พท.ยันซักฟอกไม่ตั้งองครักษ์

ลั่นถ้าใส่ร้าย‘แม้ว’เจอขวางแน่

“ครูมานิตย์” สส.เพื่อไทย เย้ย ยังไม่ให้ราคา ปชน. ชี้อยากเห็นอภิปรายคมคาย ไม่ใช่เปิดแท็บเลตอ่าน ย้อนถาม “ทักษิณ” เป็นที่ปรึกษารบ.เสียหายตรงไหน ลั่นขวางแน่ไม่ยอมให้ผ่าน หากใส่ร้าย“แม้ว” ในสภา ยันพท.ไม่ตั้ง‘องครักษ์’ ขอทำหน้าที่ให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ประท้วงตามข้อบังคับ พาดพิงคนนอก โฆษกปชป. ยันพร้อมรับฟังและชี้แจงทุกประเด็นในการตรวจสอบ ชี้ซักฟอกต้องไม่มีวาระแอบแฝง นิพิฏฐ์’เตือน!ประเทศไทย เหมือนกงกำกงเกวียน กำลังตกอยู่ใน‘ระบบที่ทำลายตัวเอง’

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวมองว่า ควรใช้เวลากี่วันว่า ดูจากหัวข้อ 2 วันก็เยอะไปแล้ว

“ผมอยากจะเห็นพฤติกรรมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาชน(ปชน.)ก่อน เพราะไม่เคยเห็นผลงาน รอบที่แล้ว เขาอาศัยพรรคเพื่อไทย แต่วันนี้เรายังไม่เห็นเนื้อหาสาระหรือความคมคาย คุณต้องแสดงให้เห็น ไม่ใช่เปิดแท็บเล็ตแล้วอ่าน วันนี้พวกคุณ เป็นบริษัทใหม่ ยังไม่เห็นความเข้มแข็ง ความมั่นคงอยู่ตรงไหน ทำงานให้เห็นก่อน ผมถึงจะให้ราคา”นายครูมานิตย์ กล่าว

ชี้‘แม้ว’ที่ปรึกษาเสียหายตรงไหน

เมื่อถามว่าข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านที่บอกว่า ปล่อยให้บิดาครอบงำ มองว่ารุนแรงไปหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า คำที่เด็กไม่ควรใช้กับผู้ใหญ่ เพราะยังไงนายทักษิณ ชินวัตรก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่สร้างผลงานให้กับประเทศมาก และวันนี้เขามาเป็นที่ปรึกษา ถามว่าเสียหายหรือไม่ แม้แต่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังมาเป็นกรรมาธิการ(กมธ.)งบประมาณเลยเพราะอ้างว่า เป็นคนมีความรู้ ความสามารถ ตนก็รับได้

เมื่อถามว่าระหว่างการอภิปราย สามารถพูดชื่อ นายทักษิณได้หรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า“ต้องดูว่า พูดประเด็นไหน แต่ถ้าพูดในทางเสียหาย หรือใส่ร้าย พวกเราไม่ให้ผ่านแน่”

เมื่อถามว่า ต้องเตรียมองครักษ์ไว้คอยตอบโต้หรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ไม่ต้องเตรียม แต่มีหน้าที่ให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริง ประท้วงตามข้อบังคับ หากใช้วาจาไม่สุภาพ หรือใส่ร้ายบุคคลภายนอก

ปชป.หนุนตรวจสอบ-พร้อมชี้แจง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผศ.ดร.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเปลี่ยนแปลงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อเน้นอภิปรายตรวจสอบนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว โดยระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และมีรัฐมนตรีดูแลสองกระทรวง อาจมีการถูกพาดพิงถึงบางประเด็นในการทำงาน เนื่องจากอยู่ภายใต้กรอบการบริหารในรัฐบาลเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนกระบวนการตรวจสอบและการอภิปรายที่ดำเนินไปอย่างสุจริตใจ โดยไม่มีวาระแอบแฝง พร้อมแสดงความมั่นใจในการทำงานของรัฐมนตรี ว่าที่ผ่านมาทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายค้าน อาจมีเชื่อมโยงหรือพาดพิง การทำงานของรัฐมนตรีของพรรค ที่ก่อให้เกิดความ เข้าใจผิด เสื่อมเสีย พรรคฯได้จัดเตรียมข้อมูลสนับสนุนไว้สำหรับขึ้นชี้แจงในทุกประเด็น รวมถึงแจ้งให้ สส.ช่วยติดตามการอภิปรายอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการอภิปรายผิดข้อบังคับ

“เรายินดีสนับสนุนกระบวนการตรวจสอบและพร้อมชี้แจงในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือการทำงานของรัฐมนตรี แต่การอภิปรายควรดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบ้านเมือง” ผศ.ดร.เจนจิรา กล่าว

เน้นย้ำจุดยืนซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังเน้นย้ำถึงจุดยืนของพรรคในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใสและยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือเป็นการตรวจสอบในระบบรัฐสภาของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ รัฐมนตรีและส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ จะอยู่ร่วมรับฟังตลอดการประชุม พร้อมรักษากติกาอย่างเคร่งครัด

“พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ขอให้มั่นใจว่า เราจะปฏิบัติตามกติกาและหลักการของระบอบประชาธิปไตยอย่างดีที่สุด”โฆษกพรรคปชป.กล่าว

‘นิพิฏฐ์’เตือนไทยเหมือนกงกำกงเกวียน

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่าเรากำลังอยู่ในระบบที่ทำลายตัวเอง ประเทศไทย เหมือนกงกำกงเกวียน เมื่อไหร่ที่การเมืองเข้มแข็ง ระบบราชการ จะไม่เป็นตัวของตัวเอง จะอ่อนแอ และจะทำเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเมือง หากฝ่ายค้านไม่เข้มแข็งไปด้วย ระบอบจะปราศจากการถ่วงดุล ระบบทุกอย่าง จะกัดกร่อนและทำลายตัวเอง เช่น

1.เริ่มจากกรณีชั้น14รพ.ตำรวจ ปีกว่าแล้ว ที่ยังไม่มีข้อยุติว่า คุณทักษิณป่วยจริงถึงขนาดต้องนอน ไอ.ซี.ยู. และไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวหรือไม่ เหตุการณ์นี้ กัดกร่อน และทำลายความน่าเชื่อถือของระบบราชการหลายส่วน เช่นกรมราชทัณฑ์ ,รพ.ตำรวจ,แพทยสภา ,ป.ป.ช. ที่เป็นองค์กรอิสระ 2.การได้มาของสมาชิกวุฒิสภา มีการฮั้วกันหรือไม่ เรื่องนี้ หากจริง ก็ถือว่านักการเมือง เป็นผู้ฉีกรัฐธรรมนูญเสียเอง ก็ถือว่าเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยจนถึงรากแก้วแล้ว หากเป็นต้นไม้ ก็จะค่อยๆเหี่ยวเฉาตายไปในที่สุด

3.เรื่องที่ดินเขากระโดง เห็นการเล่นแร่แปรธาตุของกรมที่ดิน, การรถไฟ ที่แต่ละฝ่ายพยายามช่วยเหลือนักการเมืองที่เป็น“นายของตัวเอง” จนคำพิพากษาของศาลเปรียบเหมือนกระดาษห่อถุงกล้วยแขก ไม่สามารถบังคับใช้ได้ 4.ที่ดินอัลไพน์ ที่ซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ ที่นายกรัฐมนตรี และครอบครัวเป็นเจ้าของ บัดนี้ ก็ยังไม่มีข้อยุติว่าจะดำเนินการอย่างไร

ชี้ไทยระบบกำลังทำลายตัวเอง

5.ภาพเหตุการณ์ การพูดคุยกันระหว่าง ประธานรัฐสภา กับ กรรมการป.ป.ช. มีข้อครหาว่า มีการต่อรองเพื่อยุติคดีกัน นี่ก็ปวดร้าวไปถึงแก่นของระบอบประชาธิปไตย 6.เหตุการณ์ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีระเบิดและการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่อย่างถี่ยิบในขณะนี้ต้อนรับการเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาประธานอาเซียนของ คุณทักษิณ ชินวัตร ท่ามกลางความเงียบหายของข่าวหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนกรณีคดีตากใบ

“ทั้งหมด ไม่มีเรื่องของประชาชน เข้าไปเกี่ยวข้องเลย มีแต่เรื่องผลประโยชน์ของนักการเมืองล้วนๆ เรากำลังอยู่ในประเทศที่ระบบกำลังทำลายตัวเอง”นายนิพิฏฐ์ระบุทิ้งท้าย