ถึงมือ‘กรมที่ดิน’ คำสั่งยกเลิกกรรมสิทธิ์‘​ที่ดินอัลไพน์’​คืน‘ธรณีสงฆ์’

ถึงมือ‘กรมที่ดิน’ คำสั่งยกเลิกกรรมสิทธิ์‘​ที่ดินอัลไพน์’​คืน‘ธรณีสงฆ์’

วันพฤหัสบดี ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568, 16.20 น.

"อธิบดีกรมที่ดิน"เผยคำสั่งยกเลิกกรรมสิทธิ์"ที่ดินอัลไพน์"​คืน"ธรณีสงฆ์"ถึงมือแล้ว​ แจงขั้นตอนผู้เสียหายเพิกถอนคำสั่งปกครอง-เรียกร้องค่าชดเชย ขึ้นอยู่กับศาลฯ ชี้แนวทาง"ออก พ.ร.บ.โอนที่ดิน"แทน"ชดใช้เงิน"เคยมีทำมาแล้ว 2 เคส แต่สุดท้ายยกเลิก

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 นายพรพจน์​ เพ็ญ​พาส​ อธิบดี​กรมที่ดิน​ กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลัง นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เซ็นลงนามในหนังสือเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์​ ให้กลับไ​ปเป็นที่ธรณีสงฆ์ ว่า​ หนังสือดังกล่าวส่งถึงกรมที่ดินแล้วเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา​ หลังจากนี้จะเป็นอำนาจของกรมที่ดินที่จะดำเนินการต่อ ส่วนแนวโน้มจะออกเป็น พ.ร.บ.โอนที่ธรณีสงฆ์​ ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการ​กฤษฎีกา​แนะนำ เพื่อชดเชยผู้เสียหาย แทนการจ่ายเงินเยียวยาจะทำได้หรือไม่นั้น เคยมีการทำลักษณะนี้มาแล้วก่อนหน้านี้ในสมัย​ 2 รัฐบาลที่ผ่านมา​ โดยเป็นข้อสังเกตของคณะกรรมการ​กฤษฎีกา​ ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ปี 2505 สามารถออกได้ตามมาตรา​ 34 (การโอนที่วัด​ ที่ธรณีสงฆ์​ หรือศาสนสมบัติกลาง กระทำได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ)​ ซึ่งขณะนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการแล้วแต่สุดท้ายถูกยกเลิกเรื่องนี้จึงหยุดไป


เมื่อถามต่อว่า ท้ายที่สุดแล้วมองว่าการชดเชยระหว่างบริษัทอัลไพน์​ และประชาชนที่ถือครองที่ดินจะออกมาในทิศทางใด​ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า​ ยืนยันว่า​ จะต้องเป็นไปตามวิธีการทางกฎหมาย โดยต้องยื่นคำสั่งของศาลปกครอง ว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเดือดร้อนอย่างไร ซึ่งก็ต้องมีการโต้แย้งคำสั่งทางปกครองในการยกเลิกเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ในการทำนิติกรรมสัญญา

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข้อสังเกตของทางฝ่ายกฎหมายกระทรวงมหาดไทย ให้ความเห็นไว้ว่า​ คำวินิจฉัยของ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองปลัดกระทรวง ในฐานะผู้รักษาราชการแทนปลัดมหาดไทย​ขณะนั้น เมื่อวันที่ 13 มี.ค.45 ให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่ให้เพิกถอนที่ดินจากเอกชนให้เป็นของวัด เป็นการวินิจฉัยขัดแย้งกับความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ทำให้คำสั่งทางปกครองที่เป็นโมฆะ ไม่ก่อให้เกิดผลในทางกฎหมาย​ จะนำความเห็นดังกล่าวยกขึ้นสู้กับบริษัทอัลไพร์หรือไม่หากมีการฟ้องกรมที่ดิน นายพรพจน์ กล่าวว่า ทุกอย่างจะต้องทำตามกระบวนการ ก่อนอธิบายว่า​ โดยในช่วงแรกก่อนปี 44 ที่จะมีคำสั่งยกเลิกเพิกถอน เสนอมาทางยังกระทรวง ซึ่งการทำนิติกรรมนั้นถูกต้อง แต่หลังจากนั้น​มีคำวินิจฉัยมาจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช​.เมื่อเห็นว่านิติกรรมนั้นไม่ชอบ จึงจำเป็นต้องยกเลิกเพิกถอน​ โดยคำสั่งในปี 44 ออกมา

"ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล เพราะคำสั่งนี้ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งต้องมีการโต้แย้งกัน ดูที่เหตุและผล​ ข้อเท็จจริง​ และข้อกฎหมายมาพิสูจน์กันหลังจากนี้จะต้องดำเนินการฟ้องศาลปกครอง​ เนื่องจากเป็นการยกเลิกคำสั่งทางปกครอง​ แต่ยังไม่ระบุว่าจะเป็นเมื่อใด" อธิบดีกรมที่ดิน กล่าว

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top