“เดชอิศม์”ประกาศกลางสภาฯ ขอทวงคืนเอกราชทางสิ่งแวดล้อม ให้ทะเลสาบสงขลา เสนอเพิ่มโทษโรงงานลักลอบปล่อยน้ำเสีย จี้ขุดลอกร่องน้ำ“เส้นเลือดใหญ่ทะเลสาบสงขลา”ป้องน้ำท่วม 3 จังหวัด
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณารายงานผลการศึกษาการแก้ไขปัญหา และการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และลุ่มน้ำทะเลสาบอื่น ๆ อย่างยั่งยืน ของคณะกรรมาธิการการที่ดิน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ว่าเห็นด้วยกับรายงานของคณะกรรมาธิการชุดนี้ แต่เพื่อความสมบูรณ์ของรายงานฉบับนี้ จึงมีข้อสังเกต และข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับบริบท และการแก้ไขพัฒนาทะเลสาบสงขลา ซึ่งจะมองแค่ตัวทะเลสาบสงขลา อย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องมองอย่างละเอียด น้ำทุกหยดที่ไหล ลงสู่ทะเลสาบสงขลา แม่น้ำลำคลองทุกสาย เราต้องมอง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ในอดีต 30 ถึง 40 ปีที่ผ่านมา ทุกแม่แม่น้ำลำคลองที่ไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา เป็นน้ำที่สะอาด ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ไปทำนา ไม่ต้องพกน้ำไปดื่ม สามารถดื่มในแม่น้ำลำคลองได้เลย แต่มาวันนี้ มีโรงงานอุตสาหกรรม รอบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลามากมาย ไม่น้อยกว่า 200 โรงงาน มีทั้งโรงงานที่ดี และไม่ดี ซึ่งโรงงานที่ไม่ดี ก็แอบถ่ายเทน้ำเสียลงสู่คลองอู่ตะเภา ผลที่ตามมา ปลาตายตลอดทั้งคลอง ที่ร้ายกว่านั้น ก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ประชาชนนำน้ำเหล่านั้นไปทำน้ำประปา น้ำกินน้ำใช้น้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และเมื่อน้ำที่มีสารพิษเข้าสู่ร่างกายประชาชนทุกวัน พี่น้องบ้านตน ตายด้วยโรคมะเร็ง มากขึ้นทุกวัน นอกจากนี้บางคลองยังมีการลักลอบดูดทรายเถื่อน เป็นผลให้มีโคลนตม สิ่งเหล่านี้สุดท้ายก็ไปลงสู่ทะเลสาบสงขลา
จึงทำให้ทะเลสาบสงขลามีทั้งโคลนตม และสารพิษ ผลที่ตามมาคือทะเลสาบสงขลา จะตื้นเขินขึ้นเรื่อยๆ ตนเชื่อเหลือเกินว่าถ้าไม่แก้ไขในวันนี้ ทะแลสาบสงขลา จะกลายเป็นทะเลโคลน ทะเลตม สัตว์น้ำตาย และลดลง หลายชนิดจะสูญพันธุ์ เพราะสารพิษ
นอกจากนี้ รอบทะเลสาบสงขลา ซึ่งประกอบด้วย นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา จะเกิดน้ำท่วมเร็วมาก ปีละ 2 - 4 ครั้ง ดังนั้นถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องทวงคืนเอกราชทางสิ่งแวดล้อม ให้กับพี่น้องลุ่มทะเลสาบสงขลา และประชาชนคนไทย จึงขอ เสนอ 3 ทางออก คือ 1.ปรับปรุงกฎหมาย เพิ่มบทลงโทษ โรงงานอุตสาหกรรม ที่ปล่อยน้ำเสีย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับท้องถิ่น และสิ่งแวดล้อม มูลค่าไม่ต่ำกว่าครั้งละ 10 ล้านบาท แต่วันนี้อุตสาหกรรมจังหวัด ปรับแค่หลักแสนไม่คุ้มค่ากับความเสียหาย จึงขอเสนอให้ปรับอย่างน้อย 10 ล้านบาท และมีโทษทางอาญา 2.สร้างจิตสำนึกให้กับเจ้าของโรงงานและประชาชน ที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำลำคลอง ให้อนุรักษ์รักษาสิ่งแวดล้อม ส่งมอบสู่รุ่นต่อๆ ไป
และ 3.เสนอรัฐบาลขุดลอกร่องน้ำกลางทะเลสาบสงขลา ตั้งแต่หัวพญานาค ที่อำเภอเมือง ไปจนถึงทะเลน้อย ที่พัทลุง ระยะทาง 100 กม. ให้กว้าง 120 เมตร ลึก 4 เมตร และขอเรียกร่องน้ำนี้ว่า เส้นเลือดใหญ่ทะเลสาบสงขลา ไปเชื่อมกับคลองอื่นๆ ที่เป็นเส้นเลือดน้อย หลังจากนั้น ก็ขุดลอกร่องน้ำขนาดเล็ก เชื่อมคลองต่าง ๆ ที่ไหลเข้าสู่ทะเลสาบสงขลา เรียกว่าเส้นเลือดฝอย ถ้าทำได้ จะสามารถแก้ไขปัญหาทะเลสาบสงขลาได้ 3 อย่าง คือ 1.แก้ปัญหาน้ำท่วมในสามจังหวัด นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา 2.เมื่อน้ำในทะเลสาบสงขลาไหลสู่น่านน้ำสากลได้สะดวก ตะกอนดิน สารพิษ ก็จะไหลออกและทำให้น้ำสะอาดมากขึ้น ขยายพันธุ์สัตว์น้ำได้รวดเร็วขึ้น ที่สำคัญอยากให้เว้นพื้นที่อนุรักษ์ สร้างฟาร์มทะเล สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับทะเลสาบสงขลา 3.จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่ใน 10 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีมูลค่าการท่องเที่ยวกว่า 100,000 ล้านบาท และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโลก
“ทุกการเปลี่ยนแปลง ย่อมมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยและกระทบต่อชุมชน จึงต้องเชิญทุกฝ่ายมาร่วมเจรจาพูดคุยหาทางออก เพราะชุมชนท้องถิ่นถือเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ” นายเดชอิศม์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี