"คารม"ออกโรงวอนบรรดา"ผู้เห็นต่าง"เคารพคำพิพากษาศาลปกครองกลางปมที่ดินเขากระโดง อัดกลับ"กูรูกฎหมาย-สื่ออาวุโส"อย่าใช้อคติรุนแรง ทำสับสน-สร้างความเสียหายให้สังคม อ้างประชาชน 900 กว่าครอบครัวที่อาศัยอยู่มานาย ก็เป็นคนไทยมีจิตใจมีความรู้สึก ถ้าจะให้ดำเนินการอย่างไรต้องมีเหตุผลเพียงพอ รวมทั้งเลยเถิดไปโจมตี"อนุทิน"ทั้งที่ไม่เคยเอื้อประโยชน์ใครเลย
30 พ.ย.2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ผู้เห็นต่าง ควรเคารพคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ควรรู้ว่าความเหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นว่าควรมีแค่ไหน เพียงไร อย่าเลยเถิด ในเมื่อกรมที่ดินได้ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ก็ควรเคารพในดุลพินิจ ว่าการเพิกถอนหรือไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ แม้ว่าตามกฎหมาย เป็นอำนาจของอธิบดีกรมที่ดินก็จริง แต่กรณีดังกล่าว ได้กระทำในรูปของคณะกรรมการ ซึ่งข้าราชการเหล่านั้นเขามีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและได้ทำตามคำพิพากษาของศาล มีกระบวนการการตรวจสอบ ทุกฝ่ายจึงควรเคารพ ไม่อย่างนั้น บ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร หากเอาอคติมาใช้
นายคารม กล่าวต่อว่า ส่วนคดีของศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขแแดงที่ 1112/2563 คดีตามคำพิพากษาของศาลฏีกาคดีหมายเลขแดงที่ 842-876/2560 และคดีของศาลฎีกาคดีหมายเลขแดงที่ 8027/2561 นั้น ข้อเท็จจริงในแต่ละคดีดังกล่าว นอกจากจะเป็นเรื่องเฉพาะคดีแล้ว คู่ความในแต่ละคดีก็คนละคน ตามมาตรา 145 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง คำพิพากษาของศาลจะไม่สามารถที่จะผูกพันบุคคลภายนอกคดีได้ ยิ่งกว่านั้นคดีของศาลยุติธรรมดังกล่าวข้างต้น กรมที่ดินไม่ได้เป็นคู่ความในคดีดังกล่าว จึงไม่ต้องผูกพันตาม กรมที่ดินเป็นคู่ความเฉพาะคดีของศาลปกครองกลางเท่านั้นและที่ดินก็ได้ทำตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางแล้ว
นายคารม กล่าวด้วยว่า เพราะฉะนั้นทุกคนที่วิพากษ์วิจารณ์แบบมีอคติและใช้คำพูดรุนแรง โดยเฉพาะนักกฎหมายบางคนที่เป็นอัยการได้พูดในทำนองว่า ถ้าอธิบดีกรมที่ดินไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดงจะถูกเนินคดีอาญานั้น นอกจากไม่เหมาะสมกับคนที่มีอาชีพเป็นถึงข้าราชการอัยการ แถมมีความรู้ทางกฎหมาย กลับมาพูดให้สังคมสับสนและพูดออกไปทำนองข่มขู่คนอื่น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง คนที่มีความรู้ทางกฎหมายไม่สมควรทำแบบนี้ และยังมีสื่อมวลชนอาวุโสบางคน ยังกล่าวหาคนอื่นและพยายามจะพูดให้คนอื่นเสียหายพูดจา รุนแรง หยุดโกงเขากระโดง หยุดโกงแผ่นดิน ซึ่งเป็นการใช้สื่อโจมตีคนอื่น เอาเปรียบคนอื่น
”ผมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพคำพิพากษาของศาล และต้องเข้าใจว่าคำพิพากษาของศาลแต่ละฉบับนั้นข้อเท็จจริงแตกต่างกัน ข้อเท็จจริงในคดีแต่ละคดีนั้นก็ต่างกันคู่ความก็แตกต่างกัน คำพิพากษาศาลฎีกามีหลายคดี ก็เปลี่ยนแนวคำวินิจฉัยมามากมาย ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ดินเขากระโดงมีประชาชนกว่า 900 ครอบครัว เขาอาศัยอยู่ เขาก็มีจิตใจ เขาก็เป็นคนไทย เขาอยู่มานาน การจะดำเนินการอย่างไร ก็ต้องมีเหตุผลที่เพียงพอ การเที่ยวกล่าวหาว่าคนในตระกูลใดตระกูลหนึ่งและเลยเถิดไปโจมตีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ทั้งที่ท่านยืนยันไม่เคยคิดจะไปช่วยเหลือใครหรือเอื้อประโยชน์ให้กับคนใดคนหนึ่งเลย จึงไม่ถูกต้อง คนที่เป็นนักกฎหมายระดับอัยการ ควรมีจิตสำนึกให้มากกว่านี้ คุณไม่ใช่ศาลที่จะมาชี้ว่าใครผิดใครถูก รวมทั้งคนที่อ้างเป็นสื่อมวลชนอาวุโส ก็ไม่ควรใช้สถานะของตนเองเที่ยวชี้นิ้ว กล่าวหาคนอื่นแบบแสดงอำนาจบาดใหญ่ ผมอยากเตือนว่าการใช้สิทธิที่มีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่คนอื่น คือการทำผิดกฎหมาย“ นายคารม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี