สภาฯวุ่นรอบค่ำ!!! "ก้าวไกล"เปิดเกมนับองค์ประชุม ขอตีกลับรายงานฯกาสิโนครบวงจร อ้างยังไม่สมบูรณ์ - หวั่นจีนเทาเข้าครอบงำ ฟาก"รัฐบาล"โวยกลับ"อภิปราย 152"เดี๋ยวเอาบ้าง ขณะที่"ปธ.วิปค้าน"ท้าถ้ากล้าหนีตรวจสอบก็ลองดู สุดท้ายนั่งอืดขานชื่ออีกเป็นชั่วโมง
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผูัแทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเสร็จแล้ว
ทั้งนี้ สมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายเห็นด้วย แต่ยังมีสมาชิกบางส่วนโดยเฉพาะพรรคก้าวไกลยังเห็นว่ารายงานฉบับนี้ยังไม่สมบูรณ์ โดยเสนอแนะให้มีมาตรการควบคุมป้องกันการพนันใต้ดิน การฟอกเงินผิด หรือทุนสีเทาจากต่างชาติเข้ามาครอบงำ นอกจากนี้ยังเสนอให้นำกีฬาพื้นบ้าน อาทิ ไก่ชน วัวชน เข้ามาพิจารณาใส่ในการพิจารณาศึกษาสถานบันเทิงครบวงจรด้วย
โดย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายตอนหนึ่งว่า มีการพูดคุยกันในรายงานนี้ บอกว่าจังหวัดที่มีศักยภาพมี 44 จังหวัด แต่พูดตามตรงที่ท่านตกลงกันด้านหลังว่า อู่ตะเภาคือที่แรกที่จะทำรวมถึงเซ็นสัญญาไปแล้ว แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นความโปร่งใสอยู่ตรงไหน เท่ากับว่าท่านล็อคไว้แล้วว่ากาสิโน จะอยู่ภายใต้การดูแลของใคร ตนได้พยายามเช็คพยายามเช็คอีเมลได้มีต่างชาติส่งรายงานของยูเอ็นที่กังวลต่อการผลักดันเรื่องนี้ เพราะเขากลัวว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์รวมจีนเทาแห่งใหม่ที่อาจเกิดได้
"เราทำในเรื่องการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์เศรษฐกิจประเทศ แต่ผลออกมาเน้นแต่ด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ด้านกฎหมายไม่มีเลย ถ้าไปอ่านรายงานโดยละเอียด เมื่อถามว่าจะแก้พนันผิดกฎหมายอย่างไร สรุปแก้ไม่ได้ ให้เป็นเรื่องของตำรวจ แล้วที่เรารับอานัติจากสภาที่ต้องประชุมกมธ.แล้วเราจะได้อะไรกลับมา ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้คัดค้านการมีกาสิโนในไทย แต่ทำแล้วต้องทำให้มันดี ทำแล้วต้องแก้ปัญหาการฟอกเงิน ไม่สร้างปัญหาใหม่ นี่คือที่เราต้องการ ก็ขอฝาก นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้เอารายงานฉบับนี้กลับไปทำมาใหม่" นายรังสิมันต์ กล่าว
จากนั้นในเวลา 18.30 น.ก่อนที่จะมีการลงมติในรายงานฯ นายชุติพงษ์ พิภพภิญโญ ส.ส.ระยอง พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นหารือขอเสนอให้มีการนับองค์ประชุม โดยให้เหตุผลว่าอยากเห็นความมุ่งมั่นจากฝ่ายรัฐบาลในเรื่องนี้ ทำให้ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะวิปรัฐบาล ลุกขึ้นชี้แจงว่า ได้คุยกับวิปทั้ง 2 ฝ่าย ว่าจะจบการประชุมกลด้วยความร่วมมือด้วยดี ดังนั้น รายงานฯ ฉบับนี้ ข้อคิดเห็น ติชม เชื่อว่า กมธ.ฯ จะนำสิ่งนี้มารวมเล่มอยู่ในรายงานด้วย ที่ผ่านมาเราให้เกียรติกันว่าสมาชิกตั้งใจทำรายงานฯ ขึ้นมา แต่ถ้านายชุติพงษ์ เล่นเกมแบบนี้ ในอนาคตถ้าเป็นรายงานฯ ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตนจะไม่รับสักเล่ม
ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า เราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่การที่นายชุติพงษ์ เสนอแบบนี้ ทำให้ข้อตกลงของวิปทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่ ดังนั้น หมายความว่าในสัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายตามมาตรา 152 ซึ่งข้อตกลงของวิปฯ ให้เวลาฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาล เพื่ออะลุ่มอะล่วยกัน ถ้าไม่ตกลงตามข้อตกลงของวิปทั้ง 2 ฝ่าย เรื่องเวลาตนขอไม่เป็นตามเดิมแล้ว เรามาแบ่งเวลาในการอภิปรายมาตรา 152 กันใหม่ สัปดาห์หน้าตนของนับองค์ประชุมบ้างได้หรือไม่ ถ้าทำกันแบบนี้
ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หากสัปดาห์หน้าอยากจะหนีการตรวจสอบโดยการให้มีการนับองค์ประชุม ก็ลองดู
นายชุติพงษ์ ลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้งว่า ไม่ได้พลิกมติวิปทั้ง 2 ฝ่าย แต่เราอยากให้ กมธ.ฯ ถอนรายงานกลับไปพิจารณาอีกครั้ง เพื่อนำกลับเข้ามาพิจารณาใหม่ ตนยืนยันว่าพร้อมจะลงมติให้อยู่แล้ว
แต่วิปทั้ง 2 ฝ่าย ยังถกเถียงจนยังไม่ได้ข้อตกลง จนกระทั่งนายอรรถกร ลุกขึ้นเสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ จะได้รู้กันไปเลยว่าในวันนี้มีใครมาเข้าประชุมบ้าง
กระทั่ง นายพิเชษฐ์ ประธานที่ประชุม วินิจฉัยว่า ขอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ แม้ทาง ส.ส.พรรคก้าวไกล จะทักท้วงว่า ขณะนี้มี 2 ญัตติ คือ ฝ่ายหนึ่งเสนอให้มีการนับองค์ประชุมโดยการเสียบบัตร กับอีกฝ่ายเสนอให้นับองค์ประชุมโดยการขานชื่อ ดังนั้น จะต้องมีการลงมติชี้ขาดใน 2 ญัตตินี้ว่าจะเอาแบบใด มิฉะนั้นจะเป็นญัตติซ้อนญัตติที่ขัดกัน ไม่เป็นตามข้อบังคับ และหากทำแบบนี้ จะทำให้เกิดเป็นบรรทัดฐานต่อไป แต่ไม่เป็นผล นายพิเชษฐ์ ได้แจ้งว่า วินิจฉัยไปแล้วให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ และได้เริ่มนับองค์ประชุมในเวลา 19.00 น.
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี