วันพฤหัสบดี ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘แพทองธาร’ร่ายยาวแถลง 10 นโยบายรัฐบาล ย้ำรูปธรรม‘มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี’

‘แพทองธาร’ร่ายยาวแถลง 10 นโยบายรัฐบาล ย้ำรูปธรรม‘มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี’

วันพฤหัสบดี ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567, 10.57 น.
Tag : แถลงนโยบาย นโยบายรัฐบาล ประชุมสภา แพทองธาร อุ๊งอิ๊งค์
  •  

พาคนไทย‘4มี’ไปพร้อมๆกัน!‘นายกฯอิ๊งค์’คิกออฟแถลงนโยบายรัฐกลางสภาฯ เปิดสารพัดความท้าทายต้องเปลี่ยนแปลง ชี้ปัญหาการเมืองไทยไร้เสถียรภาพมายาวนาน จากรัฐประหาร-ขัดแย้งแบ่งขั้ว-เปลี่ยนรัฐบาลคาดเดาไม่ได้ ลั่นดัน 10 เรื่องเร่งด่วน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต สถานบันเทิงครบวงจร แก้ยาเสพติด’ ระยะกลาง-ยาว ‘ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ - โครงสร้างพื้นฐาน - ปฏิรูปภาษี เร่งทำรธน.ใหม่ฉบับประชาชน แก้น้ำท่วม-น้ำแล้งมีประสิทธิภาพ ยันพิทักษ์รักษาสถาบันฯ ย้ำรูปธรรม ‘มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี’

12 กันยายน 2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 โดยมี ครม. สส. และ สว. เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่า คณะรัฐมนตรีขอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาให้ทราบถึงเจตนารมณ์ ยุทธศาสตร์ และนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งมั่นจะสร้างความสามัคคี ปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และจะนำไปสู่ความร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองการปกครองของประเทศให้ก้าวหน้าเพื่อประโยชน์สุขของชาวไทยทุกคน

น.ส.แพทองธาร แถลงในประเด็นความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญ ว่า ประเทศไทยเผชิญความท้าทายอยู่หลายประการ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่โตน้อยกว่าศักยภาพจริง ปัญหาหนี้สินเรื้อรัง ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสังคมและการเมือง ทั้งหมดนี้รัฐบาลพร้อมจะประสานพลังกับทุกภาคส่วน เปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็น “ความหวัง โอกาส และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม” ของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม รัฐบาลพร้อมเสริมศักยภาพ สร้างโอกาสให้ประชาชนทั้งบทบาทและสิทธิเพื่อพลิกฟื้นประเทศจากปัญหาที่รุมเร้าและนำพาให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

นายกรัฐมนตรี ได้ยกความท้าทาย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่โตน้อยกว่าศักยภาพจริง ปัญหาหนี้สินเรื้อรัง ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อม และ สังคมและการเมือง ทั้งหมดนี้คือ “ความท้าทาย” ที่รัฐบาลพร้อมจะประสานพลังกับทุกภาคส่วน เปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็น “ความหวัง โอกาส และความเสมอภาค ทางเศรษฐกิจและสังคม” ของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายสำคัญเร่งด่วนเพื่อการเดินหน้าบริหารประเทศ 10 ข้อ ที่จะดำเนินการทันที ดังนี้

1.การผลักดันปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้านและรถ ช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบและในระบบ โดยไม่ขัดต่อวินัยการเงิน ไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรมของผู้มีภาระหนี้สิน 

2.การดูแลและส่งเสริม พร้อมปกป้องผลประโยชน์ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งทางการค้าต่างชาติ เช่น การพักหนี้ การจัดทำMatching Fund หรือการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐบาลและเอกชน เพื่อสร้างกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง

3.การเร่งออกมาตรการลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค ด้วยการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน การปรับปรุงกฎหมาย เช่น ทำสัญญาซื้อขายพลังงานโดยตรง การพัฒนาระบบสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง การสำรวจหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม เจรจาพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน พร้อมผลักดันการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ รองรับนโยบายค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสาย ลดภาระค่าเดินทาง

4.สร้างรายได้ใหม่ด้วยนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 50 ของจีดีพี นำไปจัดสรรสวัสดิการการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค 

5.เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก และผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต วางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล

6.ยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย ใช้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” นำเทคโนโลยีการเกษตร มาพัฒนาอาชีพด้านการเกษตร ฟื้นนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก ตอบสนองความต้องการโลก ด้านความมั่นคงทางอาหาร

7.เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล การแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวกระจายสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศอย่างรวดเร็ว

8.แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและการจำหน่าย ร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านสกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้า ตัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติด ปราบปรามยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด รวมถึงค้นหาผู้เสพในชุมชนเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และติดตามดูแลไม่ให้กลับไปสู่วงจรยาเสพติดอีก

9.เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชน  โดยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอ  ช่วยเหลือเหยื่อมิจฉาชีพทันท่วงทีโดยผนึกกำลังประเทศเพื่อนบ้าน

10.ส่งเสริมศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ คนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ ให้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะที่นโยบายพัฒนาประเทศระยะกลางและระยะยาว จะต่อยอดการพัฒนาภาคผลิตและบริการ สร้างความสามารถการแข่งขัน โดยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ปูพื้นฐานให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างแข็งแกร่งทั้งการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม เช่น ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป ไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต การยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ทั้งอาหารท้องถิ่น ผ้าไทย มวยไทย ศิลปะการแสดง ดนตรีไทย สุราชุมชน ยกระดับสินค้าโอทอป ให้ตอบสนองต่อความต้องการผู้บริโภคทั่วโลก ตลอดจนส่งเสริมอุตสาหกรรมในอนาคต อาทิ ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว การต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ และบริการทางการแพทย์ การทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินของโลก

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่  ทั้งทางราง ทางน้ำ ทางถนน และทางอากาศอย่างไร้รอยต่อ สร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ยกระดับท่าเรือเพื่อเพิ่มศักยภาพเชื่อมต่อการขนส่งสินค้า พัฒนาสนามบินและเส้นทางบินใหม่ๆ เช่น สนามบินล้านนา สนามบินอันดามัน มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการ ให้ประเทศเป็นศูนย์กลางคมนาคมและขนส่งภูมิภาค นอกจากนี้จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การเปลี่ยนโครงสร้างทางภาษีครั้งใหญ่ ศึกษาความเป็นไปได้การปฏิรูประบบภาษีไปสู่แบบ Negative Income Tax ที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับเงินภาษีคืนเป็นขั้นบันได การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาจัดการที่ดินรัฐ แก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน ยุติความขัดแย้งและแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดิน ระหว่างหน่วยงานรัฐและประชาชน

นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะยกระดับสาธารณสุขให้ดีกว่าเดิม ต่อยอดโครงการ 30บาทรักษาทุกโรค เป็น 30บาทรักษาทุกที่ การส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ ความเท่าเทียมกันของชายและหญิงในครอบครัวและที่ทำทำงาน ให้ผู้หญิงไม่ต้องเผชิญการเลือกปฏิบัติ รัฐบาลจะสร้างการมีส่วนร่วมในการรับมือภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาฝุ่นpm2.5 การยกระดับบริหารจัดการน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง โดยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ ฟื้นฟู การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของคนไทยและต่างชาติด้วยการพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ มีนิติธรรม ความโปร่งใสดังนี้ 1.เร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยเร็ว 2.สร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินยึดมั่นหลักนิติธรรมและความโปร่งใส 3.ปฏิรูประบบราชการและกองทัพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อาทิ การปรับขนาดภาครัฐให้สอดคล้องกับภารกิจ การปรับเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ 4.ยกระดับการบริการภาครัฐให้สนองตอบความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกันจะเสริมสร้างโอกาสให้ประเทศไทย และเกื้อกูลผลประโยชน์ประชาชน จะรักษาจุดยืนกาไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ เดินหน้าสานต่อนโยบายการทูต เศรษฐกิจเชิงรุก

นายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ รวมทั้งส่งเสริมสถาบันศาสนาให้เป็นกลไกในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต ตลอดจนดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและจริงจัง โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“ในนามนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้ความมั่นใจ กับรัฐสภาแห่งนี้ว่า จะตั้งใจบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งประสานพลังจากทุกภาคส่วน จากทุกช่วงวัย จากทุกความเชี่ยวชาญ ขับเคลื่อนนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงเพื่อตอบสนองสถานการณ์ปัจจุบันให้สำเร็จ พัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพื่อนำพาความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทย และประเทศไทย เพื่อสร้างความหวังและอนาคตที่ดีกว่าให้ประเทศไทย จากวันนี้ไปถึงอนาคต” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายกฯแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้พักจิบน้ำเป็นระยะๆ และใช้เวลาอ่านคำแถลงนโยบายรัฐบาล รวม 58 นาที

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อื้อหือ! เปิด‘ค่าน้ำ-ไฟ’รัฐสภาสูงลิ่ว ปีละ 174 ล้าน เปิด‘แอร์’หนาวเหน็บเหมือนอยู่ขั้วโลก อื้อหือ! เปิด‘ค่าน้ำ-ไฟ’รัฐสภาสูงลิ่ว ปีละ 174 ล้าน เปิด‘แอร์’หนาวเหน็บเหมือนอยู่ขั้วโลก
  • 3 ข้อว่าด้วยเรื่องเวลาเปิด-ปิดด่าน ‘นายกฯ’คงเข้าใจยาก ทีมงานคงลืมเขียนสคริปต์ 3 ข้อว่าด้วยเรื่องเวลาเปิด-ปิดด่าน ‘นายกฯ’คงเข้าใจยาก ทีมงานคงลืมเขียนสคริปต์
  • กังขาภาวะผู้นำ! ‘พุทธิพงษ์’ฟาดจุกๆสั่งปรับเวลาเปิดปิดด่าน ยุทธศาสตร์อะไร-เพื่อใคร กังขาภาวะผู้นำ! ‘พุทธิพงษ์’ฟาดจุกๆสั่งปรับเวลาเปิดปิดด่าน ยุทธศาสตร์อะไร-เพื่อใคร
  • ประสาน‘เขมร’เปิด-ปิดด่านให้เวลาตรงกัน ‘อิงค์’สั่งแม่ทัพ2 อ้างเพื่อประโยชน์การค้า ประสาน‘เขมร’เปิด-ปิดด่านให้เวลาตรงกัน ‘อิงค์’สั่งแม่ทัพ2 อ้างเพื่อประโยชน์การค้า
  • ‘อิ๊งค์’ย้ำชายแดนไทย-กัมพูชาไม่มี‘สงคราม’ ยัน‘ไม่ปิดด่านถาวร’ ‘อิ๊งค์’ย้ำชายแดนไทย-กัมพูชาไม่มี‘สงคราม’ ยัน‘ไม่ปิดด่านถาวร’
  • \'ปธ.วุฒิฯ\'ส่งตัวแทนยื่นหนังสือ\'นายกฯ\' ขอเปิดประชุมสภา ถกข้อพิพาท\'ไทย-กัมพูชา\' 'ปธ.วุฒิฯ'ส่งตัวแทนยื่นหนังสือ'นายกฯ' ขอเปิดประชุมสภา ถกข้อพิพาท'ไทย-กัมพูชา'
  •  

Breaking News

'กวีเหลวไหล'ร่ายกลอนเดือด!!! โพสต์ภาพรองเท้า 'ข้างเดียว ของเรา ก็ ปาได้'

พปชร.ขอบคุณ-ชื่นชมแพทยสภาทุกท่าน พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา

'พุทธิพงษ์'ชื่นชมแพทยสภา ชี้เป็นตัวอย่าง'ความยุติธรรมยังมีอยู่จริง'

คนดังขอบคุณ'แพทยสภา'กระหึ่มโซเชียล หลังมติขาดลอย-ฟัน3หมอชั้น14

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved