ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากรับคำร้องของ 40 สว.กรณียื่นถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งปมเสนอชื่อนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี และมีมติเสียงข้างมากไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ระทึกกันทั้งประเทศ!!!

เรื่องดังกล่าว นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิชโฆษกประจำตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มองว่ามีความแตกต่างจากในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนั้นมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวาระนายกฯจะหมดลงในตอนไหนทางศาลรัฐธรรมนูญจึงรับเรื่องตีความและให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ยังทำหน้าที่ได้ในฐานะ รมว.กลาโหม

โฆษก ประจำตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มองว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้ว และการที่นายกฯ จะไปต่างประเทศ หรือไปลงนาม เจรจาความเมืองในฐานะผู้นำประเทศ สมควรหรือไม่ ซึ่งตนมั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยได้ ภายใน 1 เดือน

“ผมคิดว่า นายกฯควรจะลาพักร้อนไปเลย จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลออกมา ซึ่งถ้าลายาวๆ นายกฯจะได้ใช้เวลาในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ หรืออยากจะไปเที่ยวไหนก็ไปได้เลย แล้วก็ให้รัฐมนตรีคนอื่นขึ้นมารักษาการไป ที่สำคัญจะได้ไม่มีภาระผูกพันที่อาจจะสุ่มเสี่ยงมีผลเสียต่อประเทศ”

เช่นเดียวกับ นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และ สส. จังหวัดพัทลุง เสนอว่า ในช่วงนี้หากให้สง่างามที่สุด นายกรัฐมนตรีควรลาราชการเพื่อหยุดการปฏิบัติหน้าที่ หยุดการสั่งราชการใดๆ ทั้งหมดไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย จะได้ไม่มีปัญหาโต้แย้งภายหลัง

ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

ฟันธงล่วงหน้า เศรษฐารอดยาก

ไม่เกี่ยวกับดีลการเมือง สถานการณ์การเมืองหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6:3 รับคำร้องของ 40 สว. ไว้พิจารณา และมีมติ 5:4 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลเศรษฐากันอย่างกว้างขวาง

ในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองคนหนึ่งขอวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ ออกเป็น 2 ส่วน คือ

1.มติของศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่

2.นายทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มอนุรักษ์นิยม ยังแนบแน่น หรือพร้อมจะแตกหักทางการเมืองกันแล้วหรือยัง

ประเด็นแรก ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าหากดูจากมติการรับคำร้อง และมติการหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว หากพิจารณาลงในรายละเอียดของผลการลงมติ และคำวินิจฉัยส่วนบุคคลของตุลาการเสียงข้างน้อย ในประเด็นให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว เห็นได้ว่าข้อต่อสู้ของนายเศรษฐาเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะประเด็นที่นายเศรษฐาควรรู้ว่านายพิชิต ชื่นบาน ขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีรวมถึงรายละเอียดในหนังสือสอบถามของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และหนังสือตอบข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความชัดเจนว่าจงใจจะสอบถามในบางประเด็น และไม่ต้องการคำตอบในบางประเด็น เพื่อสร้างความชอบธรรมในการทูลเกล้าฯ เสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อดูข้อกฎหมายและเจตนาความต้องการของนายเศรษฐาแล้วเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ประเด็นสอง ดีลลับทางการเมือง ระหว่างนายทักษิณกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมนั้น ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการให้นายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อล้มดีลทางการเมืองกันเพราะตอนนี้ทั้งฝ่ายระบอบทักษิณและกลุ่มอนุรักษ์นิยมไม่พร้อมจะแตกหักกัน ฝ่ายระบอบทักษิณยังไม่มีตัวตายตัวแทนขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายเศรษฐาและไม่ยอมยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคการเมืองอื่น นายทักษิณยังไม่พร้อมแตกหัก หรือเป็นศัตรูกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งเคยได้รับบทเรียนมาแล้วว่า เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มอนุรักษ์นิยมก็เจ็บตัว และพ่ายแพ้จนไม่มีแผ่นดินอยู่

ส่วนกลุ่มอนุรักษ์นิยมเช่นเดียวกัน แม้อาจจะไม่พอใจในบทบาทของนายทักษิณอยู่บ้าง แต่ก็มีความจำเป็น ต้องใช้บริการนายทักษิณทางการเมืองต่อไป ยังไม่มีตัวแทนของฝ่ายกลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่จะพอสู้กับพรรคก้าวไกลได้ จึงยอมจับมือกับระบอบทักษิณต่อไป ดีกว่าปล่อยให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล และยังจำเป็นต้องสามัคคีกันต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือจนกว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีผู้นำทางการเมืองโดดเด่นเป็นที่ยอมรับของประชาชน พอจะสู้กับตัวผู้นำของพรรคก้าวไกลได้

ถ้าเลือกได้ ทั้งฝ่ายระบอบทักษิณและกลุ่มอนุรักษ์นิยม ยังคงสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นหรือเกิดอุบัติเหตุจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ต้องพ้นจากตำแหน่งไปทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องมาทบทวนดีลการเมืองกันใหม่อีกครั้ง

ระทึกรายวันการเมืองประเทศไทย