มีผลบังคับใช้

ระเบียบกกต.เลือกสว.

กำหนดบัตรดี-บัตรเสีย

ราชกิจจาฯเผยแพร่ระเบียบ กกต. กำหนดลักษณะบัตรดี-บัตรเสีย ตัวอย่างบัตรในการเลือก สว.มีผลบังคับใช้แล้วปชช.ผู้สนใจเข้าไปศึกษาได้ผ่านเว็บไซต์ ของสำนักงานกกต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารแจ้งว่า ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2567 ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ได้มีผลใช้บังคับแล้วในวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ประชาชนที่สนใจศึกษารายละเอียดระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2567 ได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th

สำหรับสาระสำคัญของระเบียบดังกล่าว เป็นการยกเลิกและการแก้ไขระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกสมาชิกสุฒิสภา พ.ศ.2567 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบัตรลงคะแนน ลักษณะบัตรดีบัตรเสีย การวินิจฉัยบัตรลงคะแนน และตัวและภาพตัวอย่างบัตรลงคะแนน อาทิ บัตรลงคะแนนที่ให้ถือเป็นบัตรเสียทั้งฉบับและไม่ให้นับเป็นคะแนน ได้แก่

1.บัตรปลอม 2.บัตรที่ทำเครื่องหมายเพื่อเป็นที่สังเกตหรือเขียนข้อความใดๆ ลงในบัตรลงคะแนนนอกจากหมายเลขผู้สมัคร เว้นแต่ เป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ดำเนินการ เกี่ยวกับการเลือก 3.บัตรที่มิได้ทำเครื่องหมายลงคะแนน 4.บัตรที่มิอาจทราบได้ว่าลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครใด 5.บัตรที่ลงคะแนนให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิได้รับเลือก 6.บัตรที่เขียนหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเกินจำนวนที่กำหนด 7.บัตรที่ลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนน 8.บัตรที่มิใช่บัตรซึ่งกรรมการประจำสถานที่เลือกมอบให้ และบัตรลงคะแนนที่จะนับเป็นคะแนนต้องเขียนด้วยหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเป็นเลขอารบิกเท่านั้น และยังกำหนดลักษณะของบัตร “ดีบางส่วน” ซึ่งสามารถนับเป็นคะแนนได้คือบัตรลงคะแนนที่ไม่ได้เขียนหมายเลขประจำตัวผู้สมัครในช่องเขียนหมายเลข ประจำตัวผู้สมัคร “โดยให้นับคะแนนใน ‘ช่องเขียนหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร’ ที่สามารถนับคะแนนได้”

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเฟซบุ๊คกรณีพบพิรุธการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลพบุรีโดยระบุมีตัวอย่างการร้องเรียนที่จ.ลพบุรี กรณีมีพล.อ.เป็นผู้สมัครร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นอดีตประธาน กกต.จังหวัดลพบุรี สงสัยว่าจัดทีมส่งสมัครเพื่อฮั้ว บล็อกโหวต หรือไม่

“เพราะถ้ามีมูลตามคำร้องจริง กกต.ต้องตรวจสอบเร่งด่วน ตัดสิทธิและดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหากปล่อยเฉย งานนี้มีสิทธิติดคุก ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และผู้รับจ้างลงสมัคร เตรียมจัดฮั้ว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และผู้สมัครจัดฮั้วตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา อัตราโทษจำคุกสูงถึง10ปี ตัดสิทธิการเมือง 20 ปี” นายสมชาย ระบุ พร้อมกับติดแฮชแทคฮั้วเลือกสว.กกต.มีหน้าที่อย่าขี้ลืม เลือกสว.ลพบุรี

ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์ข้อความผ่านเฟซบ๊ก“สมชัย ศรีสุทธิยากร”กรณีการปรับเปลี่ยนบัตรลงคะแนนเลือกสว.ของกกต.ว่า เรียนผูกให้รู้จักเรียนแก้ กรณี กกต. มีมติให้เปลี่ยนรูปแบบเลือก สว. แบบไขว้ จากบัตร 1 ใบ เป็น 4 ใบ และอาจมีกรณีทุจริตที่ผู้สมัครอาจใช้บัตรลงคะแนนโดยเขียนเลขกลุ่มซ้ำนั้น มีข้อเสนอเพื่อแก้ไขดังนี้ 1. ให้การเขียนเลขกลุ่มในบัตรทั้ง 4 ใบ เป็นหน้าที่กรรมการประจำหน่วย พร้อมเซ็นชื่อกำกับ หากพบในหีบใดว่ามีบัตรของกลุ่มบางกลุ่มเกินมา ให้แจ้งข้อหาดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ผู้นั้น 2. การเลือกไขว้ระดับอำเภอและจังหวัด ผู้เลือกในแต่ละกลุ่มมี 5 คน หากปรากฏว่าในหีบบัตร มีบัตรของกลุ่มใดเกินมา ตัวอย่าง เช่น สาย A มี 5 กลุ่มคือ กลุ่ม 1 , 2 , 3 , 4 และ 5 หีบบัตรที่ 1 ควรจะต้องมีบัตรของกลุ่ม 2 , 3 , 4 และ 5 จำนวนอย่างละ 5 ใบ หากมีบัตรที่ระบุกลุ่มซ้ำให้ถือเป็นโมฆะ และ ดำเนินการเลือกใหม่ในสายนี้ทันที

3. การเลือกไขว้ระดับประเทศ ผู้เลือกในแต่ละกลุ่มเพิ่มเป็น 40 คน แต่ละคนได้บัตร 4 ใบ หากหีบบัตรของสายใด มีบัตรของกลุ่มอื่นแต่ละกลุ่มเกิน 40 ใบ ให้ถือเป็นโมฆะ และดำเนินการเลือกใหม่ทันที เช่นกัน 4. ก่อนการเลือกใหม่ ห้ามผู้สมัครจับกลุ่ม พูดคุย สื่อสารหรือเข้าห้องน้ำเป็นกลุ่มโดยอิสระ เพราะมีผลอันเป็นโมฆะที่ทราบเบื้องต้นแล้ว การซื้อขายอาจเกิดขึ้นได้

“หากเห็นชอบก็ออกเป็นประกาศให้กรรมการประจำหน่วยทั้งประเทศทราบ ท่านประชุมทุกวันจันทร์อยู่แล้ว จันทร์หน้ากรรมการน่าจะอยู่ครบ ที่ไปประชุมอัฟริกาใต้ 2 ท่านคงกลับมาแล้ว”นายสมชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ขนส่งบัตรเลือก สว. ทั้งระดับจังหวัดและประเทศ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เริ่มขนส่งบัตรเลือก สว.ไปที่ภาคใต้ และ ภาคอีสาน จากนั้น วันที่ 1 มิถุนายน ส่งบัตรไปที่ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ส่วนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จัดส่งวันที่ 2 มิถุนายน ทั้งนี้ การจัดรถขนส่งบัตรและอุปกรณ์เลือกสว. จะมีตำรวจนั่งไปกับคนขับด้วย โดยรถทุกคันมีระบบติดตามเส้นทางแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง และควบคุมเวลาขนส่งบัตรจากต้นทางไปยังปลายทาง พร้อมทั้งเตรียมรถสำรองไว้รวมเกือบ 1,000 คัน หากเกิดเหตุฉุกเฉิน

สำหรับขั้นตอนการขนส่งเริ่มจากรับบัตรออกจากศูนย์ประสานงานขนส่ง โดยรถหนึ่งคันจะรับผิดชอบประมาณ 2 จังหวัด เมื่อไปถึงจังหวัดจะมีกรรมการมารอรับบัตรที่ไปรษณีย์จังหวัด เพื่อนำไปส่งมอบให้คณะกรรมการอำเภอ ซึ่งกำหนดว่าต้องส่งมอบให้เสร็จภายใน 1 วัน โดยไม่มีบัตรหาย