นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.)กล่าวถึงกรณีที่จะมีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองเกิดขึ้นในเดือนส.ค.นี้ ทั้งการตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล และการตัดสินความเป็นนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ รวมถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะพ้นโทษ ในฐานะเป็นฝ่ายปกครองจะต้องมีการดูแลความเรียบร้อยอะไรหรือไม่ว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับความมั่นคง ยืนยันว่าไม่มี ทุกคนต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม เคารพกฎหมาย ส่วนรัฐบาลก็ยังคงต้องทำงานต่อไป เราก็ต้องทำงานไป จนกว่าจะมีคำพิพากษาอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรา เราก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม ก็ไม่มี อะไรเกี่ยวข้องกับรัฐบาล

‘อนุทิน’ลั่นยึดกติกาขยับนั่งนายกฯ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวให้จับตาว่านายอนุทิน จะเป็นนายกรัฐมนตรีสำรอง นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า “สำรอง แสดงว่าไม่ใช่ของจริง” เมื่อถามย้ำว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายเศรษฐา คนที่จะได้นั่งในตำแหน่งนายกฯต่อคือนายอนุทิน ทำให้นายอนุทิน อุทานขึ้นว่า “โอย สมพรปาก ผมเอาตามกติกา กติกาคืออะไร พรรคที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดก็ต้องเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ส่วนพรรคที่มีสมาชิกไม่ถึงก็ต้องเป็นพรรคร่วม และเมื่อร่วมกันแล้วก็ต้องสนับสนุนกันให้ตลอดรอดฝั่ง”ส่วนมีสัญญาณอะไรมาถึงแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวติดตลกว่า “มีสัญญาณ5Gมือถือติดตลอด”

ขอทำงานตามอำนาจหน้าที่ในรัฐบาล

เมื่อถามว่า กระแสมาแรงขนาดนี้ กลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะมีความหวาดระแวงหรือไม่ นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่มี ตนทำหน้าที่ของตนตอนนี้ตามกระทรวงที่กำกับดูแล วันนี้ตนเองยังทำหน้าที่ดูแล3-4 กระทรวงที่กำกับดูแลอยู่ และวันที่ไปตีกอล์ฟเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ก็ไม่เคยได้คุยเรื่องนี้กับนายทักษิณ ชินวัตร มีแต่บอกว่า ตนตีกอล์ฟ ห่วยจัง ฝีมือไม่ได้เรื่อง น่าจะตีได้ดีกว่านี้ แล้วตอนนี้ ตนไม่รู้สึกอะไรที่มีชื่อตนเองโผล่เข้ามา เพราะรู้ตัวเองอยู่แล้วและทำตามกติกามารยาท และทุกวงการก็มีกฎกติกามารยาท ถ้าเราเคารพกติกาเสียอย่างก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล ตนขอยกตัวอย่างว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทย มาด้วยที่นั่งสูงสุด ใครก็มาแย่งตนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้เหมือนกัน

ไม่ชอบเลี้ยงงูเห่า-จองรองปธ.สภาคนที่1

เมื่อถามต่อว่า มีการวิเคราะห์กันว่าหากมีการตัดสินยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ก่อน อาจจะเกิดบรรดางูเห่า ที่จะเข้ามาสังกัดภายในพรรค และสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มี เลี้ยงงูแล้วมีความสุขหรือ ไม่เอาหรอก” เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ จะมีการวางตัวผู้ที่จะมาทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่1 ในฐานะอดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามกติกาและมารยาท ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯชุดนี้ เลือกกันก่อนที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล จึงถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นตามปกติ แต่ตอนนี้ถือว่ามีความเป็นปกติแล้ว “พรรคภูมิใจไทยก็ต้องขอแหละหากมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ต้องให้กำลังใจนายปดิพัทธ์ ขอให้โชคดีทุกคน มันหมดเวลาชิงดีชิงเด่นไปนั่งปรารถนาร้ายต่อกัน ไม่มีประโยชน์ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการทำหน้าที่” นายอนุทิน กล่าว

ไม่รู้ข่าวปรับ’พปชร.’พ้นร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่า ปรากฏชื่อ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย จะมาเป็นแคนดิเดตรองประธานสภาฯ คนที่ 1 นายอนุทิน หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่เคยมีในหัว มันยังไม่เกิดขึ้น ขอให้มันเกิดขึ้นก่อน เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับพรรค พปชร.ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.แล้วหรือไม่ นายอนุทิน เดินออกจากวงสัมภาษณ์พร้อมโบกมือปฏิเสธ ก่อนจะชี้และระบุว่าให้ไปถามพรรคแกนนำ ไม่ใช่มาถามตน และตนไม่ได้คุยกับพล.อ.ประวิตรเมื่อผู้ข่าวถามย้ำว่า ไม่ชอบเลี้ยงงูหรือ นายอนุทิน ปฏิเสธว่า ไม่ได้เลี้ยง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวแซวว่านายอนุทิน ด้วยว่าออร่านายกรัฐมนตรีจับ นายอนุทิน จึงกล่าวติดตลกว่า ไปฉีดโบทอกซ์มา เติมฟิลเลอร์

‘เฉลิม’เข้าสภายิ้มบอกVery Happy

ที่รัฐสภาผู้สื่อข่าวบังเอิญพบกับ นายเฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จึงได้สอบถามว่า วันนี้มาประชุมเรื่องอะไร นายเฉลิมระบุว่า ไปห้องโน้น ห้องนี้มา เมื่อถามต่อว่า ช่วงนี้แฮปปี้ดีหรือไม่ นายเฉลิมตอบว่า ” Very happy”ก่อนจะยิ้มให้ ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิก พปชร.จะมีการเปิดตัว 2 อดีตสมาชิก-สส.พรรคเพื่อไทยนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า ตนไม่ทราบเรื่อง และ ร.ต.อ.เฉลิม ได้เดินขึ้นลิฟต์ไป

‘สามารถ’ลั่นวิจารณ์ในนามส่วนตัว

เวลา 11.10น.วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร.แสดงความไม่พอใจต่อการเคลื่อนไหว โดยเตือนหากยังไม่จบ ไม่หยุดการกระทำ จะใช้มติกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ขับไล่ออกจากพรรคว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เพราะตนไม่ได้ทำอะไรให้พรรคเสียหาย สิ่งที่ตนทำไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลก็ทำในนามส่วนตัว ตามเสรีภาพ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่เคยใส่เสื้อพรรคพปชร.ไปด่านายกรัฐมนตรี ตนแค่ออกมาพูดแทนประชาชนที่วันนี้กำลังเดือดร้อนเรื่องปากท้อง

ห้ามด่ารบ.ให้เขียนเป็นข้อบังคับพรรค

“ถ้าท่านนายกฯคุณเศรษฐา ทวีสิน พูดว่า เสียหาย คุณเศรษฐาก็ฟ้องผมได้ แต่ปรากฏว่าตั้งแต่พูดมาจนถึงปัจจุบัน คุณเศรษฐาไม่เคยฟ้องผมแม้แต่คดีเดียว ไม่เคยมี สส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาโต้ตอบผมแม้แต่คนเดียว กลับกันพรรคพลังประชารัฐเดือดร้อนแทนนายกรัฐมนตรี ผมเลยงงว่าพรรคเป็นพรรคลูกไล่ หรือพรรคร่วมรัฐบาล คำว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่พรรคลูกไล่ หรือพรรคสาขา พรรคพลังประชารัฐเรามีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถ้าผมจะเชียร์ให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯแล้วผมผิดหรือผมจะต้องถูกขับออกจากพรรคหรือ

“ผมเชียร์ ผมชมหัวหน้าพรรค เอาคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค กลับจะถูกให้ขับออกจากพรรค ผมเลยตอบไปว่า ไม่ต้องขับผมหรอกครับ ถ้าขับผมแล้วสมาชิก 60,000คน จะเดือดร้อน เพราะถ้าพูดไม่ได้ ต่อไปด่ารัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องเขียนข้อบังคับพรรคมาว่า ห้ามพูดถึงรัฐบาล ห้ามโจมตีรัฐบาล ถ้าเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล” นายสามารถ กล่าวและว่า ตนไม่เคยด่ารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเลยสักคนเดียว ทั้งๆ ที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน สุดทน สุดกลั้น แต่เราเข้าใจความเป็นพรรคการเมือง เราต้องให้เกียรติกันอย่างเช่น นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี หรือ นายภูมิธรรม เวชชัย ซึ่งมีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล ก็ออกมาว่า นายเศรษฐา แต่ไม่เคยเห็น นายเศรษฐา ออกมาตำหนิ นายภูมิธรรม ไม่เห็น นายภูมิธรรม ตำหนิ นายวรชัย

โวไม่เห็นพรรคเรียกไปสอบเอาผิด

เมื่อถามถึงกรณีการคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ทางนายสามารถ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกัน เพราะเรื่องไม่ได้เกิดจากตน แม้จะปรับความเข้าใจกันยากขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะหาก ร.อ.ธรรมนัส ไม่ด่าตนและตนไม่ด่า ร.อ.ธรรมนัส ก็ไม่มีปัญหาอะไร การที่มาชี้แจงในวันนี้ เพราะร.อ.ธรรมนัส ให้เกียรติตนมาก จึงรู้ว่ากระบวนการที่ผ่านมา รู้ตัวผู้กระทำ แต่ขอไม่พูดถึง พร้อมอโหสิกรรมให้ แต่วันนี้มาขอโทษตนหน่อยก็ดี อีกทั้งยังไม่เคยเห็นกระบวนการสอบสวนว่า ตนมีความผิดแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเรื่องดังกล่าวไม่เคยเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่มีเพียงกระแสข่าวออกไปว่าตนเป็นคนชั่ว คนเลว คนต่ำช้า แล้วมันยุติธรรมหรือไม่ คราวที่แล้วตนนั้นใหม่ทางการเมือง แต่วันนี้ไม่ใหม่แล้วจะไม่ยอมตายคนเดียว และไม่ยอมให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว เมื่อถามว่า เหตุการณ์นี้รู้สึกน้อยใจหรือไม่ นายสามารถ ย้อนถามผู้สื่อข่าวกลับมาว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะน้อยใจหรือไม่ ขอให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา

“ขนาดคนในพรรคเพื่อไทยยังวิจารณ์นายกได้ แล้วผมเป็นใคร เป็นแค่สมาชิกพรรคตัวแค่นี้ และเวลาผมวิจารณ์นายกฯผมก็วิจารณ์ในนามส่วนตัว ดังนั้นจะมาลงโทษผมเรื่องไร” นายสามารถ กล่าวทิ้งท้าย

โดยระหว่างที่ นายสามารถให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐและคณะได้ลงมาชั้นล่างพอดี นายอรรถกรได้ทำท่าแบะปาก และเอามือวนที่หู ก่อนจะสายหน้าและโบกมือในอาการกวน และช่วงที่นายอรรถกร เดินผ่านวงสัมภาษณ์ไปนั้น ได้กระแอมใส่ด้วย ก่อนจะเดินออกไปทันที

อ้าง’ลุงป้อม’โทรให้กำลังใจและอดทน

ก่อนหน้านี้ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตกรรมกรรผู้ช่วยรัฐธรรมนตรี ประจำกระทรววงยุติธรรม ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพบวชพระพร้อมข้อความว่ามีคนบอกว่า ผมเป็นเหมือนมวยไม่มีราคา ม้าไม่มีชั้น แต่ก็แปลกพูดถึงผมหลายรอบแล้ว ล่าสุดมาถามผมว่าเคยบวชเรียนหรือยัง ผมขออนุญาตใช้รูปตอบแทนแล้วกันผมเคยบวชเรียน โดยมี สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนท่านละเคยบวชเรียนหรือยัง?? บวชกับใคร#บวชเรียนแล้ว#กตัญญู#กตเวที#เข้าใจมั้ย

นายสามารถ ยังโพสต์ด้วยว่า”ลุงป้อมโทรมาให้กำลังใจและอดทน” ทั้งนี้ นายสามารถ เคลื่อนไหวเชิงตำหนิ นายเศรษฐาและรัฐบาลออกสื่ออย่างต่อเนื่อง รวมถึงการชักชวนนายวัน อยู่บำรุง อดีตสส.กทม.พรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค ตลอดจนการเผยแพร่เพลงที่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ออกมา 2เพลง คือเพลง “ลุงตู่เริ่ม ลุงป้อมขอทำต่อ” และเพลง “ลุงป้อม มอบหัวใจให้คนไทย”จนเหมือนต้องการเกาะกระแสของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ทำให้มี สส.พรรค พปชร.บางส่วน แสดงความไม่พอใจพฤติกรรมนายสามารถ ในไลน์กลุ่ม สส.พรรคพปชร.

สส.พปชร.ลงชื่อขับไล่พ้นพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีปัญหาในพรรค พปชร.ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.กับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรค โดย ร.อ.ธรรมนัส ออกมาระบุให้หยุด ถ้าไม่หยุดจะใช้มติพรรคขับไล่ออกจากพรรคอีกรอบ ซึ่งปรากฏว่า ในช่วง 12.30 น.วันนี้ (31 ก.ค.) สมาชิกพรรค พปชร.กว่า 30คน นัดรับประทานอาหารกันที่รัฐสภา โดย นายไผ่ ลิกค์ รองเลขาธิการพรรค พปชร.ได้โพสต์รูปสมาชิกทั้งหมด พร้อมระบุข้อความว่า “พวกเราพี่ น้องพรรคพลังประชารัฐ อยู่รวมกันกันเป็นหนึ่งเดียว ยืนยันไปในทิศทางเดียวกัน ปลดแน่นอนคนที่สร้างความวุ่นวายครับ เซ็นกันทั้งพรรคทุกคนครับ” ขณะที่มีรายงานว่า เมื่อวานนี้(30ก.ค.) พล.อ.ประวิตร ได้มอบให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรค ไปดำเนินการหาทางออกและควบคุมไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม ซึ่งมีข่าวว่า นายสันติ ได้เรียกนายสามารถ เข้าพูดคุยวันพรุ่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน กก.บห.พรรค พปชร.และสส.ได้ร่วมลงชื่อเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ขับ นายสามารถ พ้นจากสมาชิกพรรค หากไม่หยุดเคลื่อนไหวสร้างความเสียหายให้กับพรรค ขณะที่วันที่ 1ส.ค.นายสันติ จะเรียก นายสามารถ เข้าพบ