กรมคุมประพฤติชี้‘ทักษิณ’รอ‘ราชทัณฑ์’
ออก‘ใบบริสทธิ’
ถือว่าเป็นการสิ้นสุด‘การพักโทษ’ทันที
ยันพูดเรื่องน้องสาวกลับไทยไม่ผิด
‘ทวี’ย้ำ‘ปู’กลับไทยมีมาตรฐานเดียว
ไม่ตอบจะต้องตัดผมสั้นหรือไม่
“รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ” ยืนยัน “ทักษิณ” ยังไม่ประพฤติผิดเงื่อนไขการพักโทษ หลังไปเชียงใหม่ พบบรรดารัฐมนตรี รวมทั้งพูดปม “ยิ่งลักษณ์” เตรียมกลับไทย เนื่องจากไม่ใช่ผู้ต้องขังในคดีความมั่นคง-คดีทางการเมือง ไม่อยู่ในเงื่อนไขข้อห้าม แย้ม เมื่อราชทัณฑ์ออกใบบริสุทธิ์ถือว่าสิ้นสุดการพักโทษทันทีด้าน“ทวี” ยืนยัน “ยิ่งลักษณ์” กลับไทยไม่มีโมเดลใครทั้งนั้นขณะที่“พิชิต”ยันไม่มี 2 มาตรฐาน เป็นไปตามกฎหมาย บังคับโทษบริหารโทษ ไม่สลับซับซ้อน ชี้ถึงเวลามีกระบวนการอยู่ด้าน “ราเมศ” ลั่นหมดเวลาเตือนรัฐบาลแล้ว ชี้ถ้าจะใช้โมเดลตามรอยพี่ชายก็ไปให้สุดซอยวันหนึ่งประชาชนจะไม่ยอมแน่นอน
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงการถูกคุมความประพฤติของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า หลักการของผู้ถูกคุมความประพฤติ จะผิดเงื่อนไขหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ถูกกำหนดโดยคณะกรรมการพักการลงโทษ คณะกรรมการการลดโทษ หรือเงื่อนไขที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ซึ่งจะมี 10 เงื่อนไข แต่ในส่วนของคณะกรรมการพักการลงโทษจะมี 7 ห้าม และ 6 ให้ปฏิบัติ ซึ่งส่วนนี้ได้มีการเปิดกว้างให้คณะอนุกรรมการฯ สามารถไปกำหนดได้อีกว่าจะมีข้อห้ามอะไร และข้อให้ปฏิบัติอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม การที่จะไปกำหนดข้อห้ามต่างๆ แก่ผู้ถูกคุมความประพฤติ เช่น กรณีการห้ามพูดกล่าวทางการเมือง จะเหมาะสำหรับผู้ได้รับการพักโทษที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาความมั่นคง อาทิ มาตรา ม.116 หรือข้อหาทางการเมือง หรือการไปไฮปาร์คแล้วสร้างความเสื่อมเสีย เป็นต้น แต่ถ้าบุคคลนั้นไม่ได้ถูกดำเนินคดีดังกล่าว ก็จะไม่ถูกกำหนดให้เป็นข้อห้าม ดังนั้น จึงสามารถไปพูดทางการเมืองและพบปะบุคคลทั่วไปได้ ยกเว้นการเข้าเยี่ยมญาติแก่ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน
พ.ต.ท.มนตรี เผยถึงการรายงานตัวของนายทักษิณต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ ว่า ตั้งแต่ที่อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการคุมประพฤติและพักอาศัยอยู่ในสถานที่พักโทษที่ได้แจ้งไว้นั้น นายทักษิณได้มีการรายงานตัวไปแล้ว 2 ครั้ง ส่วนภายในเดือน เม.ย. จะเป็นการรายงานตัวครั้งที่ 3 นอกจากนี้ ในการรายงานตัวครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา ตนทราบว่านายทักษิณเป็นฝ่ายเดินทางเข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ ณ สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 1 ด้วยตัวเอง ส่วนครั้งที่ 3 จะเป็นการไปรายงานตัวด้วยตัวเองหรือเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายเข้าไปพบนั้น ตนขออธิบายตามหลักการ หากผู้ถูกคุมประพฤติมีสุขภาพดี ก็ต้องเดินทางไปรายงานตัวด้วยตัวเอง
พ.ต.ท.มนตรี เปิดเผยต่อไปว่า ตั้งแต่อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการคุมประพฤติ ตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการประพฤติผิดหลักกฎหมายหรือเงื่อนไข ซึ่งการขออนุญาตเดินทางไปยังต่างจังหวัด นอกเขตพื้นที่การพักโทษของผู้ถูกคุมประพฤติสามารถกระทำได้โดยไม่มีกรอบจำกัด หากมีเหตุธุระจำเป็น เพียงแค่ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติให้รับทราบ ส่วนเรื่องสถานที่พักโทษ หรือบ้านจันทร์ส่องหล้า ได้มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงเป็นสถานที่พักโทษอื่นหรือยังนั้น ตรงนี้ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล แต่หลักการปกติก็ต้องกลับมาพักอาศัยยังสถานที่พักโทษที่ได้แจ้งไว้
พ.ต.ท.มนตรี เผยด้วยว่า ส่วนกรอบระยะเวลาการสิ้นสุดการพักโทษของนายทักษิณนั้น กระบวนการพักโทษมีระยะเวลากำหนดอยู่แล้ว แต่ถ้ายึดตามหลักการ คือ เหลือโทษจำคุกเท่าไรก็พักโทษเท่านั้น ยกเว้นมีเหตุได้รับพระกรุณาฯ พระราชทานอภัยโทษ ระยะเวลาของโทษก็จะลดลง เช่น โทษจำคุกเหลือ 6 เดือน ก็จะถูกคุมประพฤติ 6 เดือน ส่วนถ้าครบกำหนดพักโทษแล้ว กระบวนการหลังจากนี้ คือ กรมราชทัณฑ์จะต้องออกใบบริสุทธิ์แจ้งมายังกรมคุมประพฤติ ก็จะถือว่าพ้นการคุมประพฤติทันที ส่วนเรื่องการขออนุญาตเดินทางไปต่างจังหวัดนอกจากนี้ของนายทักษิณ ยังคงไม่มีแจ้งมาแต่อย่างใด
รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ยังกล่าวถึง ส่วนการที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์เรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (น้องสาว) อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ตามความตั้งใจ หรือการไปรับฟังรายงานต่าง ๆ ของบรรดารัฐมนตรี หรือให้คำแนะนำก็ถือเป็นเรื่องที่สามารถพูดจาได้ เพราะท่านก็มีประสบการณ์ความรู้ที่ผู้บริหารอาจมองว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการยุติธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวการเดินทางกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการอย่างไร ว่า กรมราชทัณฑ์ จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล ซึ่งจะไม่มีใครได้รับข้อยกเว้น ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ในส่วนของการกำหนดโทษเป็นเรื่องของศาล โดยคนที่จะเข้าคุกก็จะต้องมีหมายจากศาล และตามข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เรื่องการปฏิบัติกับผู้ต้องขังเราได้รับมาตรฐาน
เมื่อถามว่าลักษณะการกลับมาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นคำถามสมมุติ จึงไม่ขอตอบ แต่ยืนยันว่า ปกติเราจะไม่ใช่ผู้พิจารณา เพราะมีระบบอยู่แล้ว ดังนั้นการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรือนจำ ที่ตอนนี้มีเกือบ 300,000 ก็จะปฏิบัติแบบนี้ทั้งหมด และทุกคนจะได้รับการปฏิบัติตนเหมือนกัน
เมื่อถามว่าหน่วยงานไหนที่จะเริ่มต้นกระบวนการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ.ต.อ.ทวี กล่าวย้ำว่า มีระบบของเรือนจำอยู่แล้ว ใครที่จะเข้าคุกต้องมีหมายจากศาล หากเป็นผู้หญิง ก็จะมีมาตรฐานให้ ผบ.เรือนจำ เป็นผู้หญิงเมื่อถามว่าขั้นตอน เมื่อลงจากเครื่องที่สนามบินจะดำเนินการอย่างไรต่อ ตำรวจจะต้องส่งตัวให้เรือนจำใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ใช่ และส่วนใหญ่จะปฏิบัติตามมาตรฐานเดียว ไม่มี 2 มาตรฐาน
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องถูกตัดผมหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า มาตรฐานของผู้หญิง เขาจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นระเบียบของผู้หญิง ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าจะใช้โมเดลเดียวกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาอยู่เรือนจำแบบไม่กี่ชั่วโมง พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่มีโมเดลใครทั้งนั้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการกลับประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะคนใกล้ชิดจะต้องเข้าไปดูในเรื่องข้อกฎหมายด้วยหรือไม่ ว่า เมื่อถึงเวลาแล้วมันก็จะมีกระบวนการ ซึ่งกระบวนการเป็นไปตามกฎหมาย ถือว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น
เมื่อถามว่ากระบวนการจะคล้ายกับนายทักษิณหรือไม่ เพราะนายทักษิณ เคยพูดว่าของตนเอง ถูกยัดคดีเยอะ แต่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเพียงแค่คดีเดียว นายพิชิต กล่าวว่า ตนว่าโมเดลก็คล้ายๆกัน
เมื่อถามว่าจะเป็นช่วงตุลาคม หรือช่วงปลายปีนี้หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ยังไม่ทราบจริงๆ เรื่องเวลา ยังไม่ทราบ ได้แต่ดูเรื่องคดีให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงเวลามันมีกระบวนการที่ต้องทำ กฎหมายเขียนไว้แล้วว่าต้องทำอย่างไร 1 2 3 4 ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน
“ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่มีสองมาตรฐาน รวมถึงที่ผ่านมาก็ไม่มีสองมาตรฐาน คือมันเป็นเรื่องการบังคับโทษ การบริหารโทษ ไม่มีอะไรสองมาตรฐาน ผมถึงบอกว่า พอเราไม่เข้าใจ หรือบางทีมองไปแบบคนรัก คนชอบ แต่ที่ผ่านมาเรายึดหลักการบังคับโทษ บริหารโทษ กระบวนการยุติธรรม สิ้นสุดนับแต่ศาลออกใบแดงแจ้งโทษแล้ว เพราะฉะนั้นรูปแบบอะไรก็คล้ายๆกัน แต่เมื่อถึงเวลาแล้ว เมื่อท่านตัดสินใจอย่างไรก็อยู่ที่ท่าน กระบวนการไม่มีอะไรซับซ้อน” นายพิชิต กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี