คุยกันบ้าง!!! 'สมศักดิ์'ซัด'กลุ่มต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น'ใจแคบ

คุยกันบ้าง!!! 'สมศักดิ์'ซัด'กลุ่มต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น'ใจแคบ

วันอังคาร ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2567, 11.42 น.

"สมศักดิ์"ซัด"กลุ่มต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น"ใจแคบ คุยกันบ้าง โวยเผาหุ่นตนทุกครั้งที่มีกระแส จนไหม้ไม่รู้กี่รอบ วอนเห็นใจคนสุโขทัย ย้ายถิ่นฐานหนีหมดแล้ว เพราะสู้น้ำไม่ไหว แต่ตนเองไปไม่ได้ เพราะเป็นนักการเมือง แนะหาหน่วยงานกลาง หาข้อสรุป เสนอใช้เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า แบ่งรายได้ให้คนพื้นที่

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพ​สุ​ทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการเสนอสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาใหม่ หลังมีปัญหาน้ำท่วมหนัก ว่า พอพูดถึงเรื่องเขื่อนใหญ่ลุ่มน้ำยม เราไม่ควรจะมาวิพากษ์วิจารณ์ หน่วยงานของภาครัฐ แต่ควรหาผู้รู้มาตัดสิน ซึ่งตนได้บอกให้ สทนช.หาหน่วยงานกลาง เช่น ธนาคารโลก เพื่อวิเคาระห์​ ต้องดูว่าต้นน้ำมีความเสียหาย เรื่องที่อยู่ที่กิน เช่น ในพื้นที่ สะเอียบ จังหวัดแพร่ ก็จะมีความรุนแรง เพราะเขารักถิ่นฐาน และมีความรู้สึกว่าได้รับผลกระทบเสียหาย แต่ระหว่างลำน้ำยม คนที่เสียหายที่สุด คือภาครัฐ เพราะต้องออกมาชดเชย รวมถึงประชาชนที่เห็นใจคนถูกน้ำท่วมก็เข้าไปช่วยเหลือ ในเรื่องของอาหาร โดยเฉพาะจังหวัดสุโขทัย ได้รับการดูแลจากภาคประชาชนและจากภาครัฐเป็นจำนวนมาก จึงต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้าไปช่วยเหลือ


นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มที่ต่อต้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น มาเผาหุ่น ทุกครั้งที่มีกระแส มันใจแคบเกินไป ถ้าใจแคบแบบนี้ ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ควรให้เอาหน่วยงานกลางมาช่วยดู การที่ใครพูดอะไรไม่ได้เลย คนจังหวัดแพร่ คนจังหวัดสุโขทัย เขาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ตนอยู่สุโขทัยถูกล้อเลียนมาตลอด เรื่องเขื่อนเรียงหิน ครั้งนี้ตนก็ขอเหอะเขื่อนเรียงหิน ความยาว 9 พันเมตร ในพื้นที่ 3 อำเภอ ที่ถูกกัดเซาะ ก็ต้องสร้างเขื่อนเรียงหินเพื่อกำแพง"

"ทุกครั้งที่จะมีการพูดถึงเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้น ก็จะมีการเผาหุ่น ไม่รู้ว่าเผาจนผมไหม้กี่ครั้ง ใจแคบจริงๆ พูดคุยกันบ้างสิ"

นายสมศักด์​ กล่าวด้วยว่า ถ้าเขื่อนแก่งเสือเต้นผลิตไฟฟ้าได้ ซึ่งตามหลักการ เขื่อนแก่งเสือเต้นมีความเหมาะสมในการผลิตไฟฟ้าเพราะมีความสูงถึง 60 กว่าเมตร ซึ่งเมื่อน้ำตกลงมา จะมีแรง ที่จะสามารถผลิตกระไฟฟ้าได้มาก เมื่อนำไปขาย ก็สามารถแบ่งเงินให้คนในพื้นที่ได้ โดยให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็อาจจะเป็นแนวคิดใหม่ แม้จะได้รับความเสียหายแต่ก็จะได้รับการชดเชยจากรายได้ตลอดชีวิต ดังนั้น ควรหันหน้ามาคุยกัน แต่เรื่องนี้ตนจะไม่ได้คุยเอง เพราะไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง แต่พูดในฐานะคนที่ได้รับผลกระทบ เพราะคนสุโขทัยที่ตนรู้จัก ในอำเภอศรีสำโรง และอำเภอเมือง ย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมดแล้ว เพราะ "สู้น้ำไม่ไหว" เหลือแต่ตนที่ยังอยู่ เพราะตนเป็นนักการเมืองที่เกิดที่นั่น ย้ายไปไหนไม่ได้ คนอื่นย้ายไปเจริญเติบโต คนที่ได้เรียนหนังสือ มีหลักมีฐานแล้ว ก็ไม่มีใครอยู่จังหวัดสุโขทัย เพราะหนีน้ำท่วมสู้ไม่ไหว

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top