วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘สถ.’ร่อนเอกสารแจงยิบ โต้จัดสรรงบกระจุกพื้นที่ เทลงอบจ.-อบต.‘บุรีรัมย์-สุรินทร์’

‘สถ.’ร่อนเอกสารแจงยิบ โต้จัดสรรงบกระจุกพื้นที่ เทลงอบจ.-อบต.‘บุรีรัมย์-สุรินทร์’

วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 12.21 น.
Tag : กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น บุรีรัมย์ สถ. สุรินทร์ อบจ. อบต.
  •  

‘สถ.’ร่อนเอกสารแจงยิบ โต้จัดสรรงบกระจุกพื้นที่ เทลงอบจ.-อบต.‘บุรีรัมย์-สุรินทร์’

17 กรกฎาคม 2568 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ออกเอกสารชี้แจงกรณีปรากฏข่าวในสื่อออนไลน์ เรื่อง การดำเนินโครงการและขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับการพิจารณาในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมและมีการกระจุกตัวอย่างไม่เป็นธรรม


กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ชี้แจง ดังนี้

1.ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 พ.ค.เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และมอบหมายหน่วยรับงบประมาณจัดทำโครงการและคำของบประมาณ เพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 19 พ.ค.

2.กระทรวงการคลังเสนอกรอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเสนอให้ ครม.พิจารณา ประกอบกับสำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการจัดทำข้อเสนอโครงการโดยผ่านความเห็นชอบจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อเสนออนุกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ คณะกรรมการนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ และ ครม.

3.มท.แจ้งให้จังหวัดจัดทำข้อเสนอโครงการและคำของบประมาณตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเพื่อการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งให้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเมื่อ รมว.มท.ได้ให้ความเห็นชอบข้อเสนอโครงการแล้ว มท.จะจัดส่งข้อมูลให้จังหวัดนำไปอัพโหลดในระบบ New e-Budgeting ต่อไป

4.มท.มอบหมายภารกิจให้ สถ.ดำเนินการประสาน รวบรวม และกลั่นกรองข้อเสนอโครงการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ของ อปท.ทุกแห่ง (ยกเว้นกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา)

5.สถ.ได้รับข้อเสนอโครงการของ อปท.รวมทั้งสิ้น 5316 แห่ง จำนวน 27,494 โครงการ งบประมาณ 161,950,170,900 บาท ซึ่งเกินกรอบวงเงินในภาพรวม 157,000 ล้านบาทของงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับได้รับข้อมูลว่าสำนักงบประมาณให้ความสำคัญกับ โครงการด้านคมนาคม ประมาณ 70,000 ล้านบาท และโครงการด้านน้ำ ประมาณ 40,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 110,000 ล้านบาท คงเหลือวงเงินที่จะจัดสรรให้ อปท. ประมาณ 37,000 ล้านบาท

สถ.จึงได้พิจารณาคำขอที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่สำนักงบประมาณกำหนดรวมถึงพิจารณาความครบถ้วนสมบูรณ์ของการบันทึกข้อมูลแบบคำขอในระบบ New e-Budgeting ความพร้อมของแบบรูปรายการ และสถานที่ดำเนินการ จึงได้พิจารณากลั่นกรองเสนอคำขอโครงการของ อปท. ให้ มท.รวมทั้งสิ้น 1,876 แห่ง จำนวน 4,826 โครงการ งบประมาณ 34,690,532,600 บาท

โดยภาพรวมของข้อเสนอโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจาก รมว.มท.มีจังหวัด ที่มีคำของบประมาณเกิน 500 ล้านบาท มีจำนวนทั้งสิ้น 25 จังหวัด จังหวัดที่มีคำขอมากที่สุดคือจ.สุรินทร์ จำนวน 100 อปท. 252 โครงการ งบประมาณ 2,050,686,100 และจังหวัดที่มีคำขอน้อยที่สุดคือจ.ภูเก็ต จำนวน 1 อปท. 1 โครงการ งบประมาณ 3,527,800 บาท ค่าเฉลี่ยการกระจายตัวทั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ 456 ล้านบาท

6.กรณีที่มีการกล่าวว่า บาง อบต.หรือ อบจ.ขออะไรไม่เคยได้เลย บางที่ขอมาได้ 1-3 ล้านบาท แต่ได้ยินว่า พื้นที่บุรีรัมย์ สุรินทร์ได้เพิ่มขึ้นจากที่เคยได้เป็นร้อยๆ ล้านบาท บางแห่งได้ถึง 700 ล้านบาท

สถ.ขอเรียนชี้แจงว่าได้พิจารณาถึงการกระจายตัวของงบประมาณ และคำขอโครงการต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางของสำนักงบประมาณกำหนด โดยคำนึงถึงโครงการที่มีความพร้อมของข้อมูลแบบรูปรายการ และสถานที่ดำเนินการ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่มี อบต. หรือ อบจ.ใดได้รับงบประมาณถึง 700 ล้านบาทแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวว่าบางพื้นที่เป็น อบต.ขนาดเล็ก ได้รับงบประมาณถึง 60-70 ล้านบาท แต่บางพื้นที่ไม่มีการจัดส่งงบประมาณลงไปเลยนั้น สถ. ได้ตรวจสอบแล้ว คำขอโครงการของ อบต.มีจำนวน 3,521 แห่ง ได้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองคำขอโครงการเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางของสำนักงบประมาณ และมีความพร้อมของข้อมูลแบบรูปรายการ และสถานที่ดำเนินการ จำนวน 1,571 แห่ง ซึ่งมี อบต.ที่ได้รับงบประมาณสูงสุด 169 ล้านบาท เนื่องจากเป็นพื้นที่การท่องเที่ยว และมีจำนวน อบต.ที่คำขอโครงการไม่ผ่านการพิจารณา จำนวน 1,947 แห่ง เนื่องจากคำขอไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และไม่มีความพร้อมของการบันทึกข้อมูลแบบรูปรายการประกอบการพิจารณา และกรณีข้อมูลคำของบประมาณไม่ตรงกันกับในระบบ New e-Budgeting

สถ.ขอเรียนว่าสำนักงบประมาณกำหนดให้ อปท. บันทึกข้อมูลในระบบ New e-Budgeting ซึ่งเป็นระบบใหม่และระยะเวลาจำกัด ทำให้ในห้วงระยะที่ต้องบันทึกข้อมูลไม่สามารถใช้งานได้ ข้อเสนอโครงการของ อปท.จึงขาดความสมบูรณ์ ประกอบกับ อปท.ที่เป็นหน่วยรับงบประมาณโดยตรง ได้แก่ อบจ. ทน. ทม. และทต. มีการบันทึกข้อมูลให้แก่สำนักงบประมาณโดยไม่ผ่านการตรวจสอบจาก สถ.ส่งผลให้ข้อมูลไม่ถูกต้องตรงกัน ดังนั้น สถ.ขอยืนยันว่ากรณีการดำเนินโครงการและขอรับจัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาทของ อปท. สถ.ได้พิจารณาอย่างเหมาะสมตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กำหนดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 16 มิ.ย.568 ถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) เรื่อง การกำขับและกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับการเสนอโครงการและคำของบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท

สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการดำเนินการอย่างเร่งรัด ในระยะเวลาเร่งด่วนประกอบกับแนวทางการจัดทำโครงการและขอรับจัดสรรงบประมาณยังอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแจ้ง จึงยังขาดความชัดเจนเป็นแนวทางเดียวกัน การดำเนินการตามข้อสั่งการข้างต้นจึงอาจขาดความรอบคอบ  ระมัดระวังในการสำรวจข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน อันอาจส่งผลให้การกำหนดวงเงินงบประมาณในข้อเสนอโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงและอาจทำให้การใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินงาน/โครงการไม่เกิดผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพ ดังเช่นแผนงาน/โครงการเร่งด่วนหลายๆ โครงการที่ผ่านมา

ดังนั้น เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ลดความเสี่ยงด้านความคุ้มค่าและป้องกันมีให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ รวมทั้งเป็นไปตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาศัยอำนาจมาตรา53  แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561

จึงขอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาดำเนินการโดยกำชับ และกำกับดูแลองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นให้ดำเนินการในทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง ละเอียด รอบคอบ และต้องคำนึงถึงการกระทำการใดๆ อันอาจเล็งเห็นได้ว่าเป็นเหตุหรือช่องทางในการเรียกรับผลประโยชน์อื่นใดเพื่อตนเองหรือผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยมิชอบจากการดำเนินโครงการตามมาตรการดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งขอให้ระมัดระวังการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำตามมาตรา 88ของพระราชบัญญัติดังกล่าว

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘เขมร’การละคร! ตั้งข้อสังเกตสร้างสถานการณ์‘ปราสาทตาเมือนธม’หวังเช็คกำลังฝ่ายไทย ‘เขมร’การละคร! ตั้งข้อสังเกตสร้างสถานการณ์‘ปราสาทตาเมือนธม’หวังเช็คกำลังฝ่ายไทย
  • เปิดนาทีเดือด! ทหารกัมพูชายกโขยง โต้เดือดทหารไทย! (คลิป) เปิดนาทีเดือด! ทหารกัมพูชายกโขยง โต้เดือดทหารไทย! (คลิป)
  • เปิดหัวสับ‘อ้วน’! สส.ภท.ฝากกลางสภาฯเป็นมนุษย์บ้าง กังขาเด้ง‘2 อธิบดี’เพราะมาจาก‘บุรีรัมย์’ เปิดหัวสับ‘อ้วน’! สส.ภท.ฝากกลางสภาฯเป็นมนุษย์บ้าง กังขาเด้ง‘2 อธิบดี’เพราะมาจาก‘บุรีรัมย์’
  • ‘สตง.’เตือนด่วน‘สถ.’ชงงบ 1.57 แสนล้านในเวลา 3 วัน เสี่ยงเปิดช่องเรียกผลประโยชน์ ‘สตง.’เตือนด่วน‘สถ.’ชงงบ 1.57 แสนล้านในเวลา 3 วัน เสี่ยงเปิดช่องเรียกผลประโยชน์
  • ประสาน‘เขมร’เปิด-ปิดด่านให้เวลาตรงกัน ‘อิงค์’สั่งแม่ทัพ2 อ้างเพื่อประโยชน์การค้า ประสาน‘เขมร’เปิด-ปิดด่านให้เวลาตรงกัน ‘อิงค์’สั่งแม่ทัพ2 อ้างเพื่อประโยชน์การค้า
  • \'นายกฯ\'ดูชาวบ้านทำบังเกอร์จากท่อขอบริจาค ร้องโถ่ ถามผู้ว่าฯ ทำไมไม่ของบฯ\'มท.\' 'นายกฯ'ดูชาวบ้านทำบังเกอร์จากท่อขอบริจาค ร้องโถ่ ถามผู้ว่าฯ ทำไมไม่ของบฯ'มท.'
  •  

Breaking News

'บิ๊กต่าย'ยันไม่ขัดแย้งสำนักพุทธฯ ชม'รองเต่า'ตั้งใจทำงาน ชี้จะเอาผิด พศ. ต้องมีหลักฐาน

'ทรัมป์'เผย'โคคา-โคล่า'ตกลงใช้น้ำตาลอ้อยแท้แทนน้ำเชื่อมข้าวโพด

โซเชียลสงสัย? 'พิเชษฐ์'ยกหูหาใคร ขณะนับองค์ประชุม ก่อนสั่งปิดประชุม หนีสภาล่ม

'อิ๊งค์'ชี้กระแสร้อน'วงการผ้าเหลือง' จุดเปลี่ยนสร้างความเข้าใจพระพุทธศาสนา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved