แตกหัก'ลุงบ้านป่า'!!! มติ สส.เพื่อไทยไม่เอากลุ่ม'บิ๊กป้อม' เปิดทางดึงก๊วน'ธรรมนัส-ปชป.'ร่วมรัฐบาล แบไต๋ทาบทามเป็นรายบุคคล จับตาที่ประชุมกก.บห.พลังประชารัฐ’ได้ร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่

27 สิงหาคม 2567 ที่ตึกชินวัตร 3 พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้มีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย โดยมีประเด็นที่สังคมให้ความสนใจคือ การเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์1 ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะความชัดเจนในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุม สส. ของพรรคเพื่อไทย ว่า มีการพูดกันในที่ประชุมว่ามีความไม่สบายใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของพรรคร่วม โดยเฉพาะหัวหน้าของพรรคร่วม ซึ่งเป็นมาตั้งแต่สมัยตั้งรัฐบาลที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ที่ไม่ได้มาร่วมโหวต ประกอบกับอีกหลายเรื่องซึ่งสื่อมวลชนก็ทราบดี อย่างการยื่นถอดถอนอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับอดีตนายกฯ เศรษฐา ก็เป็นที่ทราบกันว่าใครอยู่เบื้องหลัง

ส่วนการดำเนินกิจกรรมทางนิติบัญญัติต่อไป ในพรรคก็มีมติให้กรรมการบริหารพรรคไปรวบรวมเสียงสมาชิกในสภาให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาล

ส่วนคำถามว่า พรรคพลังประชารัฐอาจจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขอให้เป็นมติของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ในช่วงเย็นวันนี้ คงจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยจะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร ก็ไม่ได้มีข้อกฎหมายกำหนดไว้ แต่เป็นสิ่งที่หากจะอยู่ด้วยกันก็ต้องมีความสุขกันทั้ง 2 ฝ่าย

เมื่อถามว่าการรวบรวมเสียงต่อจากนี้จะรวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่า่วว่า ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียว ซึ่งนอกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วก็ยังมีพรรคเล็กๆ อยู่ แม้จะมีเพียง 1-2 เสียง ก็มีส่วนทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง ส่วนกรณีของพรรคไทยสร้างไทยที่มี สส. หลายคนโหวตให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ก็เป็นไปได้เพราะมีความเห็นตรงกันเรื่องการให้ตัวแทนของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้นำรัฐบาล ก็อาจจะไปทำงานด้วยกันได้

ต่อคำถามว่า สส.พรรคพลังประชารัฐกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ก่อนหน้านี้สนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลมาตลอด พรรคเพื่อไทยมองเรื่องนี้อย่างไร นายสรวงศ์ กล่าวว่า สส. แต่ละท่านมีเอกสิทธิ์ มีเอกภาพในการทำงานอยู่แล้ว ก็ต้องมีการเชื้อเชิญกัน แต่ท่านใดจะสะดวกหรือไม่สะดวกก็เป็นเรื่องของบุคคล จะเป็นการติดต่อทาบทามไป หากสะดวกใจจะมาทำงานร่วมกันก็มา หากไม่สะดวกใจก็ถือว่าแยกกันเดิน สวนเรื่องโควตารัฐมนตรีนั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ การมอบตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับคนนอกที่ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีข้อกำหนดหรือข้อห้ามในกฎหมาย มีแต่ข้อตกลงในเรื่องของโควตา แต่ก่อนเป็นพรรคการเมืองก็เป็นโควตาของแต่ละพรรคไป แต่การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดนี้ก็ถือเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี พร้อมกับยืนยันว่า ข้อสรุปเกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐจะยังได้ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ น่าจะทราบกันภายในวันนี้ โดยจะเป็นมติของกรรมการบริหารพรรค