"มท.1"เผยภาพรวมสถานการณ์น้ำดีขึ้น-ฝนเริ่มตกน้อยลง ยันยังต้องเข้มเฝ้าระวังติดตามใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในภาพรวมของประเทศดีขึ้น และฝนเริ่มตกน้อยลงแล้ว แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะบางพื้นที่ยังมีความเสี่ยงของการเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากอยู่ เช่น ในพื้นที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ที่เพิ่งเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันในหลายพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว เจ้าหน้าที่และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง ในส่วนของเงินเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี ครัวเรือนละ 9,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ระหว่างการเร่งทยอยโอนเงินอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับเงินเยียวยาน้ำท่วม ค่าทำความสะอาดดินโคลนหลังละ 10,000 บาท ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เสนอ ก็ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.และกระทรวงการคลัง แล้ว และอยู่ระหว่างการเร่งจ่ายเช่นเดียวกัน หลังจากนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการถอดบทเรียนและบูรณาการความร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันล่วงหน้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเนื่องจากขณะนี้หน่วยงานหลักที่เฝ้าระวังดูแลเรื่องดังกล่าว คือ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนจึงเสนอเข้าไปในที่ประชุม ครม.ในเรื่องของการแบ่งอำนาจหน้าที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและป้องกันด้วย ซึ่งจะทำให้งานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ในหลายพื้นที่ยังต้องมีการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงนี้ ฝนเริ่มตกหนังในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ ซึ่งแม้การระบายน้ำจะดีขึ้น แต่ยังควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีการตั้งวอร์รูมเพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และรายงานเหตุที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

- 006