าแท้จริงเป็นอย่างไร ฉะนั้น คณะกรรมการของป.ป.ช.น่าจะทำงานง่าย ซึ่งเราก็ได้เตรียมเอกสารของกรมราชทัณฑ์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะเอามาเทียบเคียงว่าแล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ความจริงก็จะได้ปรากฏต่อคนทั้งประเทศ”นพ.ตุลย์ ระบุ
นายพิชิตย้ำว่าได้ยื่นเรื่องขอให้ป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.66 ซึ่งในวันที่ 27 มี.ค.นี้จะครบกรอบเวลา 180 วันตามที่กฎหมายกำหนดให้ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นจึงต้องการมาเร่งรัดเพราะจากการให้สัมภาษณ์ของบุคคลต่างๆ และภาพนายทักษิณที่ปรากฎวันนี้ชัดเจนว่าไมได้ป่วยตามที่มีการกล่าวอ้าง
ปปช.กำลังรวบรวมหลักฐาน
ด้านนายศรชัย กล่าวว่า ระยะเวลาตามระเบียบกฎหมายกำหนด เป็นกรอบเบื้องต้นที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานภายใน 180 วัน แต่หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จก็สามารถขยายเวลาในแต่ละขั้นตอนได้ หลังป.ป.ช.รับเรื่องนี้ในช่วงเดือนก.ย. 66 เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งเฉย อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ณ วันนี้มีการขอเอกสาร หลักฐาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ร.พ.ตำรวจ รวมถึงเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่การทำงานของป.ป.ช.
มีขั้นตอนกระบวนการอยู่ เมื่อรับเรื่องแล้วก็ต้องตรวจดูพยานหลักฐาน ไปหาพยานหลักฐานว่าจะตั้งไต่สวนได้เมื่อไร ยืนยันว่าถ้าข้อเท็จจริงพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมและมีมูลความผิดก็จะมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป
สมชัยหนุนกระบวนการสอบสวน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ระบุว่า...คำแถลงของคุณดนุพรโฆษกพรรคเพื่อไทย ควรใช้เป็นต้นเรื่องเพื่อสอบ ราชทัณฑ์และ รพ. ตำรวจ จนถึง รมว.ยุติธรรมได้ โฆษกเพื่อไทย ได้ตั้งโต๊ะแถลงอาการป่วยคุณทักษิณ โดยอ้างว่าได้มาจากการสอบถามไปยังคุณอุ๊งอิ๊ง ที่เป็นหัวหน้าพรรค ดังนั้นข้อมูลที่แถลงจึงควรเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้มากที่สุด โดยสรุปอาการป่วยคุณทักษิณคือ 1. เคยเป็นโควิด 3 รอบ ปัจจุบันยังมีอาการเป็นลองโควิด และสภาพปอดไม่อยู่ในภาวะปกติ 100% เหมือนคนทั่วไป 2. กระดูกคอเสื่อม ตามวัย มีการทำ MRI. แล้ว แต่ยังรอรักษา 3. เส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ตามวัย ผ่าตัดแล้วในช่วงอยู่ รพ. ตำรวจ ต้องกายภาพต่อ 1 ปี
คำถามที่ต้องถามคือ อาการป่วยเหล่านี้ คือ อาการป่วยวิกฤต ที่ไม่สามารถรักษาได้ในโรงพยาบาลของเรือนจำ และจำเป็นต้องพักรักษาตัวถึง 180 วันในห้องวีไอพี รพ.ตำรวจ โดยอ้างว่า มิเช่นนั้นจะเกิดอันตรายถึงชีวิตหรือไม่ การสอบสวนจะเป็นการชี้ว่ามี จนท.รัฐใด ที่ใช้วินิจฉัยโดยไม่ชอบนำไปสู่การประพฤติมิชอบในตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตั้งแต่ราชทัณฑ์ รพ.ตำรวจ ไปถึง รมว.ยุติธรรม ที่กำกับดูแล ขอบคุณ โฆษกพรรค ที่ออกมาชี้แจงให้สังคมได้ทราบ
จับโป๊ะ‘ปลอกคอ-สลิงแขน’
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “พรรคเพื่อไทยยิ่งแถลงยิ่งเข้าเนื้อ” ระบุว่า...พรรคเพื่อไทยยิ่งแถลงยิ่งเข้าเนื้อ การที่พรรคเพื่อไทยออกมาแถลง อาการตามภาพคือการใส่ปลอกคออ่อนและสลิงยึดแขนของนายทักษิณ การใส่ปลอกคออ่อนอ้างว่า เป็นกระดูกคอเสื่อม คำถามที่ต้องถามกลับ มันเกี่ยวกับป่วยหนักตรงไหน ส่วนสลิงยึดแขน อ้างว่าเส้นเอ็นเปื่อย (ต้องบอกก่อนว่าโรคนี้ไม่มี มีแต่เอ็นอักเสบหรือพังผืดยึดเอ็น) และบอกว่าได้ผ่าตัดแล้ว สิ่งที่ต้องถามคำถามเดิม เอ็นเปื่อยที่แถลงมา มันวิกฤติตรงไหน ที่สำคัญมีการผ่าตัดได้ตอนอยู่โรงพยาบาลตำรวจ แสดงว่าสภาพร่างกายต้องดี ไม่ได้วิกฤตติดเตียง ต้องนอนโรงพยาบาลตำรวจถึง180วัน สรุปแล้วยิ่งแถลงยิ่งประจานตัวเอง สิ่งที่นำมาใส่ของนายทักษิณ มันไม่ต่างจากการเล่นละครตบตา เพราะสี่โรคหลักหายไปไหน ทางที่ดียอมรับมาตรงๆว่าใช้อภิสิทธิ์ ไม่ต้องมาชี้แจงอีกแล้ว เพราะการโกหกยิ่งแถลงจะยิ่งเข้าเนื้อ
สับ‘แม้ว’มีตราปาบติดตัวรบ.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ว่ากรณีนักโทษเทวดาจะกลายเป็นจุดซ้ำเติมความเสื่อมของรัฐบาล ผสมกับการที่ไม่มีผลงานที่จับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอันอยู่แล้วยิ่งเมื่อเกิดกรณีนักโทษเทวดาขึ้นซึ่งคนไทยรู้ดีว่านักโทษเทวดาจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้ารัฐบาลไม่รู้เห็นเป็นใจ ตั้งแต่ระดับนายกฯไปจนถึงเจ้าหน้าที่
“จึงมีคำถามว่ามาถึงวันนี้ว่า นักโทษเทวดาได้ประโยชน์สมใจแล้วแต่ประชาชนได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันจากรัฐบาลหรือยัง ที่เลวร้ายที่สุดกรณีนักโทษเทวดาคือการส่งสัญญาณจากรัฐบาลสู่ประชาชน ทำให้คนเข้าใจว่าโกงแล้วได้ดี ซึ่งจะเป็นตราบาปติดตัวรัฐบาลชุดนี้ หรือ รัฐบาลเศรษฐาตลอดไป” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวว่าสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ได้มีมติให้เสนอพ.ร.บ.แก้ไขพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ปี 2560 ให้การลดโทษ การพักโทษจะต้องผ่านคณะกรรมการอิสระและศาล ไม่ใช่แค่เป็นอำนาจของคณะกรรมการราชทัณฑ์ ภายในกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมมีความเข้มแข็งขึ้นและให้การบังคับตามคำพิพากษามีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นตามเจตนารมณ์ของกระบวนการยุติธรรม
ส่วนที่มีคำถามเรื่องการที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ว่าจะมีนายก 2 คน หลังนายทักษิณได้รับการพักโทษ นายจุรินทร์กล่าวว่า มันมี 2 คนมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลแล้ว ที่สำคัญระวังอย่าให้มี 3 คน จนเกินหน้าเขมรก็แล้วกัน
ปชป.ไม่ขัดแย้งกับใคร
ขณะเดียวกัน นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการเข้าชื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวน 20 รายชื่อ เพื่อยื่นขอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560
โดยนายพิทักษ์เดช กล่าวว่า ยืนยันว่าการยื่นร่างดังกล่าวไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร แต่เมื่อกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นปลายทางของกระบวนการยุติธรรม ใช้อำนาจในลักษณะที่ทำให้เกิดความสงสัย กับสังคม ขัดกับหลักบ้านเมือง หลักนิติรัฐนิติธรรม จึงจำเป็นต้องยื่นขอแก้ไขพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้มีการถ่วงดุลอำนาจมากยิ่งขึ้น โดยที่สภาฯ ชุดที่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์เคยยื่นเสนอแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มาแล้ว แต่เมื่อสภาฯ หมดวาระไป จึงทำให้เรื่องตกไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี