‘ภริยานายกฯ’ลงใต้
นำคณะคู่สมรสครม.
เยือนจังหวัดปัตตานี
ชู‘ปลอดภัย-น่าเที่ยว’
“สว.เสรี”ภาวนาให้“ครม.เศรษฐา”อยู่ถึงวันซักฟอก 25 มีนาคม ติงรบ.ให้เวลาแค่ 12 ชั่วโมง จ่อปรับลดผู้อภิปราย รับทิ้งทวนทำงานครั้งสุดท้าย คาดอาจมีแรงกระเพื่อมหลัง สว.หมดวาระ ซัดนายกฯทัวร์ตปท.ไม่เกิดผล อาจเป็นจุดเปลี่ยนนายกฯ แซะผู้นำปัจจุบันใช้จมูกคนอื่นหายใจ พุ่งเป้ายึดหลักการ’กระบวนการยุติธรรม’ถูกการเมืองแทรกแซง ด้าน‘สว.กิตติศักดิ์’เผยจัด36ขุนพลถล่ม ได้เวลาซักฟอกม.153 รวม12ชม.ชี้จองกฐินถลก‘ทักษิณ’พรึ่บ หยันบินรอบโลก แต่คว้าน้ำเหลว
เมื่อวันที่ 11มีนาคม2567 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีการเตรียมความพร้อมการอภิปรายของ สว.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา153 ว่า มีความพร้อม จากการที่เราได้ให้ สว. ได้รับทราบประเด็นและญัตติที่เราเสนอประเด็นสำคัญ เพื่อให้ สว.ได้ประชุมเกี่ยวกับการให้รัฐบาลมาชี้แจงเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน มีสมาชิกประมาณ 30ท่านที่แสดงความจำนงขออภิปราย แต่ข้อจำกัดในเรื่องของเวลาที่เราขอรัฐบาลไป 2วัน แต่รัฐบาลให้อภิปราย 12ชั่วโมง จึงทำให้ระยะเวลาที่กำหนดไว้ มีปัญหา เราจึงได้หารือร่วมกันว่า ท่านใดที่มีประเด็นเดียวกัน หรือคล้ายกัน อาจจะมอบหมายให้ท่านอื่นเป็นคนอภิปรายคนเดียวในประเด็นนั้นและมอบเวลาให้คนที่มีข้อมูลมากกว่า เพื่อให้การอภิปรายมีประโยชน์กับที่ประชุม รัฐบาลและพี่น้องประชาชน ขณะนี้มีผู้อภิปราย 33คน ซึ่งทำให้เวลาแยกย่อยมากไป แต่ก็ยังมีเวลาอยู่ ในการทำความเข้าใจและตกลงร่วมกันว่า จะทำอย่างไรให้ได้สาระมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งคงจะต้องมีการขอความร่วมมือเพื่อปรับลดจำนวนคน
สว.วอนรบ.ใจกว้างให้อภิปราย2วัน
“ถ้ารัฐบาลเห็นความสำคัญ ใจกว้างหน่อย น่าจะจัดเวลาให้สัก 2วัน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของรัฐบาล เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน จริงๆ ไม่น่าไปจำกัดอะไรกันมากมาย ได้ขอเวลาเพิ่มไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่รัฐบาลยืนยันอย่างนี้ จึงทำให้มีเวลาน้อยเกินไป ซึ่งเราได้บอกรัฐบาลว่า การที่ สว.ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเป็นเรื่องของการนำประเด็นปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินมาพูดคุยกันในสภา รัฐบาลน่าจะให้ความสำคัญ แต่รัฐบาลเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ แต่กลายเป็นให้ความสำคัญน้อย จึงทำให้รัฐบาลเสียประโยชน์ เสียโอกาส เสียความน่าเชื่อถือ’นายเสรี กล่าว เมื่อถามว่า ถือเป็นการทิ้งทวนการทำงานของ สว.ได้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ก็อาจจะบอกได้ เพราะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายแล้ว จะทิ้งทวน ทิ้งหอก ทิ้งดาบอะไรถือเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่เราพยายามทำให้ดีที่สุด ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราไม่ค่อยมีโอกาสแบบนี้ เพราะกว่าสมาชิกจะทำความเข้าใจ ก็ไม่ง่าย ถ้าเข้าใจกันง่ายๆ คงยื่นไปตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ รัฐบาลควรต้องเข้าใจ สว.เองก็ต้องเข้าใจ ไม่ใช่ยื่นอภิปราย แล้วจะกลายเป็นล้มรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องเหล่านั้นเลย
ยังไม่ใช้งบประมาณก็ถูกซักฟอกได้
เมื่อถามถึงกรณีรัฐบาลอาจอ้างได้ว่า ยังไม่ได้ใช้งบประมาณนั้น สว.จะอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องใช้งบประมาณหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องใช้งบประมาณหรือไม่ เพียงแต่มีคนในรัฐบาลเอามาอ้างว่า ที่ยังไม่ทำ เพราะไม่มีงบประมาณ มันไม่ใช่ รัฐบาลสามารถใช้งบประมาณตามกฎหมายเดิมได้อยู่แล้ว พอกฎหมายใหม่ออกมา รัฐบาลก็เอามาใช้ได้ จำนวนเงินก็จำนวนเงินเดิม เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ถ้าพูดอย่างนี้ คนไม่รู้ ไม่เข้าใจก็ไปเชื่อคนที่อ้าง เป็นคนละเรื่อง คุณไม่มีงบประมาณ แต่คุณมีกฎหมายที่จะสามารถจัดงบฯได้อยู่แล้ว“ นายเสรี กล่าว
ภาวนาให้’เศรษฐา’อยู่ถึงวันอภิปราย
เมื่อถามถึงเรื่องที่อยากพูดถึงมากที่สุด จากขอบข่ายการอภิปรายทั้ง 7ประเด็น นายเสรี มีเรื่องที่สมาชิกแสดงความจำนงไว้มากที่สุด คือ เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง ความลำบากของประชาชน ที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาด้วยการแจกเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นการแก้ผิดทาง เมื่อถามถึงการประเมินภายหลังจาก สว.หมดวาระ อาจมีแรงกระเพื่อมไปถึงขั้นเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี นายเสรี กล่าวว่า“ก็อาจถูกมองได้ การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี มีการพูดกันมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว มีนายกรัฐมนตรี 2คนบ้าง 3คนบ้าง ตนก็ยังภาวนาให้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอยู่ให้ถึงวันที่ 25มี.ค.ถ้าอยู่ก็จะได้อภิปรายกัน ถ้าเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้าวันที่ 25มี.ค.คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ต้องหมดไป การอภิปรายอาจจะสิ้นผลไป“
อยู่ด้วยจมูกคนอื่น-มีสิทธิ์ถูกเปลี่ยนตัว
นายเสรี กล่าวต่อว่า การเมืองตอนนี้กระเพื่อมอยู่ทุกวัน เพราะประเด็นปัญหาการบริหารประเทศมีเยอะ แต่รัฐบาลแก้อะไรที่เป็นรูปธรรมไม่ได้ สิ่งที่พูดมาเป็นเรื่องการชี้แจงที่สัมผัสไม่ได้ มีแต่พูดกันรายวัน แต่ไม่เห็นมีอะไรชัดเจน ที่ชัดเจนที่สุดตอนนี้คือ สถิติไปต่างประเทศ เกือบ 200วัน ซึ่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากว่า แทนที่จะเอาเวลามาบริหารประเทศ เอาเวลามาทำประโยชน์ให้ประชาชน กลับทำใหัเสียโอกาส เมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์มากๆ ความเชื่อถือก็จะเสื่อมลง เพราะไม่เห็นความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาประเทศ
”ตรงนี้ก็อาจเป็นจุดทำให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีก็ได้ แต่ต้องอยู่ที่คนที่มีกำลังในทางการเมืองเป็นคนตัดสินใจ เห็นอยู่แล้วว่า ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นคนตัดสินใจ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอยู่ด้วยจมูกของคนอื่น เพราะฉะนั้นก็ขึ้นอยู่ที่คนที่มีอำนาจจริงๆว่า จะตัดสินใจอย่างไร“นายเสรี กล่าว
ปม’แม้ว-ปู’มีแน่แทรกแซงการยุติธรรม
เมื่อถามว่า ต้องจำกัดขอบเขตไม่ให้อภิปรายถึงบุคคลภายนอกหรือไม่ เนื่องจากสมาชิกหลายคนอยากจะอภิปรายถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายเสรี กล่าวว่า การพูดเรื่องเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อคนนอกด้วยซ้ำไป เพราะหลักการคือเรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นหลักสำคัญของบ้านเมือง ถูกกระบวนการทางการเมืองเข้าไปแทรกแซง และทำให้การใช้กฎหมาย การให้ความเป็นธรรมมีหลายมาตรฐาน พูดแค่นี้ก็เข้าใจ ก็มองเห็นแล้วว่า ปัญหาของประเทศและกระบวนการยุติธรรมอยู่ตรงไหน
จัด36ขุนพลสว.อภิปรายรัฐบาลม.153
ด้าน นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา153 ว่า สมาชิกที่เข้าชื่อไว้ประมาณ 36คน มีความพร้อมมาก โดยตนจะเป็นผู้พิจารณาเวลาอภิปรายของแต่ละคน ส่วนจะอภิปรายด้วยหรือไม่นั้น ขอให้ติดตาม หากคนที่อภิปรายมีความเก่ง ตนก็ไม่จำเป็นต้องอภิปราย ในส่วนกรอบเวลาที่จะอภิปรายเป็นช่วงเวลา 09.00-24.00น.ในวันที่ 25 มี.ค. ซึ่งสว.ได้สัดส่วนเวลา 12ชม.ส่วนฝ่ายรัฐบาลของเวลา 3ชม.
เมื่อถามถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะอยู่ในหัวข้อที่อภิปรายหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า มีเยอะ ตนก็ไม่ทราบว่า คนที่อภิปรายจะกลัว นายทักษิณ ฟ้องหรือไม่ แต่คิดว่าทุกคนต้องพร้อม ตนก็พร้อมมาก หากปล่อยให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น ละเมิดกฎหมาย ทุจริตกันมหาศาล เสร็จแล้วกลับมาบ้านหน้าตาเฉย แล้วส่งลูกน้องไปฟ้องคนที่วิจารณ์ จากความกลัวจะกลายเป็นความไม่กลัว เป็นแบบนี้จะไปสอนลูกหลานอย่างไร ขณะนี้อดีตสส.ถูกฟ้อง เพราะไปลงภาพที่ นายทักษิณ ซ้อมต่อยมวยก่อนจะกลับประเทศไทย ไม่ทราบว่าลูกน้องนายทักษิณ จะไปเดือดร้อนแทนอะไรไม่ทราบ ถึงได้มีการฟ้อง
‘เศรษฐา’6เดือนบินนอก16ประเทศ
นายสมชาย แสวงการ สว.โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า“ทุบสถิติโลก เป็นนายกฯ6เดือน บินนอก 16ประเทศ52วันใน176วัน คิดเป็น30%ของการทำงาน ผลงานมีมั้ย แมงโม้ บินไปบินมา” นายสมชาย ได้ระบุรายละเอียดการไปต่างประเทศ ดังนี้ 18-24กันยายน66 ไปซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา 28กันยายน66ไปกัมพูชา 8-9ตุลาคม66 ไปฮ่องกง 10ตุลาคม66 ไปบรูไน 11ตุลาคม66 ไปมาเลเซีย 12ตุลาคม66 ไปสิงคโปร์ 16-19ตุลาคม66 ไปจีน 19-21ตุลาคม66 ไปซาอุดิอาระเบีย 29-30ตุลาคม 66 ไปลาว 12 -19พฤศจิกายน66 ไปซานฟรานซิสโก 14-19ธันวาคม66 ไปญี่ปุ่น 15-19 มกราคม67 ไปสวิสเซอร์แลนด์ 3-4กุมภาพันธ์67 ไปศรีลังกา 4-6 มีนาคม67 ไปออสเตรเลีย 7-13มีนาคม67 ไปเยอรมันและฝรั่งเศส
ปธ.วิปรบ.ยันพร้อมตอบสส.ซักฟอก
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือวิปรัฐบาล เปิดเผยถึงการอภิปรายทั่วไปมาตรา152 ว่า ไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความพร้อมที่จะตอบการอภิปรายครั้งนี้ หลังจากถูก สว.ซักฟอกและไปที่ฝ่ายค้านเลยก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร การอภิปรายครั้งนี้ รัฐบาลยังไม่ใช้เงินเลยสักบาท ซึ่งร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2567จะเข้าสู่วาระที่2และ3 ในวันที่ 20มี.ค.นี้ เชื่อมั่นว่า รัฐบาลไม่ได้กังวล ส่วนต้องเตรียมองครักษ์ไว้หรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องเตรียมองครักษ์ มั่นใจว่ารัฐบาลตอบได้ ส.ส.ในสภาก็มีความพร้อมหากอภิปรายหากอยู่ในข้อบังคับ ไม่พาดพิงบุคคลภายนอกหรือพูดเกินเลย ก็ไม่มีปัญหา อาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดาเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย
‘อิ๊ง’เยือนกัมพูชาดูบทบาทคนรุ่นใหม่
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา ในวันที่ 18-19 มี.ค. จะมีวาระหารืออะไรบ้างว่า การไปเยือนครั้งนี้เป็นเป็นการเชิญภายในระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน อาจมีการถกเรื่องการทำพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยเพิ่งจะมีการเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ และทางสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน หรือ สมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ได้พูดคุยกับน.ส.แพทองธาร ว่าต้องการแลกเปลี่ยนในเรื่องการทำพรรค โดยใช้คนรุ่นใหม่ มั่นใจว่าทางกัมพูชาต้องการการเปลี่ยนแปลงให้ตามยุคสมัย นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยังเล่าให้ฟังว่า สมเด็จฮุนเซนได้ระบุว่า นอกจากนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ส่วนมากก็มีคนรุ่นเก่าจึงอยากแลกเปลี่ยนกันถึงการทำพรรค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี