‘พิธา-ชัยธวัช’นัดเปิดใจ2ส.ค.
‘ก้าวไกล’ดิ้นหนัก
ชี้แจงแนวทางสู้คดียุบพรรค
‘ไอติม’ยืนยันยังไม่ถอดใจ
‘โรม’มั่นใจสส.ไม่ทิ้งพรรค
“พิธา-ชัยธวัช”แกนนำพรรคก้าวไกลเตรียมแถลงแนวทางสู้คดียุบพรรคโค้งสุดท้าย 2 สิงหาคมนี้ ด้าน “พริษฐ์” ขออย่าด่วนสรุปโดนยุบ ยันไม่ถอดใจยังเดินหน้าทำงานต่อ “โรม” มั่นใจสส.ทุกคนยังอยู่กับพรรค “ณัฐพงษ์”ปัดนั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ชี้ทุกคนพร้อมเป็น ยืนยันไม่ได้ปล่อยคลิปกดดันศาล 7 สิงหาคมนี้ พร้อมรับมือทุกสถานการณ์“ปกรณ์วุฒิ”ระบุ ยังไม่ตั้งพรรคสำรอง ยันไปไหนไปด้วยไม่มีเงื่อนไข“ปดิพัทธ์” ขุดเอ็มโอยูดักคอเพื่อไทยขวางเสียบเก้าอี้รองประธานสภาคนที่1
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 นายพริษฐ์วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงแนวทางของพรรคก้าวไกล ในการต่อสู้คดียุบพรรค ว่าในวันที่ 2 ส.ค.เวลา 15.00 น.นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค จะแถลงต่อสาธารณะถึงคำแถลงปิดคดีเพื่อมายืนยันอีกครั้ง ถึงแนวทางที่พรรคฯดำเนินการต่อสู้และปกป้องพรรคฯเป็นอย่างไรบ้างยืนยันไม่ได้ถอดใจว่าพรรคจะถูกยุบและไม่อยากให้สังคมด่วนสรุปว่า พรรคจะถูกยุบ และเราจะพยายามทำเต็มที่เพื่อปกป้องพรรค
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ภาพรวมในตอนนี้ พรรคก้าวไกลโฟกัสและให้ความสำคัญ 2 เรื่อง คือ พยายามทำเต็มที่ภายใต้ช่องทางที่เหลือเพื่อทำให้พรรคไม่ถูกยุบ อีกส่วนหนึ่งพรรคก็เดินหน้าทำงานต่อ โดยผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องของการผลักดันกฏหมาย ใช้กลไกของคณะกรรมาธิการฯ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งกลไกกระทู้ต่างๆ เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และเดินหน้าทำงานระดับท้องถิ่นด้วยเช่นกัน ซึ่งสนามการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วน จังหวัดราชบุรี น่าจะเป็นสนามแรกที่พรรคส่งลงเลือกตั้ง
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเนื้อหาสาระในการแถลงนั้น จะเป็นการเผยแพร่และสรุปคำแถลงปิดคดีที่เรายื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นข้อมูลชุดเดียวกันกับที่เรายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นความพยายามจะยืนยันแนวทางการต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแบ่งเป็น 9 ข้อตามที่นายพิธาได้เคยแถลงไว้ ทั้งเรื่องการต่อสู้เรื่องกระบวนการที่เรามองว่าไม่ชอบในการยื่นเรื่องของการยุบพรรคโดย คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)รวมถึงการสู้ในเชิงเนื้อหาสาระด้วย ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำไปไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครองหรืออะไรที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คงมีการสรุปแนวทางอีกรอบหนึ่งรวมถึงการชี้แจง และตอบข้อสงสัย ที่ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล(ก.ก.) กล่าวถึงคดียุบพรรคก้าวไกลที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยวันที่ 7 ส.ค.ว่า ถือเป็นวันสำคัญกับพรรคก้าวไกลอย่างมาก และเราเชื่อมั่นว่าถ้าว่ากันตามข้อกฎหมาย พยานหลักฐานต่างๆกระบวนการต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะนำไปสู่การยุบพรรคได้ หวังว่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ แต่ด้วยความที่เป็นคดีสำคัญและเป็นคดีความที่สังคมก็จับตามอง เพราะพรรคก้าวไกลในปีพ.ศ.นี้ เป็นพรรคที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในสภาฯได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนกว่า 14 ล้านคน ดังนั้นการที่พรรคการเมืองถูกยุบง่ายๆ ไม่ใช่สิ่งที่สังคมไทยอยากเห็น สังคมไทยเห็นการยุบพรรคมามากมายพอแล้ว และพบแต่เรื่องความขัดแย้งใหม่ การยุบพรรคการเมืองควรหมดไปได้แล้วจากพ.ศ.นี้ จึงคาดหวังวันที่ 7 ส.ค.นี้ จะเป็นวันที่สังคมไทยจะไม่มีการยุบพรรคอีกต่อไป
ส่วนกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความพร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นแค่การพูดถึงความพร้อมทั่วไปเท่านั้น ทั้งนี้ ตนยังมั่นใจในข้อกฎหมายและเพื่อนสส.ก้าวไกลที่จะอยู่กับพรรคต่อทุกคน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อว่าจะได้เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนต่อไปว่า แคนดิเดตแกนนำไม่ใช่เฉพาะตัวเองแต่ยังมีสมาชิกพรรคอีกหลายคนที่สามารถมารับตำแหน่งนี้ได้ ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไร ไม่สามารถยืนยันได้ว่าสถานการณ์จะออกมาเป็นแบบไหน พรรคก้าวไกลเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ไว้อยู่แล้ว
เมื่อถามถึงการปล่อยคลิปวิดีโอวันนี้ จะถือเป็นการเปิดตัวว่านายณัฐพงษ์ เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีหลากหลายท่านที่อยู่ในคลิป ไม่ใช่แค่ตน กับน.ส.ศิริกัญญา ตัวละครที่สัมภาษณ์ในคลิปอาจจะไม่เพียงพอในการระบุว่า ใครเป็นหัวหน้าพรรคในพรรคถัดไป อยากให้รอติดตามฟังคำวินิจฉัยก่อน หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจริง วันที่ 8 ส.ค.นี้ เรามีจังหวะจะโคนในการขับเคลื่อนแน่นอน ถึงวันนั้นทุกท่านจะทราบพร้อมกันว่า แกนนำพรรคต่อไปคือใครบ้าง
เมื่อถามว่ามีความพร้อมหรือไม่หากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคจริง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวเอง ทุกคนมีความพร้อม เราอาสาเข้ามาทำหน้าที่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับพรรค ก็ต้องมีคนมาทำหน้าที่แทน ไม่ว่าเป็นใครในตอนนี้ ก็พร้อมจะทำหน้าที่ตรงนั้นได้
เมื่อถามว่าคลิปวิดีโอที่ปล่อยออกมาล่าสุด มีการจำลองการไต่สวนในศาล จะถือเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่า เนื้อหาในคลิปต้องการเล่าเพียงอย่างเดียว คืออยากได้ศาลที่เป็นตัวแทนตัดสินตามเจตจำนงของประชาชน เราต้องการแค่นั้น
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หากพรรคก้าวไกลต้องถูกยุบว่า ขณะนี้นายปดิพัทธ์สังกัดพรรคเป็นธรรมแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุอะไรก็ค่อยพูดคุยกันดีกว่า ตอนนี้เรายังไม่ได้คิดไปถึงจุดนั้น เรายังมองในแง่ดีอยู่
เมื่อถามว่า แสดงว่ายังมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ถูกยุบ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ส่วนตัวยังมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ในที่ประชุมสภา นอกจากมีการถามกระทู้สดและกระทู้ทั่วไปแล้ว จะมีรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง ที่มี นายพริษฐ์วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน ที่พิจารณาเสร็จแล้วเกี่ยวกับพรรคการเมือง ซึ่งจะมีเรื่องของกฎหมายยุบพรรคที่เกี่ยวข้อง กับการพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันการเมือง
ส่วนในเรื่องการตั้งพรรคใหม่นั้น นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ไม่ทราบเลย เพราะไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ไม่มีส่วนในการตัดสินใจ และโดยส่วนตัวก็ไม่อยากทราบ ถ้าผลออกมาเป็นอย่างไร และเขาเอาอย่างไรตนก็ไปตามนั้น ไม่มีเงื่อนไขอะไร และจะร่วมงานกับพรรคต่อไป
ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ มีการเตรียมพร้อมอย่างไร เนื่องจากมีรายชื่อเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคชุดที่จะถูกตัดสิทธิ์ ว่า ในวันนั้นมีความเป็นไปได้หลายทาง เราคิดถึงความเป็นไปได้ และข้อจำกัดก่อน ตอนนี้พยายามดูว่างานในความรับผิดชอบทั้งหมด มีอะไรที่ทำได้บ้าง ซึ่งก็ต้องพยายามแยกส่วน แต่ถ้าถามว่า จะหยุดการทำงานของเราในระยะต่อไปได้หรือไม่ ก็ไม่ เพราะงานดังกล่าว เราได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ ส่วนได้มีการพูดคุย หรือให้กำลังใจกับเพื่อน สส.ในพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น คุยกันในฐานะเพื่อนแบบไม่มีพรรค เป็นที่น่าประหลาดใจว่า ไม่มีใครหวั่นเกรงอะไรเลย ทุกคนยังควรทำงานอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า การอ่านคำวินิจฉัย จะกระทบต่อตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 หรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า แน่นอนคำวินิจฉัย ที่หากยุบพรรคแล้ว ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคด้วย คุณสมบัติของตำแหน่งรองประธานสภา ระบุว่า ต้องเป็น สส. หากสภาพ สส.สิ้น การทำงานของรองประธานสภาก็สิ้นเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรถึงกระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลอยากได้ตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งหากนายปดิพัทธ์หลุด ก็อาจจะมีคนเสนอชื่ออื่นที่ไม่ได้มาจากพรรคก้าวไกล นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของสภาฯ เพราะตำแหน่งในสภาฯทั้งหมด มาจากการเสนอชื่อโดย สส. ส่วนตำแหน่งที่ได้จากการทำเอ็มโอยูระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยนั้น ตำแหน่งนี้ยังควรจะเป็นของพรรคก้าวไกลอยู่หรือไม่ ตนไม่แน่ใจว่าเอ็มโอยูนั้น จะมีสาระอยู่หรือไม่ แน่นอนว่าเรายังคาดหวังการรักษาคำพูด เพราะประชาชนเจ็บปวดกับการเสียคำพูดมาหลายรอบแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี