"ชาติไทยพัฒนา"หนุน"พ.ร.บ.นิรโทษกรรม" ย้ำต้องเว้น"ม.110-ม.112" เชื่อก้าวข้ามความขัดแย้งได้ แนะพรรคการเมืองช่วยเสนอร่างกฎหมายเพื่อความสมานฉันท์

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายนิกร จำนง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา แสดงความเห็นถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ว่า มีการยื่นแล้วหลายฉบับที่สภา โดยการรวมเอาความผิดเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และรัชทายาท ตามความผิดในมาตรา 110 และมาตรา 112 ซึ่งตนยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนายินสนับสนุนทุกร่าง โดยพรรคชาติไทยพัฒนาพยายามผลักดันเรื่องความปรองดองสมานฉันท์มาโดยตลอด ซึ่งตั้งแต่ในสมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา เราก็มีการเดินสายไปยังทุกพรรค ทุกกลุ่ม เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์

นายนิกร กล่าวว่า เมื่อตอนเราหาเสียงเราใช้คำว่าก้าวข้ามความขัดแย้งร่วมแรงปฏิรูปประเทศ ซึ่งเราก็จะสนับสนุนเต็มที่แต่มีข้อยกเว้นว่าจะไม่รวมเอาหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ในมาตรา 110 และมาตรา 112 เพราะหากกระทำเช่นนั้นแทนที่จะเป็นการลดความขัดแย้งแต่จะเป็นการเพิ่มขัดแย้งอย่างรุนแรงเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะอดีตเลขานุการคณะกรรมการศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเปราะบาง เพราะขณะนี้ในสภา แค่พิจารณาการศึกษารายงานร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ยังไม่สามารถผ่านได้ แต่หากเป็นร่างกฎหมายเข้ามาก็เป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านได้

นายนิกร กล่าวว่า กฎหมายขนาดนี้มีอยู่ 4 ฉบับ ที่ค้างอยู่ในสภา และเมื่อเปิดสมัยประชุมสภามาก็ต้องมีการพิจารณา ซึ่งทราบว่าแกนนำรัฐบาล อย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) จะยกขึ้นมาอีก 1 ฉบับ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเห็นประกาศว่าจะไม่ร่วมมาตรา 110 และมาตรา 112 ซึ่งครั้งนี้ตนมีประเด็นที่อยากจะให้ความเห็นว่าลักษณะของกฎหมายที่ตนได้ศึกษามา ในฐานะกรรมาธิการ จะมีหลักการ ควรระบุฐานความผิดแนบท้ายร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้ชัดเจน โดยยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะให้ความเห็นชอบอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า แต่ละพรรคการเมืองก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เลยทำให้ร่างการศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในการพิจารณาที่ผ่านมา ไม่สามารถผ่านไปได้ใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า วิธีการพิจารณาก็ต้องดูว่าร่างใด ที่จะนำไปรวมความผิดมาตรา 110 และมาตรา 112 เข้าไปด้วย ดังนั้น ควรที่จะมีบัญชีความผิดแนบท้ายให้ชัดเจน ซึ่งพรรคการเมืองควรจะช่วยกันยื่นเพื่อให้ เกิดความเห็นร่วมกันให้เป็นเอกภาพซึ่งถือว่าเป็นมิติที่ดี เพราะเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ประเทศไทยอยู่บนความขัดแย้งกัน

เมื่อถามว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรมขนาดนี้ก็เหมือนกับการช่วยบุคคลของแต่ละพรรคให้พ้นโทษ นายนิกร กล่าวว่า ไม่ใช่ ร่างนิรโทษกรรมที่ออกมาไม่ได้ทำเพื่อใคร และการพิจารณาก็ควรจะแยกเป็นร่างๆ แล้วโหวต เพราะเนื้อหาข้างในไม่เหมือนกัน สุดท้าย ร่างของพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคแกนนำ ก็จะเป็นร่างหลัก และเชื่อว่าก็จะไม่เกิดปัญหาและจะผ่านไปได้ด้วยดี

- 006