เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศเติบโตต่ำ ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลยศักยภาพจะยิ่งอ่อนด้อยลง ปัญหาจะยิ่งลุกลาม ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามถ้าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเวลานี้ น่าจะมีแนวความคิดในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาเราต้องอยู่ในสภาพที่ฟื้นฟูก่อนแล้วค่อยสร้าง วันนี้รัฐบาลจึงต้องตัดสินใจดำเนินนโยบายต่างๆ แบบรอเวลาไม่ได้ เราต้องฟื้นฟูและเสริมสร้างขึ้นมาใหม่พร้อมๆ กัน

รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ในส่วนของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสังคมไทยกำลังเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เรามีแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เพื่อสร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจเท่าเทียมกัน สิ่งเหล่านี้แม้ไม่ง่าย แต่เมื่อมีหนี้ทุกคนหายใจไม่สะดวก เราจึงต้องเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ พร้อมกับต้องคำนึงถึงความพร้อมของระบบ และคำนึงถึงเงินในกระเป๋า รัฐบาลคิดแล้วว่าจะทำให้เร็วที่สุด โดยรอบแรกจะเป็นเงิน 10,000 บาท จำนวน 14.2 ล้านคน วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งเราน่าจะสามารถกดปุ่มเคาระฆังให้เงินก้อนแรกไหลได้วันที่ 25 ก.ย.นี้

หลังจากนั้น นายพิชัย ให้สัมภาษณ์ภายหลังชี้แจงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ทำให้ฝ่ายค้านเข้าใจแล้วหรือไม่ ว่า ก็เป็นการคุยถึงนโยบายของรัฐบาลในภาพกว้าง ว่าทั้งหมดจะต้องทำอะไรบ้าง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบาง ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ใช่หรือไม่ นายพิชัย ยอมรับว่า ก็ประมาณนั้น

เมื่อถามว่า ส่วนกลุ่มที่ 2 นั้นจะจ่ายให้ในช่วงประมาณเดือนใด นายพิชัย กล่าวว่า เราจะดู 2 - 3 ปัจจัยก่อน ถึงจะกำหนดได้ทางเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องให้มีความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ เมื่อถามต่อว่า การจ่ายในรอบที่ 2 นั้นจะแบ่งจ่ายหรือจ่ายในครั้งเดียว นายพิชัย กล่าวว่า ก็ต้องดูปัจจัยและองค์ประกอบก่อน เมื่อถามอีกว่า จะมีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้โครงการนี้ไม่เป็นไปตามกรอบเวลา นายพิชัย ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว เมื่อถามย้ำอีกว่า การจ่ายในรอบที่ 2 จะเป็นเงินสดใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ก็บอกแล้วว่าจะดูว่าเงื่อนไขต่างๆ เป็นอย่างไร ซึ่งก็มีหลายเรื่อง

- 006