โฆษกรัฐบาลแถลงมติครม.เคาะโครงการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันร้านค้ารายย่อย 1.2 ล้านรายได้ประโยชน์ มากกว่าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีจำนวน 1.4 หมื่นสาขา แต่ครึ่งหนึ่งเป็นของแฟรนไชส์ประชาชนทั่วไป โวลั่นจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในระบบ 3.2-3.5 รอบ คาดเงินสะพัด 6.5 แสนล้านบาทในปี 69
23 เม.ย.67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เสนอ กำหนดเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนในช่วงไตรมาส 3 จากนั้นเริ่มใช้จ่ายในช่วงไตรมาส 4 ปี 67 ผ่านงบประมาณวงเงิน 5 แสนล้านบาท ใช้เงินสิ้นสุดโครงการในเดือนกันยายนปี 69 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 68 เพิ่มร้อยละ 1.2-1.8 คาดหวังเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่ม 3.2-3.5 รอบ และเกิดค่าทวีคูณ 1.2-1.4 เท่า จากวงเงิน 5 แสนล้านบาทในช่วง 3 ปี (ปี 67-69) มีเงินหมุนเวียนในระบบ 6.5 แสนล้านบาท
นายชัย กล่าวย้ำว่า กรณีมีผู้เป็นห่วงว่าเงินดังกล่าวจะไหลไปยังร้าน 7-Eleven นั้น ยอมรับว่า ร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ 14,500 สาขา ครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 7,000 สาขาเป็นของกลุ่ม CP All ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นแฟรนไชส์ของประชาชนรายย่อยทั่วไป เมื่อเทียบกับร้านค้ารายย่อยของประชาชน เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 1.2 ล้านราย โดยเงินหมุนเวียนเกิดจากโครงการคนละครึ่งประมาณ 4.1 ล้านล้านบาท ขณะที่รายได้จากร้าน 7-Eleven จำนวน 3.8 แสนล้านบาท นับว่าสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับโครงการของรัฐ ผลของโครงการจึงไปสู่รายย่อยผู้ใช้เงินเป็นหลัก ยืนยันว่าวันเริ่มโครงการจะมีเงิน 5 แสนล้านบาทมาใช้หนุนหลังอย่างแน่นอน
“การซื้อสินค้า 100 ชิ้น จะเกิดการซื้อสินค้าใหม่เพิ่มร้อยละ 60-70 เพื่อผลิตสินค้าชิ้นใหม่ รัฐบาลไม่ได้รังเกียจว่าเงินจะเข้ากระเป๋าใครในช่วงท้ายเพราะเงินดิจิทัลแจกไปนั้น ได้ผ่านการใช้เงินจากประชาชนตัวจริง เมื่อกระทรวงพาณิชย์เปิดลงทะเบียน จึงอยากให้ร้านค้า 1.2 ล้านราย เข้ามาลงทะเบียนร่วมโครงการ ส่วนรายละเอียดประเภทสินค้าซื้อขาย อยากให้เป็นสินค้ากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก เมื่อร้านค้ารับเงินซื้อสินค้าจากประชาชนแล้ว ต้องใช้เงินดิจิทัลไปซื้อวัสดุ วัตถุดิบจากร้านค้าอื่น ผู้ประกอบการขึ้นเงินสดได้ต้องเป็นผู้จดทะเบียนภาษีเท่านั้น ส่วนการโอนเงินและใช้จ่าย รัฐบาลได้สร้าง Supper App ต่อยอดมาจากแอปเป๋าตังของ ธ.กรุงไทย ไม่ได้ทุ่มงบจำนวนมากเพื่อสร้างระบบใหม่”โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี