โพลล์กระทุ้ง‘อิ๊งค์’แจกเงินดิจิทัล
ห้ามเบี้ยวเฟส2
ฮึ่มโกรธมากถ้าล้มโครงการ
นายกฯนั่งหัวโต๊ะ15ต.ค.
กระตุ้นศก.หลังน้ำท่วม
“นิด้าโพล”เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน “โกรธไหม ถ้าเงินดิจิทัลฯเฟส 2 ไม่ตรงปก” พบว่ากว่า 41% ระบุ ถ้ารัฐบาลยกเลิกโครงการแจก 1 หมื่นจะโกรธมาก ส่วนถ้าแจกเงินเพียง 5 พันบาท 40% ไม่โกรธเช่นเดียวกับรูปแบบ ถ้าแจกเป็นเงินดิจิทัลเต็ม 1 หมื่น หรือ 5 พัน รับได้ไม่โกรธ “รมว.การท่องเที่ยวฯ” ย้ำลุยแคมเปญ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง”เริ่ม 1 พย.นี้ ถ้าสำเร็จชงครม.ของบเพิ่มหวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “โกรธไหม ถ้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ไม่ตรงปก” เป็นการสำรวจระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม จากประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้ทั่วประเทศรวม 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อรูปแบบการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลด้วยวิธีสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
ทั้งนี้ จากการสำรวจเมื่อถามถึงสถานการได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ของประชาชนพบ ตัวอย่างร้อยละ 56.95 ระบุ อยู่ในกลุ่มที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟสที่ 2 รองลงมาร้อยละ 23.95 ระบุว่า อยู่ในกลุ่มที่จะไม่ได้รับเงินใดๆ ร้อยละ 17.00 ระบุอยู่ในกลุ่มที่ได้รับเงินสด 10,000 บาทเรียบร้อยแล้ว และร้อยละ 2.10 ระบุว่า ไม่แน่ใจ
สอบถามผู้ที่ระบุว่าอยู่ในกลุ่มที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟสที่ 2 และผู้ที่ระบุว่าไม่แน่ใจ จำนวน 1,181 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความรู้สึกต่อรูปแบบการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ดังนี้ 1.รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกโครงการ ไม่มีการจ่ายเงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือเงินดิจิทัลพบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.58 ระบุ โกรธมาก รองลงมาร้อยละ 34.38 ระบุว่า ไม่โกรธเลย ร้อยละ 14.56 ระบุว่า ค่อนข้างโกรธ ร้อยละ 9.14 ระบุว่า ไม่ค่อยโกรธ และร้อยละ 0.34 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
2.จ่ายในรูปเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่น้อยกว่า 10,000 บาท เช่น จ่ายเพียง 5,000 บาท พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 40.30 ระบุ ไม่โกรธเลย รองลงมาร้อยละ 24.47 ระบุ โกรธมาก ร้อยละ 21.25 ระบุว่า ค่อนข้างโกรธ ร้อยละ 13.64 ระบุว่า ไม่ค่อยโกรธ 3.จ่ายในรูปเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทพบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 60.54 ระบุว่า ไม่โกรธเลย รองลงมา ร้อยละ 17.53 ระบุว่า ไม่ค่อยโกรธ ร้อยละ 12.11 ระบุว่า ค่อนข้างโกรธ ร้อยละ 9.31 ระบุว่า โกรธมาก 4.เป็นการแบ่งจ่ายในรูปของเงินดิจิทัลวอลเล็ต เช่น งวดละ 5,000 บาทจำนวนสองงวด พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 60.88 ระบุว่า ไม่โกรธเลย รองลงมาร้อยละ 20.07 ระบุว่า ไม่ค่อยโกรธ ร้อยละ 10.58 ระบุว่า ค่อนข้างโกรธ ร้อยละ 8.30 ระบุว่า โกรธมาก
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าอยู่ในกลุ่มที่จะไม่ได้รับเงินใดๆ จำนวน 479 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการแจกเงิน 10,000 บาท ของรัฐบาล พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 29.44 ระบุว่า รัฐบาลควรแจกเงินให้กับทุกกลุ่ม ไม่ว่ากลุ่มนั้นจะมีรายได้หรือทรัพย์สินเท่าไร รองลงมา ร้อยละ 25.47 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินให้กลุ่มใดๆ ร้อยละ 25.25 ระบุว่า เห็นด้วยเฉพาะการแจกเงินสด 10,000 บาท แก่กลุ่มผู้เปราะบาง ผู้พิการเท่านั้น ร้อยละ 15.66 ระบุว่า เห็นด้วยกับการแจกเงินทั้งแบบเงินสดแก่ผู้เปราะบาง ผู้พิการ และแบบเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟสที่ 2 ร้อยละ 2.30 ระบุว่า เห็นด้วยเฉพาะการแจกเป็นรูปแบบเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟสที่ 2 เท่านั้น
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาให้สัมภาษณ์ถึงแคมเปญ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคเหนือที่ประสบอุทกภัยว่า จากการลงพื้นที่จ.เชียงรายและเชียงใหม่ เพื่อฟังปัญหาของผู้ประกอบการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงนำข้อมูลมาแก้ปัญหา ซึ่งบางส่วนใช้งบของกระทรวงและบางส่วนต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. จึงเสนอโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง โดยจะคิกออฟวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยในจ.เชียงรายและเชียงใหม่ ผู้ประกอบการเตรียมฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมให้ได้ โครงการนี้ยังรวมไปถึง 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยททท.จะออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง ตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 800 บาท และนักท่องเที่ยวออกเองอีกครึ่งหนึ่ง ครั้งนี้จะใช้งบประมาณของ ททท.ไปก่อน ถ้าประสบผลสำเร็จจะเสนอของบประมาณจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมที่ขึ้นชื่อ ทั้งงานลอยกระทง จ.เชียงใหม่ และเชียงราย
ส่วนการเตรียมมาตรการอื่น เช่น ปล่อยกู้ อัตราดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เรื่องนี้เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่จากการรับฟังจากผู้ประกอบการหลายส่วน มีข้อเสนอว่ายังมีหลักเกณฑ์ที่เข้าถึงยาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก จึงต้องกลับมาปรับแก้กันในเร็วๆนี้ เพื่อที่จะแก้ไขให้ผู้ประกอบการได้รับผลประโยชน์อย่างทั่วถึงในแคมเปญนี้ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันอังคารนี้ได้ เพราะมีบางจุดที่ต้องนำกลับมาแก้ไขและเปลี่ยนแปลง
ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า วันที่ 15 ตุลาคม เวลา 15.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) เพื่อติดตามสรุปสถานการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รวมทั้งแผนฟื้นฟูทั้งด้านกายภาพและการวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดต่างๆ ที่ประสบอุทกภัย โดยการประชุม ศปช. วันที่ 13 ตุลาคมหารือแนวทางการสนับสนุนด้านต่างๆ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือตอนบน โดยขอให้เร่งฟื้นฟูกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันที่ 31 ตุลาคม และจากที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เปิดรับฟังข้อเสนอและการขอรับความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการ ที่ส่วนใหญ่ขอให้รัฐบาลช่วยพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งจัดแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ ทุกข้อเสนอรัฐบาลจะเร่งพิจารณาเพื่อให้การเยียวยาตรงจุดมากที่สุด และยังเสนอโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เป็นโครงการนำร่องเร่งด่วน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวปลายปีนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ซึ่งทั้งสองจังหวัด มั่นใจและยืนยันความพร้อมที่จะเปิดจังหวัดด้านกิจกรรมรณรงค์การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมกันต้นเดือนพฤศจิกายน
นายพัลลภ แซ่จิว รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ (สทท.เชียงใหม่) กล่าวถึงโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เชิญชวนคนท่องเที่ยวภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย โดยจะใช้งบประมาณของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วงเงิน 4 ล้านบาท แจกให้ประประชาชน 10,000 คน โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ว่า ถือว่ามีดีกว่าไม่มี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังน้ำท่วมของ ททท.ก็น่าจะควิกวิน น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะระยะสั้น ซึ่งดีกว่าไม่มีอะไรเลย เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า การลดครึ่งหนึ่งจะทำอย่างไรบ้าง น่าจะอยากให้คนไทยทั่วไปได้มาท่องเที่ยว ต้องดูว่า ททท.มองอย่างไร ต้องการลูกค้าที่เป็นเป้าหมายแบบไหน โดยในส่วนของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมด้วยต้องมีคุณสมบัติแบบใด เน้นมาตรฐาน SHA เน้นสิ่งแวลด้อม รักษ์โลก ได้สิทธิก่อนหรือไม่ ตรงนี้ยังไม่เห็น “ผมว่าสำหรับตลาด หากเป็นเชียงใหม่ เชียงราย ยังมีต่างประเทศบ้าง แต่ภาคเหนือที่น้ำท่วมด้วยก็มีทั้ง พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน สุโขทัย และลำปาง ก็ต้องเป็นตลาดคนไทยที่น่าจะมาก่อนต่างชาติ สรุปคือ เป็นโครงการสำหรับตลาดคนไทย” นายพัลลภกล่าว
นายพัลลภ กล่าวด้วยว่า จ.เชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวที่เจอน้ำป่า อาทิ ปางช้าง แม่ริม พื้นที่ติดน้ำตกแม่สา ดอยปุย หรือพื้นที่ไฮไลต์อย่างบ้านแม่กำปองก็มีดินสไลด์ ดินโคลนถล่มตามที่มีข่าวออกไป แต่พวกถนนสุดคลาสสิกก็ยังอยู่ บ้านต้นไม้ หรือThe Giant โซนเมืองเก่า ดอยสุเทพ จุดแคมป์ปิ้ง ดอยอ่างขาง ห้วยน้ำดัง สรุปคือ90% แหล่งท่องเที่ยวพร้อมต้อนรับ โครงการนี้มีดีกว่าไม่มี และนักท่องเที่ยวที่หายไปไม่ใช่ต่างชาติ อาจจะดูแผ่วไปบ้างแต่ก็ยังมี ช่วงน้ำท่วมทั้งจีน เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ รวมถึงยังมีต่อเครื่องมาเชียงใหม่ก็มี เช่น ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา กลุ่มนี้แม้ไม่มีบินตรงแต่ก็ต่อเครื่องจากเกาหลี ซึ่งเป้าหมายคือเชียงใหม่ ดังนั้น ตลาดไทยที่หายไปก็ต้องมีควิกวินมากระตุ้นให้อยากมาเที่ยวเหนือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี