"พีระพันธุ์"เผย"รทสช."เสนอนโยบายหลักพรรค"ก.อุตฯ-ก.พลังงาน"สานงานต่อ แก้กฎระเบียบเป็นอุปสรรคเพิ่มความคล่องตัว บอกรอคณะทำงานตรวจกฎหมาย แก้ปัญหาราคาพลังงานช่วยประชาชนรากหญ้า
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนำเสนอนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อรัฐบาล ว่า จะมีการเสนอนโยบายหลักกระทรวงที่พรรครับผิดชอบ คือ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน ซึ่งเราก็จะทำงานต่อเนื่องจากเมื่อครั้งที่แล้ว
เมื่อถามว่า ครั้งนี้จะชัดเจนเลยหรือไม่ว่า ต้องทำอะไรอย่างไรบ้างในส่วนของกระทรวงพลังงาน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า นโยบายทางด้านพลังงานของพรรคชัดเจนอยู่แล้ว ที่จะหาทางในการวางระบบพลังงานของประเทศ และเพื่อสร้างให้เกิดความเป็นธรรม ด้วยราคาที่เหมาะสมกับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาก็ดำเนินการมาโดยตลอด ดังนั้น ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็จะนำนโยบายดังกล่าวมาสานต่อ จากสิ่งที่ทำอยู่ ส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม จะเน้นในเรื่องของอุตสาหกรรมรายย่อยมากขึ้น ธุรกิจเอสเอ็มอี ที่จะต้องให้การสนับสนุน รวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคความไม่คล่องตัวในการทำธุรกิจ และเรื่องการขยายธุรกิจ หรือโรงงานต่างๆ ด้วย
เมื่อถามต่อว่า ในยุครัฐบาลนี้จะสามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนรากหญ้าได้หรือไม่ ว่าราคาพลังงาน และแก๊สต่างๆ จะลดลง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตอนนี้กฎหมายที่ตนทำอยู่เสร็จแล้ว ซึ่งเป็นการวางระบบใหม่ทั้งหมด แต่บังเอิญที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองพอดี ดังนั้น ตนก็จะทำต่อ ซึ่งกฎหมายฉบับต้นร่างเสร็จแล้ว ตอนนี้ให้คณะทำงานด้านกฎหมาย และพลังงาน ตรวจสอบอยู่ เมื่อถามอีกว่า จะสามารถเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เมื่อไหร่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ในปีนี้ได้แน่นอน เพราะกฎหมายที่ตนทำนี้เป็นกฎหมายรูปแบบใหม่ จึงต้องอาศัยคนที่มีความเชี่ยวชาญช่วยตรวจดู เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี