‘เมฆินทร์’ ชี้ สมาชิก ปชป. ต้องรวมพลังฟื้นฟูพรรค ไม่ใช่ทำตัวแบบ ‘รักจริงต้องทอดทิ้งพรรค’ 

นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด  กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางราย มีแนวคิดที่จะตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยอ้างว่า ต้องการฟื้นฟูและปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนเห็นว่า ที่ผ่านมา มีคนอ้างว่ารักพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยยกเหตุผลร้อยแปดที่รองรับการลาออกของสมาชิกเพื่อโยนความผิดให้กับคณะผู้บริหารและพรรคประชาธิปัตย์เอง ซึ่งตนขอเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า ‘กลุ่มคนรักจริงต้องทอดทิ้งพรรค’ ทั้งๆ ที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดปัจจุบัน ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคนั้น ก็ผ่านคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคตามที่ข้อบังคับพรรคกำหนดไว้ และเวลาจะตัดสินใจเรื่องที่สำคัญๆ ของพรรค ก็มีการตัดสินใจกันในที่ประชุมพรรคอย่างเปิดเผย ไม่ใช่ไปแอบเคาะโต๊ะแล้วมาบอกกันทีหลัง แล้วที่สำคัญก็คือ การเคารพในความหลากหลายของความคิดเห็นของคนในพรรค ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นพรรคการเมืองที่ดำเนินกิจกรรมมาจนถึงทุกวันนี้  ซึ่งตนยังรู้สึกเคืองคนที่ปล่อยข่าวว่า จะมีการดำเนินการขับผู้ที่แสดงความไม่เห็นด้วยในการตัดสินใจที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลโดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ 

นายเมฆินทร์ กล่าวต่อว่า กลุ่มคนเหล่านี้มักจะเอาอัตตาความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยคาดหวังว่า พรรคจะต้องทำอย่างนั้นจะต้องไปอย่างนี้ตามใจตัวเอง พอไม่ได้ดั่งใจ ก็เริ่มออกอาการเรียกร้อง จนกระทั่งลาออกโดยที่อ้างความรักพรรคอย่างสุดหัวใจ แต่ตอนท้ายก็โยนความผิดทุกสิ่งทุกอย่างให้คนอื่นๆ รวมถึงพรรคฯ ด้วย ซึ่งตนเห็นว่า ในเวลานี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องการสมาชิกพรรคทั้งอดีตและปัจจุบันเข้ามาฟื้นฟูดูแลพรรค ให้กลับมาเป็นที่นิยมของประชาชน อย่างน้อยๆ จะต้องได้ สส.มากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เปรียบเสมือนการรีโนเวตให้ดียิ่งขึ้น คนในบ้านจะต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำให้บ้านแข็งแรงมั่นคงและมีความอบอุ่น ไม่ใช่เห็นบ้านมีรอยผุผังหรือโครงสร้างเสียหาย ก็พากันออกมา แล้วมาต่อว่า คนที่กำลังซ่อมแซมปรับปรุงบ้านอยู่ ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่กำลังซ่อมแซมปรับปรุงอยู่ในขณะนี้แล้ว ยังถือว่าคนที่ออกมาจากตรงนั้น ไม่ได้มีความรักในบ้านอย่างแท้จริงอีกด้วย 

“ผมเห็นว่า คนที่คิดที่จะตั้งพรรคใหม่ โดยอ้างเรื่องอุดมการณ์ ซึ่งคนที่คิดแบบนี้ก็หวังว่า หากกรรมการบริหารชุดปัจจุบันพ้นอำนาจไป ก็จะกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ นั้น ถือเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งผมเห็นข่าวที่ นายเชาว์ มีขวด มีแนวคิดที่จะให้ 21 สส. ที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปพรรคฯ ทำนองเหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐนั้น ถือเป็นแนวคิดที่น่ารังเกียจเป็นอย่างมาก เพราะช่วงที่ผ่านมา ขนาดมีการปล่อยข่าวว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลจะมีการขับ นายชวน หลีกภัย พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคนั้น  พวกที่ออกมาตอบโต้เรื่องนี้ ก็คือคนที่มีความคิดเห็นว่า สมควรให้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เพราะตนเห็นว่า เจตนาของคนปล่อยข่าวคงจะสร้างภาพผู้ร้ายให้กับนายเฉลิมชัย และกรรมการบริหารพรรค แต่การที่นายเชาว์ ออกมาเผยไต๋แบบชัดเจนขนาดนี้ ก็เป็นที่แน่ชัดว่า นายเชาว์ คงไม่มีหัวจิตหัวใจที่จะรับฟังความเห็นของผู้อื่น หรือเรียกได้ว่า มองคนที่เห็นต่างจากตัวเองเป็นศัตรู  เพราะเป็นที่รู้กันว่า การฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่แค่อาศัยกระแสหรือตัวบุคคลเพียงไม่กี่คน แต่เป็นหน้าที่ของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ที่จะต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่ใช่เอาตัวอย่างจากพรรคอื่นแล้วมาทำกับที่พรรคประชาธิปัตย์ แล้วผมขอถามว่า นายเชาว์ เคยทำอะไรให้กับพรรคบ้าง นอกจากพูดจาให้ข่าวราวกับตัวเองเป็นเจ้าของพรรค  ซึ่งหาก 21 สส. ลาออกตามคำแนะนำของนายเชาว์ จริงๆ นายเชาว์จะเอาคนเหล่านี้ไปไว้ที่ไหน และจะออกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมทั้ง 21 เขตที่เขาทำตามที่คุณบอกหรือไม่ ” นายเมฆินทร์ กล่าว