14-16มี.ค./นั่งเครื่องบินส่วนตัวปิ๊กบ้าน

‘แม้ว’กลับเชียงใหม่

พบญาติกราบไหว้บรรพบุรุษ

เสื้อแดงจัดพิธีทำบุญสืบชะตา

‘ภูมิธรรม’เห็นใจ/อย่าคิดมาก

ธรรมชาติคนจากบ้านไปนาน

เปิดโปรแกรม “ทักษิณ ชินวัตร”นั่งเครื่องบินส่วนตัวเยือนเชียงใหม่พบญาติกราบไหว้บรรพบุรุษ“14-16 มีนาคม ด้าน“ภูมิธรรม” เห็นใจ ชี้ธรรมชาติของมนุษย์จากบ้านไปหลายสิบปี อย่าไปคิดเยอะ โยงการเมืองให้ปวดหัว“เทพไท”ปลุกคนไทยเฝ้าระวัง‘ยิ่งลักษณ์’กลับมาอย่าให้ยุติธรรมไทยถูกย่ำยีครั้งที่2

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7มีนาคม2567 ถึงความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการพักโทษ ภายหลังที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยถึงอาการป่วยของพ่อว่าอาการดีขึ้นและมีความสุขหลังจากที่ได้อยู่กับครอบครัวโดยเฉพาะได้เล่นกับหลานๆ และอยากเดินทางไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุด มีรายงานเบื้องต้น ว่า นายทักษิณ มีกำหนดเบื้องต้นที่จะเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 14มี.ค.นี้ โดยมีกำหนดการคร่าวๆ หลังจากที่ช่วงเช้าของวันที่ 14 มี.ค. นายทักษิณ เข้าสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครแล้ว จะเดินทางต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่ทันทีด้วยเครื่องบินส่วนตัว และเข้าพักที่บ้านพักในสนามกอล์ฟ ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ ต.แม่สา อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

จากนั้นในช่วงเย็นวันเดียวกัน บรรดาลูกๆและหลานๆจะตามมาสมทบที่จังหวัดเชียงใหม่ และในช่วงเช้า ของวันที่ 15 มี.ค. โดยนายทักษิณ และครอบครัวจะเดินทางไปทำบุญและเคารพสถูปบรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีกู่พ่อเลิศ ชินวัตร และนางยินดี ชินวัตรมารดา กู่พี่สาวและพี่ชาย พร้อมญาติผู้ใหญ่ในตระกูลชินวัตรที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการเดินทางกลับบ้านเกิดของนายทักษิณ ที่ต้องลี้ภัยในต่างประเทศ ก่อนที่จะกลับมาพักผ่อนที่บ้านพักในสนามกอล์ฟ ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ คาดว่าจะมีบรรดาญาติพี่น้องและบุคคลใกล้ชิดจะเข้าพบ ทั้งนี้นายทักษิณ และครอบครัวจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในวันที่ 16 มี.ค.

เศรษฐาไปเชียงใหม่15มีค.

อย่างไรก็ตาม สำหรับภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีกำหนดเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเย็นวันที่ 15 มี.ค.เช่นกัน โดยมีภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 16-17 มี.ค. ก่อนจะลงพื้นที่พร้อมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่จังหวัดพะเยา ระหว่างวันที่ 18-19 มี.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบล่าสุดไปยังวัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดิมมีสถูปบรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร (กู่) ซึ่งมีกู่สำคัญของพ่อเลิศ ชินวัตร บิดา และนางยินดี ชินวัตร มารดา แต่มีรายงานว่า ปัจจุบันได้มีการย้ายกู่ของพ่อเลิศ และนางยินดี มารดา ออกมาจากวัดโรงธรรมสามัคคีไปอยู่ที่บริเวณบนดอยติดกับสนามกอล์ฟ อัลไพน์ กอล์ฟ รีสอร์ท เชียงใหม่ ตำบลห้วยทราย อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่แทนแล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 3-4 กิโลเมตร คงมีอัฐิของพี่สาวของนายทักษิณอยู่ที่วัดโรงธรรมสามัคคี

เสื้อแดงเชียงใหม่จัดทำบุญสืบชะตา

นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปและวัฒนธรรม ในฐานะอดีตแกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เปิดเผยว่า ทราบกำหนดการเบื้องต้นในการเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 14 -16มีนาคมแล้ว การเตรียมต้อนรับเป็นไปตามปกติไม่มีพิธีการอะไรมาก เพราะท่านต้องการกลับมาบ้านเกิดเพื่อใช้เวลาส่วนตัวอยู่กับญาติสนิท รวมทั้งพาลูกหลานไหว้สถูปบรรจุอัฐิบรรพบุรุษที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ เตรียมจัดพิธีทำบุญสะเดาะเคราะห์สืบชะตาและบายศรีสู่ขวัญใหญ่ให้แก่อดีตนายกฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อล้านนา โดยได้ติดต่อประสานงานไปที่วัดพระธาตุดอยสุเทพแล้วแต่ยังไม่ได้กำหนดวันชัดเจน เบื้องต้นน่าจะเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคม หรือต้นเดือนเมษายน ไม่ใช่ช่วงที่อดีตนายกเดินทางกลับมาบ้านเกิดแต่อย่างใด

นายเพชรวรรต กล่าวอีกว่า แค่อดีตนายกเดินทางกลับบ้านเกิดชาวเสื้อแดงก็รู้สึกดีใจแล้ว จึงอยากให้ท่านได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและญาติสนิทอย่างเต็มที่มากที่นที่ตั้งกันอย่าสุด หลังจากไม่ได้เดินทางกลับมาเป็นเวลานานหลาย 10 ปี คนเสื้อแดงคงไม่เข้าไปวุ่นวายจะอยู่ใงสงบ และรอโอกาสที่อดีตนายกจะเดินสายไปทั่วประเทศคงได้มีโอกาสพบปะท่านอย่างเป็นทางการ

“ภูมิธรรม”บอกเห็นใจแม้ว

นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ย้อนถามสื่อเมื่อถูกถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวที่นายทักษิณ จะขออนุญาตออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ว่า “จะออกจากกรุงเทพฯ ไปทำอะไร” เมื่อผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า นายทักษิณอยากเดินทางกลับไปเยี่ยมบรรพบุรุษ นายภูมิธรรมจึงตอบว่า “อ๋อ ก็น่าเห็นใจนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ จากบ้านเมืองไปหลาย 10 ปี กลับมาก็คิดถึงพ่อแม่ แล้วจะทำอะไรได้ดีกว่าไปเยี่ยมสุสานของบรรพบุรุษ “ถามว่าถ้าเป็นท่าน ท่านอยากไปหรือไม่ ท่านก็อยากไป ถ้าไปด้วยเรื่องนี้ไม่มีปัญหาหรอกครับ ก็เป็นสิทธิ์ของมนุษย์คนหนึ่ง ที่เมื่อกลับบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองแล้ว ก็อยากใช้เวลากลับไปเยี่ยมบรรพบุรุษ เท่านั้นเอง อย่าไปคิดอะไรเยอะ”นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า นายทักษิณยังมีความนิยมอยู่ หากเดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่ ก็อาจมีประชาชนไปรอรับ จะเกิดประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ท่านมุ่งมั่นจะไปบ้านเกิดท่าน ถ้าตนไปแล้วมีคนรักตนเขาก็มาเยี่ยม ถ้ามีคนเกลียดตนเค้าก็ไม่อยากมา เป็นเรื่องธรรมดา อย่าไปคิดไกลขนาดนั้น มันปวดหัว

“บิ๊กทิน”ไม่รู้”ปู”จะกลับเมื่อไหร

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่า นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้หนีคดีอาญาแผ่นดิน จะเดินทางกลับประเทศไทยว่า ไม่รู้ ยังไม่ใช่ แต่มีคนเริ่มสร้างประเด็น เปิดประเด็นเฉยๆ ยังไม่รู้เรื่องนี้ เพราะมันมาหลายทาง ต้องฟังจากปากท่าน

เมื่อถามว่าคิดว่ายังไม่กลับใช่ตอนนี้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่เคยคุยกัน เดาใจท่านไม่ออก รู้ๆกันอยู่ประเทศไทยว่าใครไปเพราะเหตุการณ์อะไร ส่วนจะมาหรือไม่มาอีกเรื่องหนึ่ง ท่านอาจจะอยากมาหรือไม่ ตนเจอท่านแล้วจะถาม เมื่อถามว่าอยากให้กลับไหม นายสุทิน กล่าวว่า ตามใจท่าน คนไทยทุกคนเขาก็อยากกลับบ้านมา เพราะนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ก็ไม่อยากให้ใครเป็นคนทุกข์ เราเป็นชาวพุทธอยากให้มนุษย์ทุกคนมีความสุข

เทพไทชำแหละยิ่งลักษณ์

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีสิทธิ์ ขออภัยโทษ” มีเนื้อหาดังนี้ “ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีสิทธิ์ ขออภัยโทษ ผมเห็นการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่มีคุณสมบัติในการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเลย ซึ่งหลักเกณฑ์การขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นการเฉพาะราย มีดังนี้ 1.ผู้ต้องโทษที่คดีถึงที่สุดแล้ว 2.ถูกคุมขังรับโทษอยู่ในเรือนจำ 3.ยอมรับผิด และสำนึกผิดในการกระทำ 4.ถ้าอ้างเหตุเป็นผู้ป่วย มีปัญหาด้านสุขภาพ ต้องมีบันทึกความเห็นของแพทย์หรือจิตแพทย์5.สำเนาคำพิพากษาทุกชั้นศาลที่ปรากฏและรับรองสำเนาถูกต้องโดยจ่าศาล 6.เอกสารประกอบคุณงามความดีตามที่ได้อ้าง

สำหรับผู้มีสิทธิ์ยื่น คือ นักโทษ หรือผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง (เช่น บิดามารดา บุตร คู่สมรส) สามารถยื่นเรื่องราวทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษผ่านเรือนจำ ทัณฑสถาน กระทรวงยุติธรรม สำนักราชเลขาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ หรือสถานทูต ทั้งนี้ ไม่ว่าจะยื่นผ่านหน่วยงานใด ก็จะต้องส่งเรื่องให้เรือนจำ/ทัณฑสถานที่ควบคุมตัวผู้ต้องโทษ ดำเนินการสอบสวนและรวมรวมเอกสารทุกกรณี จากนั้นจะเสนอความเห็นให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมลงนาม เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล ฯ ผ่านสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักราชเลขาธิการ ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนที่นักโทษทั่วไปปฏิบัติกัน

ระวังยธ.ถูกย่ำยีรอบที่ 2

แต่ถ้าเป็นนักโทษพิเศษ ที่มีอภิสิทธิ์ชน หรือเป็นนักโทษเทวดา ก็จะมีช่องทางพิเศษ เช่น กรณีของคุณทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการให้ไม่ต้องผ่านเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ใช้เวลาเพียง 2วันเท่านั้น ส่วนตัวผมได้ขอพระราชทานอภัยโทษเช่นเดียวกัน ได้ยื่นไป ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2566 จนถึงวันนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด สำหรับกรณีของคุณยิ่งลักษณ์ ถ้าจะมีการยื่นขอพระราชทานไปโทษจริง รัฐบาลชุดนี้คงเป็นผู้ดำเนินการให้ทุกอย่างและคงใช้เวลาไม่ต่างกับกรณีของคุณทักษิณแต่อย่างใด ขอให้คนไทยทั้งประเทศเฝ้าระวัง อย่าให้กระบวนการยุติธรรมไทย ถูกย่ำยีเป็นครั้งที่2นะครับ