วันนี้ 14 ธ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" แสดงความเห็นการปฏิรูปประเทศภายหลังการยุบสภาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี โดยข้อความที่ ดร.เสรีเขียนทั้งหมดมีดังนี้

ถ้าเลือกตั้งก่อนการปฏิรูประบอบทักษิณจะดำรงอยู่

ประชาธิปไตยจะเป็นธนาธิปไตยที่การบริหารประเทศจะตกอยู่ใต้การบงการของนายทุนสามานย์ มีคนจำนวนมากจะพ่ายแพ้ต่ออำนาจเงินและยอมทำสิ่งที่เลวร้ายเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ที่นายทุนสามานย์มอบให้ ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุกภาคส่วนทั้งข้าราชการ พนกงานรัฐวิสาหกิจ สื่อมวลชน และเจ้าพนักงานในองค์กรอิสร

ประชาธิปไตยจะกลายเป็นอทัตตาธิปไตย ที่เกิดเผด็จการทางรัฐสภาที่ สส. ถูกซื้อให้เป็นขี้ข้านายทุนสามานย์ที่ใช้เงินต้อน สส. เข้าคอกและกี่ร้อยเสียงคือเสียงเดียวตามความต้องการของทักษิณ

ประชาธิปไตยจะกลายเป็นโจราธิปไตยที่นายทุนสามานย์ใช้เสียงข้างมากตามอำเภอใจในการที่จะใช้งบประมาณแผ่นดินผุดโครงการต่างๆที่เปิดโอกาสให้ทุจริต เกาะกินประเทศไทย

ประชาธิปไตยจะเป็นญาติโกธิปไตยที่มีการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ทำลายระบบึุณธรรม เอาญาติและผู้สยบยอมดำรงตำแหน่งที่เอื้อต่อการโกงกิน และผู้ที่ได้ตำแหน่งทั้งหลายจะเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนจนยอมเป็นขี้ข้า ทำตัวเป็นแนวร่วมกับนายทุนสามานย์ในการโกงกินประเทศ

ประชาธิปไตยจะกลายเป็นธุรกิจาธิปไตยที่เกิดการประมูลประเทศไทยด้วยนโยบายและโครงการประชานิยมที่ทำลายวินัยการเงินและการคลังของประเทศ สร้างความนิยมให้นายทุนสามานย์ด้วยเงินภาษีอาการของพวกเรา หลอกล่อครอบงำประชาชนให้เสพติดการแจกแถมของรัฐบาลจนทำให้สังคมอ่อนแอ

ประชาธิปไตยจะกลายเป็นทวิภาคาธิปไตย คือการยึดครองอำนาจด้วยสองภาคส่วนของประชาธิปไตย คือบริหารกับนิติบัญญัติสมคบคิดกันทำลายอำนาจตุลาการ จะมีการปฏิเสธอำนาจศาลข่มขู่ศาล ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล

ประชาธิปไตยจะกลายเป็นอันธพาลาธิปไตย ที่นายทุนสามานย์จะเลี้ยงอันธพาลไว้ทุกรูปแบบทั้งวาจา และกาย ด่าทอต่อวาจากการพูดจาและการเขียนในsocial media. การขุมขู่คุกคามทำร้ายผู้คนที่คิดต่างจนทำให้เกิดบรรยากาศความหวาดกลัวสยบยอมจนคนชั่วเหิมเกริมย่ำยีความรู้สึกของประชาชนผู้รักความถูกต้อง

ประชาธิปไตยจะกลายเป็นเอกพจนาธิปไตย คือมีแต่แนวความคิดของนายทุนสามานย์เท่านั้นที่ตะได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อกระแสหลัก รายการทีใีที่คิดต่างจะไม่มีในฟรีทีวี สื่อสารมวลชนจะละทิ้งจรรยาบรรณยอมเป็นขี้ข้ารับใช้นายทุนสามานย์ทำให้ข่าวสารต่างๆถูกบิดเบือน ปิดหูปิดตาประชาชน ไม่ให้ได้ยินได้ฟังความคิดที่หบากหลาย

ประชาธิปไตยจะกลายเป็นสามัคคยาธิปไตย คือการสร้างความแตกแยกในกลุ่มประขาชนที่ไม่ยอมรับการบริหารที่ขาดหลักธรรมาภิบาลของนายทุนสามานย์ กับกลุ่มคนที่ชื่นชมผลประโยชน์ที่ได้รับจากระบอบทุนนิยมสามานย์ที่จะออกมาปกป้องทุกวิถีทางให้อำนาจของทุนนิยมสามานย์ดำรงอยู่ต่อไปเพื่อผลประโยชน์ที่ตนได้รับ

ถ้าหากไม่มีการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงแก้กลไกต่างๆที่จะป้องกันไม่ให้ประชาธิปไตยของไทยกลายพันธฺ์ก่อนการเลือกตั้ง ประเทศไทยก็จะตกอยู่ในวังวนของวงจรอุบาทว์ของทุนนิยมสามานย์ต่อไป

อีกประการหนึ่ง สส. และ สว, จำนวน 383 คนที่กำลังถูก ปปช. สอบสวนอยู่ จะต้องถูกสอยโดย ปปช. อย่างแ

น่นอน (เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินมาแล้วว่าผิดและคำตัดสินผูกพันทุกองค์กร) ถ้าหาก ปปช. ตัดสินช้ากว่าวันที่ 2 กุมภา พวกเขาลงสมัครรับเลือกตั้งและชนะการเลือกตั้ง จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ทำให้เสียงบประมาณอีกหลายพันล้านบาท ดังนั้นแทนที่จะรีบเร่งให้มีการเลือกตั้ง เราควรจะมีการปฏิรูปก่อน เพื่อไม่ให้เราต้องตกอยู่ในวังวนสามานย์ต่อไป

ติดตามเฟซบุ๊กร่วมเป็นแฟนเพจแนวหน้าออนไลน์ได้ที่

www.facebook.com/naewnaonline