ถ้าทำได้รัฐบาลแพ้ทางการเมืองแน่!!! "สว.ประพันธ์"แนะช่อง"ฝ่ายค้าน" ต่อยอดวุฒิสภาสานต่อขยี้ปม"ส.ป.ก.-สตช.-ดิจิทัลวอลเล็ต-พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล" เชื่อมือ"ปชป."ของถนัดถล่มโจทย์"ทักษิณ"
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่รัฐสภา นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังจากการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของสภาผู้แทนราษฎร ว่า ถือเป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส.ที่ทำตามหน้าที่และบทบาทตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเขาทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง แม้การอภิปรายจะไม่มีการลงมติแต่มีประเด็นสำคัญหลายเรื่องที่ สว.ได้อภิปรายไปแล้ว เช่น 1.ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เปลี่ยนเป็นโฉนด การจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินของรัฐบาลชุดปัจจุบัน น่าจะมีปัญหา ทั้งที่ผิดกฎหมาย และส่อไปในทางทุจริตในหลายเรื่อง ซึ่งตนเชื่อว่าข้อมูลที่ตนอภิปรายไปในมาตรา 153 เป็นการนำร่องไปก่อนแล้ว ส.ส.ก็คงจะได้ไปทำการบ้าานต่อแน่ๆ เพราะมีประเด็นที่ส่อไปในทางที่ไม่สุจริต และมีการออกระเบียบที่ผิดกฎหมาย
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า 2.เรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) น่าจะเป็นเรื่องร้อง ซึ่งเรื่องนี้ตนคิดว่านายกรัฐมนตรีคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะเป็นประธาน ก.ตร.ปัญหาคงไม่จบอยู่แค่เรียก ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.เข้าไปประจำสำนักนายกฯ เท่านั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่อไปในทางทุจริตและผิดกฎหมาย ฉะนั้น การรับเงินหรือรับส่วย การไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจพนันออนไลน์ เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย จึงอยู่ที่ท่าทีของนายกฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่คิดว่าตอนนี้อยู่ที่ว่าฝ่ายค้านถ้าทำงานเข้มแข็ง ก็ต้องเจาะลึกในเรื่องนี้เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นว่าทำให้เกิดความเสียหายในการบริหารราชการบ้านเมืองอย่างไร
นายประพันธ์ กล่าวว่า 3.เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 4.การเจรจาคืนที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา หากผู้อภิปรายเชื่อมโยงไปให้เห็นว่าคนในรัฐบาลนี้มีอะไรไปเกี่ยวข้องกับผลประโชชน์ได้เสีย ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย หรือเสียประโยชน์หรรือไม่ ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะพื้นที่ทับซ้อนจริงๆ มีอยู่ไม่กี่กิโลเมตร แต่ถ้าเอาอาณาเขตของเราไปตีความจนกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อน และเอาไปเจรจากันก็จะเกิดความเสียหายกับประเทศมหาศาล เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่บริเวณเดียวที่มีแหล่งน้ำมันจำนวนมาก ไม่เหมือนอ่าวไทยที่มีแก๊สเป็นหลัก น้ำมันมีน้อย ส่วนประเด็นอื่นๆ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งตนคาดหวังว่าการอภิปรายของ ส.ส.จะแสดงให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพ และความเอาจริงเอาจังในการอภิปรายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน จนรัฐบาลต้องนำไปปรับปรุงและแก้ไขปัญหาของประเทศชาติต่อไป
เมื่อถามว่า เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะถึงขั้นล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า คิดว่าถ้า ส.ส.เอาข้อมูลในเชิงลึกมาอภิปรายและชี้ให้เห็นข้อบกพร่องผิดพลาดหรือพฤติกรรมที่ส่อไปในทางที่ผิดของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้ว่าจะไม่มีการลงมติไม่ไว้วางใจ แต่ในทางการเมืองคุณก็พ่ายแพ้ทางการเมืองได้ ถ้าประชาชนไม่เชื่อถือ ไม่ศรัทธา และจะกลายเป็นกระแสเผยแพร่ต่อไป รัฐบาลก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ และเปลี่ยนวิธีการทำงาน ถ้า ส.ส.สามารถชี้ข้อมูลให้เห็น โดยนำตัวเลขมาแสดง อย่างกรณีที่ดิน ส.ป.ก.เพราะมีกลุ่มทุนไปถือสิทธิ์ในที่ดินหลายสิบแปลง ซึ่งไม่ใช่หลายร้อยไร่แต่เป็นหลายหมื่นไร่ อยู่ในพื้นที่สวยงามทั้งนั้น ถ้า ส.ส.เอารายชื่อมาแสดงว่ามีบริษัทไหนบ้าง กลุ่มทุนไหนบ้าง รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ เรื่องการรับส่วยแม้จะเป็นความผิดในวงการตำรวจ แต่เรื่อง ส.ป.ก.เป็นความผิดของคนในวงการรัฐบาล
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลออกมาระบุห้ามฝ่ายค้านอภิปรายถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถือว่าตีตนไปก่อนไข้หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ตนไม่แน่ใจว่าพรรคก้าวไกล จะอภิปรายจริงจังแค่ไหน แต่ตนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะทำหน้าที่เรื่องนี้ได้ดีกว่า
"ผมเห็นว่ายิ่งรัฐบาลออกมาปกป้องนายทักษิณ รัฐบาลก็จะเสียเอง เพราะขณะนี้คนก็มองจ้องไปที่รัฐบาลอยู่แล้วว่าเป็นผู้ทำลายหลักนิติธรรมเสียเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง เพราะรัฐบาลได้แถลงนโยบายว่าจะปกป้องหลักนิติธรรมเพื่อให้เกิดความเชื่อถือ แต่ความจริงรัฐบาลเป็นไปเช่นนั้นหรือไม่ ซึ่งเป็นประเดเ็นที่ฝ่ายค้านอาจจะหยิบยกขึ้นมาอภิปรายถ้าลงลึกไปว่ารัฐบาลมีพฤติกรรมไปเอื้อประโยชน์ให้กับคนๆ เดียว ก็จะเป็นปัญหาได้" นายประพันธ์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี