ส่งบัญชีพยานเพิ่มเติมศาลรธน.
‘เศรษฐา’สู้คดี40สว.
แต่ไม่ได้ส่งคำชี้แจงเพิ่ม
‘อนุทิน’โวไม่มีพลิกขั้วรบ.
‘ก้าวไกล’ลั่นชำแหละงบ’68
ซัดเงินดิจิทัลเบียดบังงบอื่น
“เศรษฐา”ติดโควิด อาการไม่หนัก พักรักษาตัวบ้านพักสุขุมวิท 16 มอบรองนายกฯนั่งประชุมครม. 18 มิถุนายน คาด19 มิถุนายน เข้าสภาเปิดแถลงงบปี’68ด้วยตัวเองได้ “ฝ่ายค้าน” จ้องจัดหนักถล่มงบ’68! ซัดรัฐบาลแบ่งงบ“ดิจิทัล วอลเล็ต”เบียดบังงบอื่น ยันไม่อภิปรายซ้ำซ้อนแค่เนื้อหาไขว้กัน-ไม่กลัวองครักษ์ ด้าน“เพื่อไทย” เปิดธีมอภิปรายหนุนงบฯ’68เตรียม 22 ขุนพลฝีปากล้ารับมือ โวปลดพันธการ 6 ด้าน ตอบสนอง 142 ประเด็น นโยบาย 6 ยุทธศาสตร์“ดนุพร”เชื่อผ่านวาระ1-รมต.แจงได้ทุกประเด็น มั่นใจรบ.จัดงบคุ้มค่า-เหมาะสม
เมื่อวันที่ 17มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ภายหลังมีอาการป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นนายกฯได้ลาป่วย 2 วัน ระหว่างวันที่ 17-18 มิ.ย. โดยเช้าวันเดียวกันนี้ (17 มิ.ย.67) นายกฯยังพักรักษาอาการป่วยอยู่ที่บ้านพักซอยสุขุมวิท 16 และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง ส่วนภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30น.นายกฯมอบหมาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย แถลงวิสัยทัศน์“เตรียมทัพกำลังคน สร้างอนาคตอุตสาหกรรมใหม่” IGNITE THAILAND : Future Workforce for Future Industry ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล แทนและในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18มิ.ย.ยังคงมีตามปกติ โดยมอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุม
ส่วนการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นายกฯได้เตรียมความพร้อมที่จะไปกล่าวเปิดด้วยตนเอง ซึ่งคาดว่าจะหายจากโควิด19 ทัน เนื่องจากไม่มีอาการรุนแรง และแพทย์ได้ตรวจอาการอย่างละเอียดแล้ว
ในส่วนงานงานเลี้ยงรับรองเพื่อแสดงความยินดีกับจุดเริ่มต้นของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่บริเวณสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 18มิ.ย.เวลา 17.00น.นายเศรษฐา มอบหมายน.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมงานแทน
นายกฯส่งบัญชีพยานเพิ่มเติมแล้ว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งคู่กรณียื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานเพิ่มเติม คดีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนัดพิจารณาคดีต่อในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ว่า ได้ส่งรายชื่อพยานหลักฐานแล้ว ส่วนคำชี้แจงนั้นไม่ได้ส่งเพิ่มเติมไป
ผู้สื่อข่าวยังสอบถามถึงกรณีที่มีการรายงานข่าวปรากฏภาพรถยนต์ของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และรถยนต์ของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (17 มิ.ย.67) ทราบเรื่องหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ
‘อนุทิน’ยันรบ.ไม่มีการเปลี่ยนขั้ว
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้ส่งข้อความทาง WhatsApp ไปหา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยขอให้หายป่วยเร็วๆ ซึ่งนายกฯตอบกลับมาว่า เจอกันวันพุธ ตนเองก็คาดว่า คงเจอกันในสภา ซึ่งมีการประชุมร่าง พรบ.งบประมาณ2568 ส่วนมองสถานการณ์การเมืองอย่างไร ที่พรรคก้าวไกลพูดว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า หรือหากมีเหตุเปลี่ยนแปลงทางการเมือง มีความเป็นไปได้ในการจับมือกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มากกว่าพรรคเพื่อไทย นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีการเปลี่ยนขั้วแน่นอน รัฐบาลชุดนี้ก็ยังมีความเข้มแข็ง มีเสียงสนับสนุน300กว่าเสียง การทำงานมีความสามัคคีกันดี สนับสนุนซึ่งกันและกันทุกฝ่าย
ศาลรธน.ตัดสินอย่าไรรบ.ก็อยู่ต่อได้
ทั้งนี้ จะมีการวิเคราะห์อย่างไร เนื่องจากพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ และอัยการสูงสุด จะมีผลต่อรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน บริหารประเทศ ส่วนเรื่องตัวบุคคล หรือสถาบันอื่น เราไปก้าวก่ายไม่ได้ ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน มันมี if และ then เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วแต่ รัฐบาลก็ต้องอยู่ได้อยู่ตลอด ไม่ให้มีการเกิดอุปสรรคใดๆ ทำให้ประเทศอยู่ในความสงบ เมื่อถามย้ำว่า ได้วิเคราะห์หรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรื่องการเลือก สว. ขัดรัฐธรรมนูญ จะมีผลอย่างไรต่อการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เพราะเราไม่ใช่คนตัดสินเอง และเราต้องไม่ก้าวก่ายหน่วยงาน หรือสถาบันอื่นๆ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด รวมถึงแผนที่ตั้งใจให้มันเกิดประสบเป้าหมาย เกิดผลสำเร็จให้ได้ รัฐบาลก็ต้องทำเช่นนี้เหมือนกัน
ก.ก.รวมพรบ.ประชามติรบ.-ฝ่ายค้าน
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล(ก.ก.) ในประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.)ประชามติของ คณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 18 มิ.ย.ว่า เป็นการจับร่างของเพื่อไทยและก้าวไกลมารวมกัน ซึ่งในบางประเด็นเห็นตามร่างของพรรคก้าวไกล แต่คิดว่ามีบางประเด็นที่ยิบย่อย ที่ต่างกันบ้างเล็กน้อยก็สามารถเข้าไปพูดคุยในชั้นกรรมการวิสามัญได้ ซึ่งจะรับหลักการทุกร่าง เพราะทุกร่างค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกัน
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้ว่า จะมีการพูดคุยกันในวิปฝ่ายค้านวันนี้อีกครั้ง และน่าจะชัดเจนมากขึ้น ซึ่งทางพรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรมและพรรคเล็กอื่นๆได้ทราบหัวข้อกันไปแล้ว ก็จะมาจัดวางวันอภิปรายให้สอดคล้องกันในพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป
จัดหนักชำแหละงบ68ปมเงินดิจิทัล
เมื่อถามถึงความแตกต่างระหว่างการอภิปรายงบประมาณปี 68กับปี67 นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า งบ68 มีความแตกต่างจากงบ67 ที่รัฐบาลใช้ข้ออ้างว่าไม่ได้มีเวลาปรับเปลี่ยนจากร่างเดิมในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากนัก แต่ครั้งนี้เป็นร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลนี้ ที่มีอำนาจในการจัดงบประมาณ ดังนั้นท่าทีในกานวิเคราะห์และอภิปรายความรับผิดชอบเต็มก็คือรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีงบประมาณส่วนหนึ่งไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและซอฟต์พาวเวอร์ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า แน่นอนจุดใหญ่สุดคือ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ครองงบประมาณในสัดส่วนค่อนข้างสูง พรรคก้าวไกลมีสโลแกนในการอภิปราย ที่ว่า “ignore Thailand เจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้” คือเป็นการทำทุกวิถีทาง เพื่อให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิด ซึ่งเป็นการเบ่งงบให้เต็มที่ จะเห็นว่าวงเงินงบประมาณปีนี้สูงกว่าปกติ เพราะต้องการเบ่งให้ใกล้กับกรอบของการคลังเท่าที่ทำได้ให้มากที่สุด เพื่อทำให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิดให้ได้ เมื่อเบ่งให้ตัวเองโตก็จะไปเบียดงบอื่นๆด้วย ซึ่งเป็นงบประมาณที่สำคัญกับการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนก็โดนเบียดบัง ด้วยงบประมาณดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งๆที่ จริงๆแล้วงบประมาณถ้าเอาไปทำบางอย่างจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า นี่จะเป็นหลักที่พรรคก้าวไกลจากอภิปราย
แบ่งชำแหละงบรัฐบาลในหลายด้าน
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า มีการแบ่งการอภิปรายออกเป็นรายด้าน เช่นด้านเศรษฐกิจ ด้านคุณภาพชีวิต ด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านการปฏิรูปรัฐ ด้านประชาธิปไตย เป็นต้น เมื่อถามถึงแผนรับมือหากมีองครักษ์พิทักษ์ฝั่งรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีการ มอนิเตอร์กันตามปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ต้องกลัว ส่วนปัญหาการอภิปรายที่ซ้ำซ้อนกันนั้น เราพยายามที่จะแยกหมวดหมู่หัวข้อ ซึ่งอาจจะมีบางคนที่มีเนื้อหาที่ไขว้กันบ้าง เช่นครั้งที่ผ่านมาแม้จะมีเนื้อหาที่ซ้ำกันบ้างแต่ประเด็นโดยรวมอาจจะแตกต่างกันอยู่
เตรียมมอนิเตอร์ที่สภาคดียุบพรรค
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการพิจารณาคดีสำคัญต่างๆในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นร้องยุบพรรคก้าวไกลว่า ในส่วนของ สส.พรรคก้าวไกล จะประจำอยู่ที่รัฐสภา ประชุมสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ ตามปกติ ส่วนทางพรรคก้าวไกล มีทีมที่มอนิเตอร์อยู่และรอดูว่าทางศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาให้เปิดการไต่สวนหรือไม่“พรรคก้าวไกลไม่ต้องเตรียมแผนอะไรรองรับไว้ เพราะในวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ศาลไม่ได้มีคำวินิจฉัยว่ายุบหรือไม่ยุบอยู่แล้ว แต่อาจจะได้ทราบว่าจะมีการเปิดไต่สวนหรือไม่ และหลังจากทราบแล้วก็คงจะมีการเตรียมการโดยฝ่ายกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ปลดพันธการ6ด้าน-สนอง142ประเด็น
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พท. แถลงว่า ในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ในวันที่ 19-21 มิถุนายนนี้ พรรค พท.จะอภิปรายภายใต้แนวคิดปลดพันธการ 6 ด้าน ตอบสนอง 142 ประเด็นนโยบาย 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งเราได้ทำการบ้านโดยการนำงบประมาณปี2567 มาไล่เรียง ว่าปัจจุบันอะไรที่สำคัญและลงลึกในหลายประเด็นให้ส.ส.ทำการบ้าน เพื่อเตรียมสนับสนุนการลงมติเพื่อให้ผ่านในวาระ1 เชื่อมั่นว่ารัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะใช้งบอย่างคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด เพื่อให้งบประมาณปี2568 สามารถผ่านไปจนถึงวาระ3ได้ ซึ่งพรรค พท.ได้วางตัวผู้จะอภิปรายไว้ 22คน โดยจะมีความหลากหลายประเด็นที่เสนอทั้งมุมมอง และความจำเป็นของการขับเคลื่อนนโยบาย
“หวังว่าฝ่ายค้านจะแนะนำและท้วงติงในบางประเด็นที่ไม่ตอบโจทย์ แต่การท้วงติงการทำงบเป็นเรื่องปกติที่ทำได้ ซึ่งเชื่อว่ารัฐมนตรีของรัฐบาลทุกพรรค ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง และทำความเข้าใจกับประชาชนรวมถึงฝ่ายค้านทราบ เชื่อว่ารัฐบาลรับฟังความเห็นรอบด้านและทำให้งบประมาณปี 68 มีประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด” นายดนุพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี