กกต.ปทุมธานี ยันต้องรับรองผลเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมฯ ภายใน 30 วัน แต่ไม่มีอำนาจ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ มีร้องเรียน 4 เรื่อง อยู่ระหว่างไต่สวนด้านผู้สมัครสว.ยังหอบหลักฐานร้องกกต.เพิ่มเติม ดักคอกกต.รีบรับรอง-สอบทุจริตให้เคลียร์ก่อน‘อ.เจษฎ์’จวกคัดเลือกสว.ไม่สุจริต-เที่ยงธรรม เตือน‘กกต.’เดินหน้ารับรองเสี่ยงจบที่คุก

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ที่รัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล สส.บัญชีรายชื่อ ออกมาทวงMOU ที่เคยเซ็นในช่วงจัดตั้งรัฐบาลรอบแรกแม้จะตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จแต่ควรจะเดินหน้าสิ่งที่ตกลงกันไว้ว่า อะไรที่ผ่านมาทางคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตนก็จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วน MOU เป็นเรื่องของสภาฯ เป็นเรื่องที่ฝ่ายนิติบัญญัติต้องไปจัดการกันเอง

นายกฯพร้อมตอบกระทู้-ไม่เคยหนี

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านพยายามอยากให้นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ถามในสภา นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมก็พยายามมา พยายามมาเองบ้าง และหากไปดูประวัติ เปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรีท่านอื่น ถือว่าผมมาโอเคนะ ก็พยายามมา ไม่ได้จงใจหลีกเลี่ยง อย่างวันนี้ ผมไม่ได้มีภารกิจไปไหนก็เข้ามาที่นี่ก่อน”

เมื่อถามย้ำว่าสส.พรรคก้าวไกลอยากให้นายกฯมาตอบกระทู้ของพรรคก้าวไกลบ้างนายกฯตอบว่า“เดี๋ยววันหลังจะมา ถ้าว่างจะมาตอบ ไม่ใช่จำใจหลีกเลี่ยงอะไร เป็นหน้าที่อยู่แล้ว”

ส่งหลักฐานเพิ่มให้ศาลรธน.ปม40สว.

นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยว่าเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 3 ก.ค.ได้ส่งหลักฐานเพิ่มเติมไปยังศาลรัฐธรรมนูญครบถ้วนแล้ว กรณี 40 สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ร้องนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญให้ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมภายใน 15 วัน

เมื่อถามอีกว่ามั่นใจใช่หรือไม่ ทั้งเรื่องขั้นตอนความจริงใจ นายกฯกล่าวว่า ตนมั่นใจในความจริงใจ ความซื่อสัตย์สุจริต การไม่โน้มเอียง และการปฏิบัติตามหลักของกฎหมาย

ขอถ่ายรูปกับนายกฯกรี๊ดลั่นสภา

ทั้งนี้ ภายหลังนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่บรรดานักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิต มาดูงานประชาธิปไตยของรัฐสภา นายกฯได้เดินเข้าไปทักทายทำให้เด็กๆร้องกรี๊ดกร๊าดด้วยความดีใจต่างรุมเข้ามาขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับยิ้มไม่หุบ บางคนที่ได้ภาพสวยๆ ก็นำไปอวดเพื่อน ทำให้เพื่อนอิจฉา แต่หลายคนก็บ่นว่า นายกฯ สูงเกินไป ทำให้เซลฟี่ไม่ถึง

นายกฯบินภูเก็ตพรุ่งนี้ตรวจน้ำท่วม

เวลา15.05น.นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากอาคารรัฐสภาโดยมีนายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เดินพูดคุยกันโดยนายกฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่าในวันที่ 5 ก.ค.จะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่จ.ภูเก็ตไปตรวจดูปัญหาน้ำท่วม เรื่องของดินสไลด์ ถนน และสนามบิน

‘สุริยะ’ตอกกลับ’พิธา’ยังจมกับอดีต

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลออกมาทวงสัญญาเอ็มโอยู ที่เคยทำกับพรรคเพื่อไทยหลังรัฐบาลบริหารงานมาครบ 1 ปี ว่า นายพิธายังจมอยู่กับในอดีต เรื่องผ่านไป 1 ปีแล้ว และเรื่องนี้ รายละเอียดขอให้ไปถามกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เมื่อถามว่า MOU ฉบับดังกล่าวถือว่าไม่มีอยู่ในขณะนี้แล้วใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ขอให้ไปถามรายละเอียดจากนายภูมิธรรม ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ มันผ่านมา 1 ปีแล้ว เราก้าวข้ามไปแล้ว ซึ่งหากรายละเอียดอยากรู้อะไรเพิ่มเติม ให้ไปสอบถามจาก นายภูมิธรรม ได้

พท.ไม่หวั่นฝ่ายค้านจองกฐินซักฟอก

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้าน เตรียมขอยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนั้นว่า ไม่มีปัญหา เชื่อว่ารัฐบาลสามารถตอบคำถามและชี้แจงได้อยู่แล้ว ไม่ได้มีความกังวลใจ เพียงแต่ขอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายตามญัตติที่จะเสนอต่อรัฐบาล อย่าอภิปรายเลยกรอบที่ขอไว้ หากมีการอภิปรายเลยกรอบก็จะมีการประท้วงกันไปมาเกรงว่าจะเสียเวลาสภาเปล่าๆควรอยู่ในกรอบอย่าพูดไปเรื่อยไม่เกิดประโยชน์

มั่นใจต.ค.67คนไทยได้ใช้ดิจิทัลแน่

นายสมคิดกล่าวอีกว่า ในส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี2568ที่กำลังพิจารณากันอยู่ ไม่น่ามีปัญหา แม้พรรคก้าวไกล จะพยายามตีรวนเกี่ยวกับงบประมาณในโครงการของรัฐบาลที่จะนำมาช่วยพี่น้องประชาชน พยายามที่จะหาเหตุโจมตีทุกโครงการ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกโจมตีมากที่สุด อ้างไม่มีรายละเอียดโครงการ ต้องแขวนไว้ก่อน ไม่มีปัญหา

“ล่าสุด กระทรวงการคลังได้นำเสนอรายละเอียดแล้วและมั่นใจผ่านแน่ ทั้งนี้ ภายในเดือนต.ค.นี้ ประชาชนได้ใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างแน่นอน”นายสมคิด กล่าว

ปชป.จี้รบ.แก้ปัญหาศก.อย่ารอดิจิทัล

ด้าน นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีรัฐบาลจะบริหารประเทศครบ1ปีในเดือนสิงหาคมนี้ว่าปัจจุบันปัญหาปากท้องของประชาชนกำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ค่าครองชีพต่าง ๆ กำลังทยอยปรับเพิ่มสูงขึ้น ทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นสวนทางกับรายได้ของประชาชนที่กำลังตกต่ำ ตนยังไม่เห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนจากรัฐบาล เพราะมัวมุ่งแต่จะทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หวังว่านโยบายนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ ทำให้รัฐบาลไม่คิดวิธีการในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในรูปแบบอื่นๆนอกจากการแจกเงินเพื่อหวังผลทางการเมืองโดยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ก็ถูกกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี2568 แขวนไว้ เนื่องจากคำของบประมาณหลายแสนล้านบาท แต่มีเอกสารเพียง 2 หน้าอีกทั้ง งบประมาณสำหรับทำโครงการนี้เสมือนอยู่ในอากาศไม่มีความชัดเจนใดๆไม่มีผลการศึกษาถึงความคุ้มค่า โดยเฉพาะหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพก็ไม่มีซึ่งจะส่งผลในการตรวจสอบงบประมาณ เพราะไม่มีหน่วยงานใดกล้ารับเป็นเจ้าภาพทำเรื่องนี้ หากรัฐบาลปล่อยผ่านปัญหานี้จะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจตามมาเป็นห่วงโซ่แบบงูกินหาง”

หวั่นแก้ล่าช้าทำเศรษฐกิจยิ่งแย่

นายสรรเพชรกล่าวว่าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567ที่ล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพก็ส่งผลต่อประชาชนเนื่องจากเมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่เกิด การจ้างงานก็ไม่เกิดตามด้วย อีกทั้งการทำโครงสร้างพื้นฐานที่จะดึงดูดนักลงทุนก็มีน้อยและจากรายงานล่าสุดของธนาคารโลกก็ปรับลด จีดีพี ของปี 2567 เหลือ2.4%สิ่งนี้เป็นสัญญาณเตือนไปยังรัฐบาล ประกอบกับที่หลายฝ่ายกำลังวิตกกังวลว่าประเทศไทยอาจจะเจอวิกฤตที่หนักกว่าเหตุการณ์ต้มยำกุ้งในอดีต

“ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขและรับมือโดยเร็วผมขอเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งหาวิธีการในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะหากรัฐบาลยังนิ่งเฉย จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง และหากเกิดเหตุการณ์นั้น นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลหวังว่าจะเป็นเครื่องปั๊มหัวใจ จะกลายเป็นเพียงการหยอดข้าวต้ม เพราะระบบเศรษฐกิจได้เกิดความเสียหายจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล และเห็นว่าสิ่งที่นายกฯทำได้เร็วที่สุด คือ หยุดการเดินทางต่างประเทศ แล้วหันมาเอาใจใส่เรื่องภายในประเทศมากกว่านี้ ไม่ต้องบินไปต่างประเทศมากเกินไป”นายสรรเพชญ กล่าว

กกต.ปทุมฯรับรองนายกอบจ.ใน30วัน

ที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ประจำจังหวัดปทุมธานี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายป้องปราการ โสธรเทวาพิทักษ์ ผู้อำนวยการ กกต.ปทุมธานีกล่าวว่าผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี ในครั้งนี้ มีเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้งอยู่ จำนวน 4 เรื่องซึ่งทาง กกต.อยู่ระหว่างการไต่สวน ซึ่งผู้สมัครหมายเลข 1 นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้รับคะแนน 203,032 คะแนน และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครหมายเลข 3ได้คะแนน 201,212 คะแนนส่วนการรับรองผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครหมายเลข 1 นายชาญ พวงเพ็ชร์นั้น มีระยะภายใน 30 วันในการรับรองผล ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของเอกสารต่างๆเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบ จึงจะประกาศรับรองผลได้

ระบุไม่มีอำนาจสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ส่วนประเด็นที่จะต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามที่หลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นนั้น ไม่เกี่ยวกับกกต.ซึ่งทางกกต.ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของกฎหมาย ระเบียบ กกต.เท่านั้น ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนบรรยากาศของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่ นายก อบจ.ปทุมธานี ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด แม้จะมีกระแสโซเชียลส่อวืด ตำแหน่ง นายก อบจ.ปทุมธานี รอเพียงผลประกาศรับรองของกกต.เท่านั้น

‘เทพไท’ทางออกปมนายกอบจ.ปทุมฯ

ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราชโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก“เทพไท–คุยการเมือง”ว่าในตอนนี้มีการแสดงความเห็นกรณีการหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานีของนายชาญ พวงเพ็ชร์ กันอย่างกว้างขวางซึ่งเป็นความเห็นที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการให้การหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับคำสั่งของศาล กับอีกส่วนหนึ่งที่เห็นพ้องกับความเห็นของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ให้ยึดถือเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เมื่อบุคคลใดที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล และศาลประทับรับฟ้องแล้ว ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ

ชี้‘อนุทิน’ประกาศยึดกม.เลี่ยงผิด157

นายเทพไท ระบุว่าการที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ยืนยันว่าจะยึดหลักกฎหมายตามคำแนะนำของคณะกรรมการกฤษฎีกา ถือเป็นความฉลาดของนายอนุทินที่เซฟตัวเองไว้ก่อน เพราะถ้ากระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว ฝ่ายนายชาญ ไม่พอใจก็สามารถฟ้องศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิได้ แต่ถ้าไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ อาจถูกฟ้องความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 ส่วนพรรคเพื่อไทยคงจะดันทุรังต่อไปให้ถึงที่สุด โดยต้องการให้ปัญหาดังกล่าวยุติที่คำสั่งของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งกว่าจะมีคำสั่งออกมาได้ อาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง

ถ้ากกต.รับรอง-รีบตั้งทีมบริหารฯ

นายเทพไท ระบุว่าเมื่อถึงตอนนั้น กกต.รับรองผลการเลือกตั้งให้นายชาญเป็นนายกอบจ.ปทุมธานีแล้ว และได้แต่งตั้งทีมบริหารคือรองนายกอบจ.ที่ปรึกษานายกอบจ.และเลขานุการนายก อบจ. ครบทุกตำแหน่ง ถ้าถึงที่สุดแล้ว โชคร้าย ศาลมีคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ก็สามารถใช้ รองนายก อบจ.เป็นผู้บริหารปฏิบัติหน้าที่แทนนายก อบจ.ยังดีกว่าให้ปลัดอบจ.ปทุมธานี เป็นผู้รักษาการ ซึ่งเป็นฝ่ายข้าราชการประจำ ไม่สามารถสนองนโยบายได้เหมือนกับรองนายกอบจ.ที่เป็นทีมงานเดียวกัน

แนะ‘พท.-ชาญ’โชว์สปีริตขอโทษ-ลาออก

“เรื่องนี้เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองและเป็นการแสดงสปิริตทางการเมือง กอบกู้ศรัทธาของประชาชน ต่อพรรคเพื่อไทยให้กลับคืนมาได้มีหนทางเดียว คือ พรรคเพื่อไทยต้องออกมาขอโทษต่อประชาชนและให้นายชาญ พวงเพ็ชร์ ลาออกจากตำแหน่ง นายก อบจ.เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวปทุมธานีตัดสินใจเลือกนายก อบจ.คนใหม่ แต่ถ้าฝืนดันทุรัง และยืดเยื้อออกไปเช่นนี้ คดีทุจริตยังคงค้าง 2 คดี ยังไม่รู้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ หากศาลมีคำพิพากษาให้เป็นความผิด ก็จะพ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.ยิ่งทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการมีนายก อบจ. ที่เลือกเข้ามา การตัดสินใจคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อเลือกตั้งใหม่นายก อบจ.ใหม่อีกครั้ง จะเป็นความสง่างามทางการเมืองมากที่สุด”นายเทพไท ระบุ

หอบหลักฐานพิรุธผลคะแนนให้กกต.เพิ่ม

วันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวยื่นร้องเรียนให้ตรวจสอบการเลือก สว. ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ามีการทุจริตระหว่างขั้นตอนการคัดเลือกมโหฬาร โดยนายจักรพงษ์ คงปัญญา อดีตผู้สมัคร สว. เข้ายื่นหลักฐานทุจริตเลือก สว.เพิ่มเติมต่อกกต. ระบุเป็นความผิดปกติของผลคะแนนการเลือก สว.ในแต่ละกลุ่ม ซึ่งมีลักษณะเดียวกัน ขอให้กกต. หยุดการประกาศรับรองผล และตรวจสอบทุจริตให้เสร็จ และเสนอว่าระหว่างตรวจสอบควรให้สื่อมวลชนร่วมด้วยเพื่อความโปร่งใส นอกจากนี้ ยังพบทุจริตที่เกิดขึ้นจัดคนมาสมัครในกลุ่มต่างๆ ตรวจคุณสมบัติไม่ละเอียด ดังนั้น กกต.รู้แล้วยังจะประกาศผล สว.อีกอย่างนั้นหรือ

เดินสายร้องศาลปค.-ปปช.-ผู้ตรวจการฯ

นายจักรพงษ์กล่าวต่อว่า วันเดียวกันนี้ ตนไปยื่นต่อศาลปกครอง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการจัดเลือก สว.ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่

เหน็บ‘ครู-นักเรียน’รวมหัวโกงข้อสอบ

ทั้งนี้ ยังมีกระแสวิจารณ์อย่างหนักต่อว่าที่ สว.200คนพุ่งเป้าไปที่มีการฮั้วและทุจริตการคัดเลือก โดยนายสมชาย แสวงการ สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุ เมื่อครูกับเด็กนักเรียนร่วมโกงสอบ สังคมจะยอมรับแล้วบอกว่า ดีกว่าให้นักเรียนกลุ่มอื่นสอบได้จริงหรือ เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร 1.ครู ออกข้อสอบเอื้อประโยชน์ขยายช่องทางให้นักเรียนที่ขาดคุณสมบัติ รับรองประสบการณ์กันเองตามใจชอบ ไม่มีการตรวจ เพื่อปล่อยให้เข้าไปโกงข้อสอบได้ 2.ครูคนเดียวกันส่งทีมไปติวข้อสอบให้ทีมครูใหญ่ เพื่อไปซักซ้อมวิธีโกงให้นักเรียนเฉพาะกลุ่ม 3.เมื่อนักเรียนโกงข้อสอบเสร็จ เด็กคนอื่นเห็นและร้องว่ามีการโกงจากนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่เห็นชัดเจนว่าคะแนนที่สอบได้เกาะกลุ่มที่1-6 ทุกคน คำตอบแบบปรนัยตอบตรงกันทุกข้อ แบบเห็นชัดเจน หรือที่เรียกว่า ฮั้วและblockvoteเปรียบได้ว่าไม่มีความรู้ ไม่อ่านหนังสือ ไม่เคยเข้าเรียน ไม่มีคุณสมบัติใดๆเข้าสอบได้ เว้นแต่ที่ครูแอบไปเปิดช่องว่าง ช่องโหว่ กลับทำคะแนนสอบสูงสุดชนะนักเรียนทุกคนได้อย่างไรแต่ครู ไม่ยอมตรวจสอบ ไม่ยอมเปิดเผยผลคะแนนที่ต้องสงสัยว่าลอกข้อสอบชุดเดียวกัน และไม่ยอมสอบใหม่ ทั้งที่นักเรียนนับพันคนประท้วงและร้องเรียนพร้อมหลักฐานความสงสัยมากมายแต่ครูกลับจะเร่งประกาศรับรองผลการสอบว่าถูกต้องสุจริตและเที่ยงธรรมแล้ว

“สรุปครูคนนี้มีจรรยาบรรณที่จะทำหน้าที่ครูหรือไม่ หรือเพราะครูคนนี้มีพื้นเพมาจากการเป็นเด็กในบ้าน เด็กในคาถา จึงร่วมกับขบวนโกงสอบอย่างหน้าด้านๆ สงสัยจังใครรู้ ใครมีบุญช่วย แสวงหาคำตอบให้หน่อย”นายสมชายกล่าว

อ.เจษฎ์ชี้ดันเดินหน้าไปวัดที่ศาลรธน.

รศ.ดร.เจษฎ์โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกสว.ที่ผ่านมาว่าที่กกต.จะประกาศผลเลือก สว. กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่า เมื่อการเลือก สว.เสร็จสิ้นแล้ว ให้รอไว้ 5 วัน เมื่อเห็นว่าผลการเลือกเป็นไปอย่างถูกต้อง สุจริตและเที่ยงธรรม แต่คำถามคือ ถูกต้องหรือไม่ ที่มีรายงานเรื่องการฮั้ว การวิ่งเต้น การถือโพยเข้าไป แบบนี้สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ ตนว่าทุกคนตอบได้ แต่อาจมีเฉพาะ กกต. ที่ตอบไม่ได้ แต่หาก กกต. จะเดินหน้าต่อก็ต้องไปวัดกันที่ศาลรัฐธรรมนูญว่าตกลงจะให้การเลือกครั้งนี้เป็นโมฆะหรือไม่

“ผมแยกได้ 2 ลักษณะ ถามว่า กกต.ตามแก้ผลที่เป็นปัญหาได้หรือไม่เหตุเกิดแล้วคือฮั้ว วิ่งเต้นจ่ายเงิน แก้เหตุคงยาก ถ้าตามแก้ผล เช่นนับคะแนนใหม่ได้หรือไม่ ถ้านับใหม่แล้วพบบัตรผิดปกติ บีบเอาคนกรอกบัตรออกได้หรือไม่ คะแนนที่ถูกกรอกไปในบัตรที่ผิดปกติถูกยกเลิกไปหรือไม่”รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าว

ซัดเลือกสว.ไม่สุจริตควรโมฆะเลือกใหม่

และว่า ต่อมาหาผู้ทำผิดได้หรือไม่ ถ้าหาได้ต้องตัดสิทธิ์ ถ้าไม่ได้แม้จะมีคนจำนวนหนึ่งที่เข้าไปตามกระบวนการแล้วไม่ได้ทำอะไรบิดพลิ้วผิดกฎหมาย อาจมีคนดี แต่หากไม่ได้ช่วยกันมาตั้งแต่แรก ไม่มีความพยายามร้องเรียนตั้งแต่ระดับอำเภอ โดยเฉพาะกรรมการ ตนคิดว่า หากมีคนไปยื่นฟ้อง ป.อาญา มาตรา 157 หรือ กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 172 ว่าด้วยการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตแล้วก่อให้เกิดความเสียหาย กกต.ก็อาจโดนด้วย เพราะกกต.ต้องกวดขันตั้งแต่ระดับอำเภอ กรรมการต้องเด็ดขาด ใครมีพฤติกรรมน่าสงสัย แล้วไปยื่นร้องต่อศาลภายใน 3 วัน แต่ความจริงไม่มีการทำแบบนั้น ดังนั้น ถ้าบอกว่าทั้งหมดถูกต้อง สุจริตและเที่ยงธรรม ตนว่าไม่ใช่ จึงบอกว่าควรเป็นโมฆะแล้วเริ่มเลือกกันใหม่ แม้จะเกรงใจคนดี แต่เก็เหมือนปลาดี 100 ตัว โยนปลาเน่าตัวที่ 101 เข้าไปแล้วเขย่ารวมกัน ผลก็คือเน่าส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งกันไปหมด

เตือนกกต.ดันทุรังระวังไปจบที่คุก

ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต. เสี่ยงติดคุกหรือไม่ รศ.ดร.เจษฏ์กล่าวว่า ตนมองมีแนวโน้มแบบนั้น เท่าที่ได้ฟังหลายคนเป็นห่วง อย่าลืม กกต. บางครั้งก็พลาดอะไรง่ายๆ และหลายครั้ง กกต.ทำอะไรค้านสายตาประชาชน การเลือก สว. ครั้งนี้ คนแจ้งทุจริตเต็มไปหมด กกต.กลับบอกว่ารับรองก่อนแล้วค่อยไปสอยทีหลัง แต่ก็ยังไม่มีใครโดนสอยเลย แปลว่าอะไร ฉะนั้นทั้งหมดถ้าเกิดผนวกกัน ท้ายที่สุดคนเขาทนไม่ได้ที่เลือก สว. กกต.มีโอกาสจะโดน อย่าลืมว่าเคยมี กกต. ชุดหนึ่งที่ติดคุก” รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวย้ำ

ฟันอาญา9ผู้สมัครสว.สงขลาขาดคุณสมบัติ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากสำนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลาว่า กกต.สงขลาได้รับรายชื่ออดีตผู้สมัคร สว. 9คน จากผู้สมัคร 1,675 คน เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด เข้าข่ายมีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามลงสมัครเลือกตั้งทางการเมือง

โดยนางพะเยียศิริโชติ ผอ.กกต.สงขลาเผยว่า กกต.ได้รับรายชื่ออดีตผู้สมัคร สว.สงขลาจากศาลประจำจังหวัดหลายแห่ง ปรากฏว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งทางการเมืองคือเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดเกี่ยวกับคดีต้องห้าม เช่น ผู้ค้ายาเสพติด เจ้ามือ และเจ้าของบ่อนการพนัน ขณะนี้รอความเอกสารหลักฐานเพื่อความชัดเจนจากศาลอยู่ เพื่อจะดำเนินการฟ้องร้องคดีอาญาร่วมกับอดีตผู้สมัคร ส.ว.ที่ กกต.ไม่ประกาศรายชื่อก่อนวันเลือกตั้งแล้วประมาณ 80 คน รู้แล้วขาดคุณสมบัติแต่ยังมาสมัคร มีโทษทั้งทางแพ่งและอาญาแล้ว ยังถูกตัดสิทธิทางการเมืองอีก 10 ปีด้วย กกต.ได้แจ้งไปก่อนแล้วว่าให้ตรวจสอบคุณสมบัติตัวเองให้ดีก่อนสมัคร

‘บิ๊กเกรียง’ไม่ปฎิเสธถูกชงชิงปธ.วุฒิ

ขณะที่พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ หรือบิ๊กเกรียง ว่าที่ สว.จากกลุ่มบริหาราชการแผ่นดินและความมั่นคง ที่ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มดังกล่าว กล่าวถึงกระแสข่าวที่ถูกวางตัวเป็นเต็งหนึ่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ว่า แล้วแต่สมาชิก แต่ความตั้งใจต้องการทำงานเกี่ยวกับความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยากเข้าไปดูแลตรงนั้นมากกว่าเมื่อถามย้ำว่า แต่หากมีเพื่อนสมาชิกเสนอชื่อ ก็พร้อมใช่หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกรหัวเราะพร้อมกล่าวว่าไว้ดูกัน ขออนุญาต แต่ตั้งใจไว้ว่าอยากทำงานด้านความมั่นคงมากกว่า