วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘สภา’ไฟลุก! ‘ผู้นำฝ่ายค้าน-วันนอร์’ปะทะเดือด‘สงครามซักฟอก’ปมชื่อ‘ทักษิณ’

‘สภา’ไฟลุก! ‘ผู้นำฝ่ายค้าน-วันนอร์’ปะทะเดือด‘สงครามซักฟอก’ปมชื่อ‘ทักษิณ’

วันพฤหัสบดี ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2568, 12.53 น.
Tag : ซักฟอก ทักษิณ นายกฯ ประชุมสภา ประธานสภา ฝ่ายค้าน แพทองธารชินวัตร วันนอร์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ
  •  

สงครามซักฟอกปะทุ! ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’จี้‘วันนอร์’กลางสภาฯ ขอความชัดเจนปมตัดชื่อ‘ทักษิณ’ออกจาก‘ญัตติซักฟอก’ ยันอภิปรายลามคนนอกได้ ด้าน‘ประธานสภาฯ’ยืนกรานทำไม่ได้ ขณะที่‘วิโรจน์’แนะแสบ ทำหนังสือถึง‘นายกฯ’ให้‘พ่อ’เข้าชี้แจงด้วยได้

เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากที่เปิดให้สมาชิกหารือเสร็จสิ้น ก่อนเข้าสู่วาระ นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลุกขึ้นหารือเรื่องการบรรจุญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ


นายณัฐพงษ์ อภิปรายว่า ตามหนังสือที่ประธานได้ตอบกลับมาถึงตนเมื่อวันที่ 12 มี.ค. เป็นหนังสือด่วนที่สุด เนื่องจากเป็นหนังสือที่โต้แย้งกลับมาในเรื่องของความเห็นที่เรามีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการตีความบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่เนื่องจากหนังสือฉบับนี้ลงนามโดยเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตนจึงอยากขอความชัดเจนอย่างแรกว่า หนังสือฉบับนี้ทุกถ้อยคำในหนังสือฉบับนี้เป็นการใช้อำนาจของประธานและประธานก็พร้อมที่จะรับผิดรับผิดชอบต่อทุกข้อสงสัยและทุกการตอบในหนังสือฉบับนี้ใช่หรือไม่

นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ตนมีหน้าที่และต้องรับผิดชอบ ยินดีรับผิดชอบทุกอย่างถ้าเป็นการถามที่เกิดขึ้นจากเลขาธิการฯ เพราะตนได้ดำเนินการตามหน้าที่และเลขาธิการฯ ก็ตอบตามที่หนังสือของนายณัฐพงษ์โต้แย้งมา

นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวอีกว่า ตนอยากได้ความชัดเจนในเรื่องที่หนังสือฉบับนี้ตอบมาว่า คำว่าข้อบกพร่อง ประธานได้วินิจฉัยแล้วว่า ท่านมีอำนาจในการที่จะชี้ข้อบกพร่องในเชิงเนื้อหา แต่ขณะเดียวกันคำตอบของท่านในหน้าถัดไป ท่านบอกว่าท่านยินดีจะให้แก้คำในญัตติเนื่องจากการแก้คำนั้นไม่ได้กระทบสาระสำคัญในญัตติ ซึ่งถ้าตนอยากจะเดินหน้าต่อสมมุติว่าพวกตนยอมปรับคำตามที่ประธานได้นำเสนอ เนื้อหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สมมุติถึงวันในการอภิปรายจริง ตนมีสิทธิ์เต็มที่ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญในการอภิปรายเนื้อหาตามกรอบในญัตติโดยที่พวกตนจะไม่ถูกเบรกหรือระงับโดยประธานใช่หรือไม่

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ยืนยันว่าถ้าท่านได้อภิปรายตามญัตติ ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและข้อบังคับท่านก็สามารถอภิปรายได้เต็มที่ไม่มีใครขัดขวางทานได้ยกเว้นว่าท่านอภิปรายผิดข้อบังคับก็อาจจะมีผู้โต้แย้ง ผู้เป็นประธานในที่ประชุมก็ต้องพิจารณาและให้ความเป็นธรรมตรงไปตรงมาตามข้อบังคับเราอยากจะให้การประชุมของสภาฯแห่งนี้ได้ดำเนินไปได้ด้วยดีเพราะไม่ใช่แต่พวกเราเท่านั้น พี่น้องประชาชนทั่วประเทศเขาก็อยากฟังแต่ไม่ใช่อยากฟังการประท้วงโต้ตอบไปมาจนกระทั่งสารัตถะของการประชุมที่ท่านต้องการและประชาชนอยากฟังนั้นมันขลุกขลัก

“นี่คือสิ่งที่ผมปรารถนาสุดยอดคือการประชุมโดยที่มีเหตุมีผลตามที่ต้องการและไม่มีผู้ใดที่จะคอยประท้วงทำให้การประชุมดำเนินไปไม่ได้ดี เพราะในที่สุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในเรื่องสารัตถะ ในเรื่องการดำเนินการประชุมที่จะไปด้วยดี ผมเรียนด้วยความเคารพ” ประธานสภาฯ กล่าว

จากนั้นนายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า ประการหนึ่งที่อยากจะได้ความชัดเจนเช่นเดียวกัน ประธานยืนยันว่าถ้าตนไม่ทำผิดตามข้อบังคับก็ไม่น่ามีประเด็นอะไรซึ่งตามข้อบังคับระบุไว้ชัดเจนว่าพวกเราสามารถอภิปรายกล่าวถึงชื่อบุคคลภายนอกได้หากไม่ได้ทางความเสียหายหรือถ้าสร้างความเสียหายผู้อภิปรายเป็นผู้รับผิดชอบเอง ซึ่งจากการให้ข่าวที่ผ่านมาของประธานฯระบุไว้อย่างชัดเจนว่าที่ประธานฯไม่สามารถให้พวกตนระบุชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงไปในญัตติได้ เพราะท่านประธานฯเสี่ยงที่จะเป็นคนที่ถูกฟ้องร้องเอง ดังนั้นถ้าวันนี้พวกตน ปรับคำไหนในญัตติหมายความว่าพวกตนยังสามารถเดินหน้าการอภิปรายต่อ และพูดชื่อบุคคลใดใดก็ได้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยที่พวกตนเป็นผู้รับผิดชอบเอง อย่างนี้ประธานฯยืนยันตามหลักฐานตามหลักการหรือไม่

ประธานสภาฯ ชี้แจงว่า ตามที่ผู้นำฝ่ายค้านฯบอกว่าจะเอ่ยชื่อบุคคลใดก็ได้ โดยที่ท่านจะรับผิดชอบเอง ตนคิดว่าเป็นประเด็นของที่ประชุมนี้ ไม่ได้หมายความว่าผู้พูดจะรับผิดชอบเพียงผู้เดียวเท่านั้น ถ้าไม่เป็นไปตามข้อบังคับ ประธานที่ประชุม ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยก็จะถูกตำหนิ และเดินหน้าต่อไปไม่ได้ แต่ตนก็ยินดีถ้าหากท่านไม่เอ่ยชื่อบุคคลภายนอกซึ่งบุคคลภายนอก ตนพูดตรงๆว่าไม่ได้หมายความถึงนายทักษิณ จะเป็นผู้อื่นหรือใครก็ถือว่าเป็นบุคคลภายนอกซึ่งไม่สามารถที่จะดำเนินการอภิปรายได้

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ซึ่งระบุชัดเจนว่าการยื่นญัตติเป็นการอภิปรายคณะรัฐมนตรีทั้งคณะหรือเป็นรายบุคคลท่านสามารถจะระบุรายชื่อรัฐมนตรีทั้งคณะหรือเป็นรายบุคคลได้ แต่ถ้าในญัตติใส่ชื่อบุคคลภายนอกเข้าไปด้วย ท่านคงทราบว่าจะดำเนินการประชุมได้หรือไม่ เพราะเมื่อช่วงท่านอภิปรายเกี่ยวโยงอย่างไรท่านก็สามารถจะพูดได้ บางครั้งการพูดอาจไม่ต้องใช้ชื่อ ท่านจะใช้อย่างอื่นคนก็รู้ได้ คนประท้วงก็ประท้วงไม่ได้ไม่ได้เชิงผมแนะนำ แต่อยากให้ไปด้วยดี ไม่ได้บอกว่ามีชื่อนายทักษิณไม่ได้แต่บุคคลภายนอกเป็นคนอื่นถ้าเอามาใส่ในญัตตินี้ก็คงจะกระทำไม่ได้เช่นเดียวกัน” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่พวกตนต้องการ สิทธิการประท้วง เป็นสิทธิอยู่แล้วถ้ามีการเอ่ยชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่สมาชิกอีกฝั่งหนึ่งไม่เห็นด้วยเขามีสิทธิ์ประท้วงแต่สิ่งที่พวกตนไม่อยากเห็นคือบรรยากาศในที่ประชุมที่ประธานฯอาจจะไม่ได้วางตัวเป็นกลางหรือไม่ได้เป็นไปตามข้อบังคับ เพราะหนังสือที่ประธานฯ ตอบกลับตนมาหน้าที่ 3 เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าการอภิปรายของสมาชิกผู้แทนราษฎรผู้ใดที่อาจเป็นเหตุให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับความเสียหายสมาชิกผู้นั้นต้องเป็นผู้รับผิดชอบผลแห่งการกระทำนั้นเองดังนั้นวันนี้ตนอยากได้ความชัดเจนจากประธานฯ เพราะการบรรจุหรือไม่บรรจุญัตติอยู่ที่ถ้อยคำในญัตติ ซึ่งเป็นอำนาจของประธานฯ แต่เราตีความต่างกัน ตนยื่นยันว่าพวกเราเห็นว่าประธานฯไม่มีอำนาจวินิจฉัยในเรื่องของเนื้อหาสาระของญัตติ

“ถ้าวันนี้พวกผมจะยอมปรับถ้อยคำในญัตติ ผมอยากได้ความชัดเจนว่าถ้าในวันประชุมจริง ท่านประธานฯต้องยึดตามข้อบังคับว่า การอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอกกระทำได้ และพวกตนพร้อมที่จะเป็นผู้รับผิดรับชอบต่อการกระทำนั้นเองโดยที่ประธานจะไม่ใช้อำนาจของประธานในการขัดขวางการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ ​ชี้แจงว่า ตนก็เคยใช้วาจาอย่างนี้ และเคยใช้ในสภาฯนี้ อาจจะคราวที่แล้ว โดยตนบอกจะรับผิดชอบเอง หากเอ่ยชื่อบุคคลภายนอกถ้าเขาฟ้อง แต่ประธานก็บอกว่าไม่ได้เพราะพูดในสภาฯ ประธานที่ประชุมต้องรับผิดชอบในเรื่องกติกา และข้อบังคับ แต่ไม่ได้รับผิดชอบในเรื่องที่เขาจะฟ้องใคร ถ้าประธานปล่อยให้มีการประท้วงโดยที่ผู้พูดและผู้ประท้วงบอกว่ารับผิดชอบแล้วประธานมาทำหน้าที่อะไร ทั้งที่มีหน้าที่ในการรักษาความเรียบร้อยในที่ประชุมซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับเพราะฉะนั้นขอความกรุณา แต่ถ้าท่านพูดไปแล้วไม่มีคนประท้วงประธานก็อาจจะปล่อยได้แต่ถ้ามีผู้ประท้วงประธานต้องวินิจฉัยข้อบังคับ จะมาบอกล่วงหน้าว่าประธานให้สัญญาได้หรือไม่ ว่าจะไม่ห้ามเมื่อพูดแล้วจะรับผิดชอบเองถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวนอกห้องประชุมก็พูดได้แต่ในห้องประชุมประธานต้องทำหน้าที่ดูแลควบคุมการประชุมให้เกิดความเรียบร้อย เพราะฉะนั้นประธานต้องทักทวงได้ จะไปบอกล่วงหน้าไม่ได้ เพราะไม่ใช่นายณัฐพงศ์คนเดียวที่พูด อาจจะมีสมาชิกคนอื่นหรือรัฐมนตรีทำผิดกติกาข้อบังคับก็ได้ นายกฯทำเองตนก็ต้องทักท้วง

“ผมขอเรียนด้วยความสุจริตใจว่าเราจะให้คนใดคนหนึ่งหรือพูดล่วงหน้าไม่ได้เพราะกติกาข้อบังคับมีหลายข้อขอความกรุณา เมื่อท่านบอกว่ายินดีจะแก้ญัตติก็ขอให้แก้อยู่ในกติกา และผมไม่ใช่คนแรกที่ให้มีการแก้จะติผมอยู่ในสภานี้มา 40 ปีสมัยที่ท่านชวน เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนั้นนายอุทัย พิมพ์ใจชน เป็นประธานสภาฯ ท่านก็ขอ ให้ผู้ยื่นญัตติคือท่านชวนกับคณะไปแก้ไข ซึ่งท่านชวนก็ไม่ได้เห็นด้วยว่าญัตติของท่านบกพร่อง แต่เพื่อให้ความร่วมมือการอภิปรายดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ท่านก็แก้ไขในบางส่วน สุดท้ายการประชุมก็ดำเนินไปด้วยดีประชุมของสภาเราจะเอาความเห็นส่วนตัวฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้แต่ในที่สุดต้องร่วมมือกันเพื่อให้การประชุมดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยสุดท้ายเราก็มีการลงมติและประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ยืนยันว่าผมไม่มีอคติ หากนายณัฐพงศ์จะแก้ญัตติก็ยินดีเพื่อให้ความร่วมมือ เป็นไปไม่ได้ถ้าเราจะดำเนินการอะไรโดยไม่มีความร่วมมือไม่ได้มีใครแพ้ใครชนะ ผู้ชนะคือประชาชน” ประธานสภาฯ กล่าว

ส่วนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นเสนอว่าให้ประธานใช้ข้อบังคับที่176 สามารถอนุญาตให้นายกฯและรัฐมนตรี เอาบุคคลภายนอกเข้ามาชี้แจงได้เพื่อความสบายใจและเพื่อความเป็นธรรมของนายทักษิณ ประธานฯ ก็แค่ทำหนังสือถึงนายกฯว่า อนุญาตให้นายกฯพาบิดาเข้ามานั่งชี้แจงร่วมด้วยอันนี้ก็จะเป็นความเป็นธรรมของทั้งนายกฯและบิดาของนายกฯที่ชื่อนายทักษิณด้วย

นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ไม่ได้หมายความว่าตนระแวง หวาดกลัวสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ตนไม่เคยระแวงและไม่ได้หวาดกลัวถ้าเราปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและข้อบังคับ

ขณะที่นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงหลังถูกพาดพิงว่า ขออธิบายสิ่งที่นายวันมูหะมัดนอร์พาดพิงถึงในญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยตอนที่ตนเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในปีนั้นมีการขอให้แก้ไขถ้อยคำในญัตติไม่ได้เกี่ยวกับชื่อบุคคลใด โดยถ้อยคำที่มีการขอให้แก้ไขคือญัตติที่ระบุว่ารัฐบาลกดขี่ข่มเหงข้าราชการ ซึ่งความจริงแล้วถ้อยคำนี้ไม่ควรต้องแก้ไข แต่ขณะนั้นรัฐบาลกลัวฝ่ายค้านมาก ชนิดที่ว่าต้องเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรมาสู้กับตน แต่เราก็ทำหน้าที่ของเราไปตามปกติ

ทั้งนี้ เห็นว่าเมื่อประธานสภาฯ ได้ขอให้แก้ไขคำว่า“กดขี่ข่มเหงราชการ” ให้เป็นอย่างอื่น เราจึงแก้เป็น “รัฐบาลชอบอำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงรังแกประชาชน” แก้แล้วหนักกว่าเดิม แต่ประธานสภาฯ ไม่สามารถให้แก้เป็นครั้งที่ 2 ได้ ทำให้การอภิปรายในวันนั้นอภิปรายไปทั้งข้อความกดขี่ข่มเหงราชการและข้อความที่แก้ไขใหม่ ขอย้ำว่าไม่ได้เกี่ยวกับชื่อบุคคล

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ต่อไปนี้ถ้าประธานฯมีการใช้ดุลพินิจว่าห้ามใส่ชื่อบุคคลภายนอกแบบนี้ ต่อไปเราก็จะได้ทราบว่าเป็นบรรทัดฐานของการใช้อำนาจของประธานฯแบบนี้ เพราะหลังจากที่เกิดเรื่องนี้ ตนได้ไปค้นคว้ากว่า 40 ปี ตั้งแต่มีสภาฯมา พบว่ามีหลายครั้งที่มีการพาดพิงบุคคลภายนอก และต้องตั้งคำถามว่าหากต่อไปนี้ท่านประธานฯบอกว่าควรจะมีการถอดชื่อโดยอ้างอิงถึงความบกพร่อง ซึ่งในมุมของพวกเราความบกพร่องต้องเป็นความบกพร่องในรูปแบบ เช่น ลายเซ็นไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นแบบนี้เราพร้อมน้อมรับ แต่เมื่อประธานบอกว่าความบกพร่องเป็นการใส่ชื่อบุคคลภายนอก เราคงต้องยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้ดุลพินิจแบบนี้ และอยากให้เป็นมาตรฐานแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ส่วนหนังสือที่ส่งมาที่ผู้นำฝ่ายค้าน แล้วปรากฏว่าเกิน 7 วัน นั่นคือวันที่ 8 มี.ค.ในแง่นี้มีการอ้างข้อบกพร่องตามข้อบังคับ ต้องภายใน 7 วันนั้นจะวินิจฉัยเรื่องนี้อย่างไร

นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า เรื่องมาตรา 151 เป็นเรื่องสส.กับรัฐบาล และครม. ก็ต้องดำเนินไปตามกติกาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม เรื่องจำนวนวัน ตนได้ถามหลายฝ่าย หลักคือไม่ต้องการให้สภาฯยืดเยื้อซึ่งทางเจ้าหน้าที่กองการประชุม และฝ่ายกฎหมายก็ได้ชี้แจงแล้ว ยืนยันว่าในวันที่ 6 มี.ค.ตนได้เชิญผู้นำฝ่ายค้านฯ ไปคุยที่ห้องของตนแล้วบอกว่ามีข้อบกพร่องขอให้รับไปแก้ไข ผู้นำฝ่ายค้านจึงบอกว่าขอไปหารือก่อน ตนคิดว่าการแจ้งด้วยวาจาชัดเจนกว่าด้วยซ้ำ และเถียงกันถือว่าเล็กมากประเด็นใหญ่คือทำอย่างไรเราจะได้อภิปราย และถ้าตนทำผิดก็ยินดีให้ดำเนินการตามมาตรา 157 ได้ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ จะมีการหารือกันอีกครั้งในช่วงบ่าย

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • ‘ธรรมนัส’ปัดคุยการเมือง‘ทักษิณ’ที่บ้านพิษณุโลก ไม่ห่วงถูกร้อง เหตุเชิญไปในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ‘ธรรมนัส’ปัดคุยการเมือง‘ทักษิณ’ที่บ้านพิษณุโลก ไม่ห่วงถูกร้อง เหตุเชิญไปในฐานะผู้เชี่ยวชาญ
  • อะไรนะ!‘ดิเรกฤทธิ์’งงคำแก้ตัว‘พ่ออิ๊งค์’ที่จะช่วยให้‘นายกฯ’ชนะคดีคลิปเสียงหลุด อะไรนะ!‘ดิเรกฤทธิ์’งงคำแก้ตัว‘พ่ออิ๊งค์’ที่จะช่วยให้‘นายกฯ’ชนะคดีคลิปเสียงหลุด
  • ภาพมันฟ้อง! ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ถามดังๆ‘ทักษิณ’ร่วมประชุมทีมไทยแลนด์ได้อย่างไร ภาพมันฟ้อง! ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ถามดังๆ‘ทักษิณ’ร่วมประชุมทีมไทยแลนด์ได้อย่างไร
  • เปิดหน้า สทร.! สะท้อน‘ทักษิณ’ล้างมือการเมืองไม่ได้ ต่อไปคงไปโผล่ทำเนียบฯ เปิดหน้า สทร.! สะท้อน‘ทักษิณ’ล้างมือการเมืองไม่ได้ ต่อไปคงไปโผล่ทำเนียบฯ
  • อดีตผู้พิพากษาเลคเชอร์ 6 ข้อ ‘ทักษิณ’ทำอย่างน้อย 4 ครั้ง เสี่ยงครอบงำ-‘พท.’อาจถูกยุบพรรค อดีตผู้พิพากษาเลคเชอร์ 6 ข้อ ‘ทักษิณ’ทำอย่างน้อย 4 ครั้ง เสี่ยงครอบงำ-‘พท.’อาจถูกยุบพรรค
  •  

Breaking News

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้

รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.

'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved