ไม่รู้ว่าเป็น “ชะตากรรมที่ไม่อาจเลี่ยง” หรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ หลังจากที่ “เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 14 ส.ค. 2567 กรณีแต่งตั้ง ‘พิชิต ชื่นบาน’ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เป็นบุคคลต้องห้ามหรือขาดคุณสมบัติไม่อาจเป็นรัฐมนตรีได้
ทำให้นายเศรษฐา กลายเป็นนายกฯ อีกรายภายใต้สังกัดบ้านใหญ่ตระกูล “ชินวัตร” ที่ “จบไม่สวย” บนเส้นทางการเมือง!!!
- เริ่มตั้งแต่ตัวของ “ทักษิณ ชินวัตร”เอง ที่แม้จะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เมื่อครั้งนำ “พรรคไทยรักไทย” ลงสนามการเมืองในปี 2544 และปี 2548 แต่สุดท้ายเกิดการประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กลุ่มเสื้อเหลือง) ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าทักษิณใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง ก่อนจบลงด้วยการรัฐประหารในวันที่ 19 ก.ย. 2549 ตามด้วยการยุบพรรคไทยรักไทย และตัวของ ทักษิณ ชินวัตร ยังถูกดำเนินคดี จนต้องหลบหนีอยู่ในต่างประเทศนานกว่าทศวรรษ กระทั่งยอมกลับเข้าประเทศไทย ในวันที่ 22 ส.ค. 2567
- “สมัคร สุนทรเวช” นักการเมืองอาวุโสที่ผ่านมาแล้วทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่น เคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเกือบได้เป็นประธานวุฒิสภา หากไม่เกิดรัฐประหาร 2549 โดยเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 สมัคร สุนทรเวช ลงเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้กับ “พรรคพลังประชาชน” พรรคการเมืองรุ่นที่ 2 ของบ้านใหญ่ชินวัตร ซึ่งแม้พรรคพลังประชาชนจะชนะเลือกตั้งวันที่ 22 ธ.ค. 2550 แต่ท้ายที่สุด สมัคร สุนทรเวช กลับต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 ธ.ค.2551 เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย กรณีไปเป็นพิธีกรรายการ “ชิมไปบ่นไป” ว่าเข้าข่ายการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มาตรา 267
-“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้มีศักดิ์เป็น “น้องเขย” ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร สมชายเป็นนายกรัฐมนตรี วันที่ 18 ก.ย. 2551 รับไม้ต่อจาก สมัคร สุนทรเวช แต่ถือเป็นหนึ่งในนายกฯ ที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุด เพียง 2 เดือนเศษๆ เท่านั้น เพราะในวันที่ 2 ธ.ค. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชน กรณีถูกร้องว่าทุจริตการเลือกตั้ง ทำให้ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองและพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ไปด้วย นอกจากนั้น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังถูกตั้งฉายา “นายกฯ ที่ไม่เคยเข้าทำเนียบ” เพราะในเวลานั้น ทำเนียบรัฐบาลถูกยึดโดยผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
- “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มาถึงพรรคการเมืองรุ่นที่ 3 อย่าง “พรรคเพื่อไทย” คราวนี้ “น้องสาวคนเล็ก” ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ถูกวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ และเป็นไปตามคาด ชื่อของ ทักษิณ ยังขายได้ ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.2554 ส่งให้ยิ่งลักษณ์เป็น “นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย” แต่ก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ครบวาระเพราะต้องเผชิญกระแสต่อต้านครั้งใหญ่จากม็อบนกหวีด"กปปส."จากประเด็นเรื่อง"นิรโทษกรรมสุดซอย"
ยิ่งลักษณ์เจอมรสุมการเมืองอย่างหนัก จนต้องประกาศยุบสภา ถูกศาลรัฐธรรมนูญคำวินิจฉัยให้พ้นนจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในคดีโยกย้าย ‘ถวิล เปลี่ยนศรี’จากตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แล้วให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. เพื่อเปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นพี่ชายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยาของอดีตนายกฯ ทักษิณ ขึ้นเป็น ผบ.ตร. จึงเข้าข่ายใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง
ก่อนจะถูกรัฐประหารในเหตุการณ์ 22 พ.ค. 57 และสุดท้ายก็ต้องหนีออกนอกประเทศในวันที่ 25 ส.ค.60 ในวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว
เมื่อรวมกับกรณีของ เศรษฐา ทวีสิน ต้องกระเด็นพ้นจากตำแหน่งนายกฯกรณีแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ อดีตนายกฯ จากขั้วการเมือง บ้านใหญ่ชินวัตร มีอันกระเด็น “ตกเก้าอี้”พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมากถึง 4 ใน 5 ราย
ก็ต้องดูกันต่อไปว่า นายกฯคนที่ 31 คนต่อไปภายใต้อุ้งเมือของ"นายใหญ่"จากขั้วการเมืองสายนี้ จะมีจุดจบซ้ำรอยเดิมหรือไม่???
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี