"สุทิน"มอบ 5 นโยบายปฏิบัติ"ศรชล."แทนนายกฯ ย้ำผลประโยชน์ของชาติทางทะเลมีหลากหลาย ขอป้องกันรักษา-เพิ่มผลประโยชน์ทางทะเลในทุกมิติ-รักษาอธิปไตย
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แทน นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.ประชุมมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของ ผอ.ศรชล.โดยมี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะ รอง.ผอ.ศรชล. พร้อมด้วยอธิบดีและผู้แทนหน่วยงานของ ศรชล.ทั้ง 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กองทัพเรือ กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ และกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้แทนจากจังหวัดชายทะเล 22 จังหวัด เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลมีลักษณะที่หลากหลาย โดยมูลค่าทางเศรษฐกิจของทะเลในประเทศไทย ประมาณ 24 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งได้รับจากกิจกรรมทางทะเล อาทิ การท่องเที่ยว พาณิชย์นาวี และการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล โดยในฐานะที่หน่วยงานนี้มีหน้าที่และอำนาจรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จึงต้องดำเนินการป้องกันรักษา และเพิ่มผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในทุกมิติ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมรักษาอำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และสิทธิหน้าที่อื่นใด อันเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.จึงได้มอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานให้กับ ศรชล.ดังนี้
1.การขับเคลื่อนการบูรณาการฐานข้อมูลความมั่นคงทางทะเล ไปสู่การเป็นหน่วยงานเฉพาะกิจร่วม ที่ขับเคลื่อนด้วยฐานข้อมูลความมั่นคงทางทะเล
2.ยกระดับความพร้อมในการค้นหา ช่วยเหลือประชาชนและผู้ประสบภัยทางทะเล ให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล ตามที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศกำหนด (International Maritime Organization : IMO)
3.พัฒนาประสิทธิภาพการช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยว ในการส่งกลับผู้เจ็บป่วยสายแพทย์ ในทะเล (MEDEVAC at Sea) ให้มีมาตรฐานสากล โดยร่วมกับทุกหน่วยงานในการส่งกลับผู้ป่วยให้รวดเร็ว ถูกต้องตามวิธีทางการแพทย์
4.การบูรณาการหน่วยงานทางทะเลและหน่วยงานความมั่นคง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล (Maritime Interdiction at Sea) ในทุกมิติ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13
5.การขับเคลื่อนสมุทราภิบาล (Maritime Good Governance) ในการสร้างความตระหนักรู้ภาคประชาชน ผู้ประกอบการ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่จังหวัดชายทะเล ชุมชน และเกาะแก่งเพื่อให้เป็นหุ้นส่วนการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ทั้งนี้ ศรชล.มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศรชล.โดยมุ่งเน้นความมั่นคงทางทะเลแบบองค์รวม จึงมีการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานหลักของ ศรชล. 7 หน่วยงาน ในการบังคับใช้กฎหมายในทะเล และให้ความคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล สำหรับผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ คือ การช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในทะเล , การส่งกลับผู้เจ็บป่วยสายแพทย์ , การบูรณาการหน่วยงานทางทะเลและหน่วยงานความมั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล , การทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง , การส่งเสริมการท่องเที่ยว , การสร้างความตระหนักรู้ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อตอบสนองภารกิจในการจัดการแก้ไขปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานของรัฐในการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี